กลยุทธ์ลงทุนโค้งสุดท้าย เซียนหุ้นถือเงินสด 90 %
ช่วงกลางเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์”ฐานเศรษฐกิจ” ร่วมกับบริษัท ซุปเปอร์ เทรดเดอร์ จำกัด ได้จัดเสวนาเรื่อง”กลยุทธ์ลงทุนโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 “ วิทยากรประกอบด้วย นายวัชระ แก้วสว่าง หรือเสี่ยป๋อง นักลงทุนรายใหญ่ นายกระทรวง จารุศิระ หรือซัน ประธานกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เทรดเดอร์ จำกัด และเจ้าพ่อวงการเดย์เทรดหรือเก็งกำไรรายวัน และนายประกิต สิริวัฒนเกตุ นักวิเคราะห์เทคนิคและนักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย จำกัด(มหาชน)
เริ่มที่”ประกิต” ในฐานะนักวิเคราะห์ คาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นไตรมาส 4 ว่า จะเป็นไตรมาสที่มีความผันผวนสูง จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(เฟด) จะค่อย ๆปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะคาดว่าทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าแน่นอน ถ้าโดนัลทรัมป์ เป็นผู้ชนะ เงินจะไหลกลับสหรัฐฯเร็ว แต่ถ้าฮิลลาลี คลินตัน ชนะเงินจะไหลออกไม่แรง
อย่างไรก็ดีหากเศรษฐกิจสหรัฐฯดี จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไต้หวัน ญี่ปุ่น ดีตามไปด้วย สำหรับประเทศไทยอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นยาก ดังนั้นจะทำให้เงินไหลออก
ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2559 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)คาดว่าภาพรวมจะออกมาดี ขณะที่มองว่าไตรมาส 4 หุ้นกลุ่มบิ๊กแคปน่าจะช่วยประคองภาพรวมตลาดได้ บล.กสิกรไทย คาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดสิ้นปี 2559 ที่ 1,530 จุด
[caption id="attachment_108966" align="aligncenter" width="500"]
กลยุทธ์ลงทุนโค้งสุดท้ายไตรมาส 4[/caption]
ในฐานะนักกลยุทธ์การลงทุน “ประกิต”แนะนำการจัดพอร์ต ว่า ให้ลงทุนในหุ้นเพียง 5 ตัว ตัวละ 20 % ของเงินลงทุน เพื่อง่ายต่อการดูแล ติดตามและศึกษาข้อมูล กรณีที่ต้องการลดน้ำหนักการลงทุนก็ให้ลดน้ำหนักหรือขายออก 4 ตัว เหลือติดพอร์ตไว้แค่ตัวเดียว
ส่วนกลยุทธ์ในการเข้า- ออก ให้อ่านภาพรวมตลาดให้ออก ถ้าตลาดดีก็จัดเต็ม หรือลงทุนเต็มพอร์ต 5 ตัว และควรเริ่มต้นซื้อทีละน้อย ๆ หรือเริ่มที่หุ้นตัวเดียว หรือค่อย ๆเก็บหุ้นไปเรื่อย ๆ
มาที่มุมมองของ”เสี่ยป๋อง” เซียนหุ้นชื่อดัง ที่ปัจจุบันเจ้าตัวบอกว่ามีพอร์ตประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยสารภาพว่าตลาดหุ้นไตรมาส 4 ดูไม่ออกเลยเป็นช่วงที่ยาก มีปัจจัยหลายอย่างที่น่ากังวล ดังนั้นไตรมาส 4 เขาจึงตัดสินใจถือเงินสด 90 % นั่นหมายความว่าลงทุนในหุ้นเพียง 10 %
“ผมไม่กลัวซื้อของแพง สนุกดี แต่ภาวะแบบนี้ไม่รู้ว่าจะเล่นหุ้นอย่างไร พอหุ้นขาขึ้นผมก็มีหุ้นเต็มพอร์ตยามที่หุ้นเป็นขาก็จะขายออก ผมจะซื้อหุ้นแต่ละตัวไม่เกิน 1 % ของทุนจดทะเบียน กรณีเจ้าของบริษัทซื้อหุ้นตัวเองก็ถือว่าเป็นผลดีกับผม แต่เวลาที่เจ้าของโอนหุ้นออก ผมก็เสียว เวลาโอนไปแล้วขายให้ใครก็ไม่รู้”
สำหรับหุ้นแนะนำลงทุนโค้งท้ายปี 2559 คือ กลุ่มที่อิงกับราคาน้ำมัน
กฏเหล็กที่ “เสี่ยป๋อง” แนะว่านักลงทุนควรท่องให้ขึ้นใจ คือ “อย่าโลภ” ซึ่งเป็นหลักการลงทุนที่เซียนหุ้นรุ่นใหญ่รายนี้ยึดมาตลอด
“หากเห็นหุ้นทรงไม่ดีต้องกล้าคัท (ขายตัดขาดทุน) ในโลกการลงทุน ทุกอย่างคือ กำไร- ขาดทุน การลงทุนโดยใช้อารมณ์ส่วนตัวเหนือเหตุผลอาจทำให้ขาดทุนได้ ดังนั้นต้องกล้าคัทลอส”
“เสี่ยป๋อง”แนะนำหลักการลงทุนว่า ถ้าพอร์ตหลักล้านบาท ไม่ควรถือหุ้นเกิน 5 ตัว และให้ค่อยๆซื้อทีละตัว นอกจากนี้อย่าปล่อยให้หุ้นที่มีกำไรพลิกมาเป็นขาดทุนเพราะพอร์ตจะเสียหาย
ปิดท้ายที่”กระทรวง” หรือซัน กล่าวว่า ในมุมมองของเทรดเดอร์ หรือซื้อขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น และภาวะตลาดช่วงนี้เขาจะไม่ทำอะไร แต่สำหรับคนที่ต้องการเทรด แนะนำว่าเทรดเดอร์ ต้องมีเงินเผื่อเทรดบ้าง เพราะไม่มีใครคาดเดาทิศทางตลาดหุ้นได้
“สำหรับผมไม่จำเป็นต้องมาหากำไรในทุกสภาวะตลาดก็ได้ และพอร์ตส่วนตัวผมถือเงินสด 90 % ตั้งแต่ก่อนเดือนกันยายน 2559 ”
ภายใต้สถานการณ์ที่กล่าวข้างต้น เทรดเดอร์รายนี้จึงแนะนำให้เลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี โดยพยายามสังเกตุหุ้นที่กำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS ) โต 10-20 % ต่อปี วิธีการดู คือ ให้เทียบไตรมาสต่อไตรมาส เช่น ไตรมาส 1/2559 เทียบกับไตรมาส 4/2558 เป็นต้น และจับปัจจัยเทคนิคในการขาย ส่วนเป้าหมายการทำกำไร การได้ผลตอบแทน 15 % ต่อปี ถือว่าดีแล้ว
เทรดเดอร์ชื่อดัง สอนอีกว่า การส่งข่าวผ่านช่องทางไลน์ ใบ้หุ้นทั้งหลายควรหลีกเลี่ยง เพราะผู้ปล่อยข่าวมีเป้าหมายให้รับของหรือซื้อหุ้นต่อจากเขา พร้อมเตือนว่าเวลาได้กำไรอย่าฮึกเหิม เช่นกันเวลาเสีย(ขาดทุน)ก็อย่าพาล
“เวลาได้ ต้องดูว่าได้เพราะฟลุค หรือได้เพราะฝีมือ ถ้าได้เพราะฝีมือแล้วจึงค่อยดีใจ หลายคนพอพอร์ตระเบิด (ขาดทุน)ก็โทษว่าตลาดห่วย”
สุดท้ายนี้”กระทรวง”แนะนำนักลงทุนมือใหม่ว่า ให้จดบันทึกการลงทุนทุกวัน เช่น ได้กำไรเพราะอะไร ขาดทุนเพราะอะไร เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อจะได้ปรับปรุงตัวเอง ในครั้งต่อๆไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,204 วันที่ 27 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559
เริ่มที่”ประกิต” ในฐานะนักวิเคราะห์ คาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นไตรมาส 4 ว่า จะเป็นไตรมาสที่มีความผันผวนสูง จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(เฟด) จะค่อย ๆปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะคาดว่าทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าแน่นอน ถ้าโดนัลทรัมป์ เป็นผู้ชนะ เงินจะไหลกลับสหรัฐฯเร็ว แต่ถ้าฮิลลาลี คลินตัน ชนะเงินจะไหลออกไม่แรง
อย่างไรก็ดีหากเศรษฐกิจสหรัฐฯดี จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไต้หวัน ญี่ปุ่น ดีตามไปด้วย สำหรับประเทศไทยอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นยาก ดังนั้นจะทำให้เงินไหลออก
ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2559 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)คาดว่าภาพรวมจะออกมาดี ขณะที่มองว่าไตรมาส 4 หุ้นกลุ่มบิ๊กแคปน่าจะช่วยประคองภาพรวมตลาดได้ บล.กสิกรไทย คาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดสิ้นปี 2559 ที่ 1,530 จุด
[caption id="attachment_108966" align="aligncenter" width="500"]
ในฐานะนักกลยุทธ์การลงทุน “ประกิต”แนะนำการจัดพอร์ต ว่า ให้ลงทุนในหุ้นเพียง 5 ตัว ตัวละ 20 % ของเงินลงทุน เพื่อง่ายต่อการดูแล ติดตามและศึกษาข้อมูล กรณีที่ต้องการลดน้ำหนักการลงทุนก็ให้ลดน้ำหนักหรือขายออก 4 ตัว เหลือติดพอร์ตไว้แค่ตัวเดียว
ส่วนกลยุทธ์ในการเข้า- ออก ให้อ่านภาพรวมตลาดให้ออก ถ้าตลาดดีก็จัดเต็ม หรือลงทุนเต็มพอร์ต 5 ตัว และควรเริ่มต้นซื้อทีละน้อย ๆ หรือเริ่มที่หุ้นตัวเดียว หรือค่อย ๆเก็บหุ้นไปเรื่อย ๆ
มาที่มุมมองของ”เสี่ยป๋อง” เซียนหุ้นชื่อดัง ที่ปัจจุบันเจ้าตัวบอกว่ามีพอร์ตประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยสารภาพว่าตลาดหุ้นไตรมาส 4 ดูไม่ออกเลยเป็นช่วงที่ยาก มีปัจจัยหลายอย่างที่น่ากังวล ดังนั้นไตรมาส 4 เขาจึงตัดสินใจถือเงินสด 90 % นั่นหมายความว่าลงทุนในหุ้นเพียง 10 %
“ผมไม่กลัวซื้อของแพง สนุกดี แต่ภาวะแบบนี้ไม่รู้ว่าจะเล่นหุ้นอย่างไร พอหุ้นขาขึ้นผมก็มีหุ้นเต็มพอร์ตยามที่หุ้นเป็นขาก็จะขายออก ผมจะซื้อหุ้นแต่ละตัวไม่เกิน 1 % ของทุนจดทะเบียน กรณีเจ้าของบริษัทซื้อหุ้นตัวเองก็ถือว่าเป็นผลดีกับผม แต่เวลาที่เจ้าของโอนหุ้นออก ผมก็เสียว เวลาโอนไปแล้วขายให้ใครก็ไม่รู้”
สำหรับหุ้นแนะนำลงทุนโค้งท้ายปี 2559 คือ กลุ่มที่อิงกับราคาน้ำมัน
กฏเหล็กที่ “เสี่ยป๋อง” แนะว่านักลงทุนควรท่องให้ขึ้นใจ คือ “อย่าโลภ” ซึ่งเป็นหลักการลงทุนที่เซียนหุ้นรุ่นใหญ่รายนี้ยึดมาตลอด
“หากเห็นหุ้นทรงไม่ดีต้องกล้าคัท (ขายตัดขาดทุน) ในโลกการลงทุน ทุกอย่างคือ กำไร- ขาดทุน การลงทุนโดยใช้อารมณ์ส่วนตัวเหนือเหตุผลอาจทำให้ขาดทุนได้ ดังนั้นต้องกล้าคัทลอส”
“เสี่ยป๋อง”แนะนำหลักการลงทุนว่า ถ้าพอร์ตหลักล้านบาท ไม่ควรถือหุ้นเกิน 5 ตัว และให้ค่อยๆซื้อทีละตัว นอกจากนี้อย่าปล่อยให้หุ้นที่มีกำไรพลิกมาเป็นขาดทุนเพราะพอร์ตจะเสียหาย
ปิดท้ายที่”กระทรวง” หรือซัน กล่าวว่า ในมุมมองของเทรดเดอร์ หรือซื้อขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น และภาวะตลาดช่วงนี้เขาจะไม่ทำอะไร แต่สำหรับคนที่ต้องการเทรด แนะนำว่าเทรดเดอร์ ต้องมีเงินเผื่อเทรดบ้าง เพราะไม่มีใครคาดเดาทิศทางตลาดหุ้นได้
“สำหรับผมไม่จำเป็นต้องมาหากำไรในทุกสภาวะตลาดก็ได้ และพอร์ตส่วนตัวผมถือเงินสด 90 % ตั้งแต่ก่อนเดือนกันยายน 2559 ”
ภายใต้สถานการณ์ที่กล่าวข้างต้น เทรดเดอร์รายนี้จึงแนะนำให้เลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี โดยพยายามสังเกตุหุ้นที่กำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS ) โต 10-20 % ต่อปี วิธีการดู คือ ให้เทียบไตรมาสต่อไตรมาส เช่น ไตรมาส 1/2559 เทียบกับไตรมาส 4/2558 เป็นต้น และจับปัจจัยเทคนิคในการขาย ส่วนเป้าหมายการทำกำไร การได้ผลตอบแทน 15 % ต่อปี ถือว่าดีแล้ว
เทรดเดอร์ชื่อดัง สอนอีกว่า การส่งข่าวผ่านช่องทางไลน์ ใบ้หุ้นทั้งหลายควรหลีกเลี่ยง เพราะผู้ปล่อยข่าวมีเป้าหมายให้รับของหรือซื้อหุ้นต่อจากเขา พร้อมเตือนว่าเวลาได้กำไรอย่าฮึกเหิม เช่นกันเวลาเสีย(ขาดทุน)ก็อย่าพาล
“เวลาได้ ต้องดูว่าได้เพราะฟลุค หรือได้เพราะฝีมือ ถ้าได้เพราะฝีมือแล้วจึงค่อยดีใจ หลายคนพอพอร์ตระเบิด (ขาดทุน)ก็โทษว่าตลาดห่วย”
สุดท้ายนี้”กระทรวง”แนะนำนักลงทุนมือใหม่ว่า ให้จดบันทึกการลงทุนทุกวัน เช่น ได้กำไรเพราะอะไร ขาดทุนเพราะอะไร เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อจะได้ปรับปรุงตัวเอง ในครั้งต่อๆไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,204 วันที่ 27 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559