เรือด่วน-ขบ.-บขส.พร้อมรับมือ คลื่นมหาชนถวายบังคมพระบรมศพ/กทม.วอนใช้รถสาธารณะ

28 ต.ค. 2559 | 10:00 น.
เรือด่วนเจ้าพระยาปรับแผนรับมือคลื่นประชาชนใช้บริการทางเรือเข้าสู่สนามหลวงเตรียมเรือขนาดใหญ่14 ลำจุ 200 คนต่อลำออกเสริม หลังทดสอบสถานการณ์ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ยันรับมือไหว ส่วนบขส.เริ่ม 25 ต.ค. เปิด 3 สถานีขนส่งรับรถตู้กทม.-ตจว.อย่างเป็นทางการรองรับได้กว่า 4,000 คัน ล่าสุดกทม. พลิกแผนหลังมีคำสั่งเลื่อนถวายบังคมพระบรมศพ เป็น 29 ต.ค. เน้นให้เดินทางด้วยรถสาธารณะและ Shuttle Bus

น.ท.ปริญญา รักวาทิน ประธานกรรมการ บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ช่วงวันที่ 29-30 ตุลาคม นี้ว่าได้จัดเรือ 55 ลำให้บริการในเส้นทางปกติเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น.-21.00 น.โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ผู้ขับเรือทั้ง 70 คนหมุนเวียนกันปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนั้นได้จัดเรือขนาดใหญ่ที่บรรจุผู้โดยสารได้ลำละ 200-250 คนจำนวน 14 ลำเตรียมออกให้บริการเสริมในจุดหลัก ๆ เพิ่ม

“เส้นทางปกติตั้งแต่ท่าสาทรจนถึงนนทบุรียังให้บริการตามปกติ โดยเฉพาะท่าหลักใกล้สนามหลวง อาทิ ท่าปากคลองตลาด ท่าช้าง ท่าพระจันทร์ ท่าพรานนก จะมีปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มอย่างเห็นได้ชัด แต่ท่าอื่นๆช่วงเช้า-เย็นจะเพิ่มไม่มากนัก ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มก็เริ่มเบาบางลงไป แต่คาดว่าช่วงวันที่ 28-30 ตุลาคมนี้ยังรับมือไหวเนื่องจากทางสำนักพระราชวังกำหนดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพจำนวนวันละ 4 หมื่นคนเท่านั้น อีกทั้งระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆยังมีให้บริการจำนวนมากน่าจะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการได้ตามระยะเวลาที่กำหนด”

ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป รถตู้โดยสารสาธารณะหมวด 2 ที่วิ่งให้บริการเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร ต้องเข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งจตุจักร (หมอชิต)สถานีขนส่งสายใต้ (ปิ่นเกล้า) และสถานีขนส่งเอกมัย เป็นจุดจอดรับส่งผู้โดยสาร

ด้านพล.ต.อ. อำนาจ อันอาตม์งาม รักษาการ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ขนส่ง จำกัด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา จำนวนผู้โดยสารเดินทางเที่ยวจาก กรุงเทพฯไปต่างจังหวัดราว 1.23 แสน คนและเที่ยวกลับจาก ต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ ประมาณเกือบ 1.25 แสน คน รวมไป-กลับ เกือบ 2.5 แสนคน ในภาพรวมแล้วการรองรับเพียงพอ ส่วนเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมบขส.จัดรถรองรับเพิ่มขึ้นจากเที่ยวปกติ 25 % รวมประมาณ 7,500 เที่ยวสามารถรองรับผู้ใช้บริการได้ประมาณกว่า 1.5 แสนคน นอกจากนั้นตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นวันแรกของการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ที่ให้เข้าใช้จุดจอดที่สถานีขนส่งฯ จตุจักร ,เอกมัยและสายใต้ (ปิ่นเกล้า) ตามนโยบาย คสช. คาดว่าจะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้อย่างเพียงพอ

“บขส. ได้จัดเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับรถตู้เข้าใช้ในพื้นที่พร้อมทุกด้านแล้ว มีจุดจอดรอ จุดพักคอยสำหรับรถตู้รองรับเพียงพอ โดยสถานีขนส่งจตุจักรรองรับจำนวนรถได้ 2,046 คัน สถานีขนส่งสายใต้ (ปิ่นเกล้า) รองรับได้ 1,617 คัน และสถานีขนส่งเอกมัยรองรับได้ 542 คัน รวม 4,205 คัน โดยจัดจุดจอดแบ่งตามเกาะต่างๆ เหมือนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพื่อความคุ้นชินของผู้โดยสาร และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ขสมก. ได้จัดรถ Shuttle bus วิ่งให้บริการรับส่งฟรี ในเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 แห่ง อย่างเพียงพอ พร้อมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วม 4 จุด คือที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 แห่งและที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อร่วมติดตามประเมินผลการให้บริการเป็นประจำทุกวัน ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ ต้องจอดให้บริการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารประจำจังหวัดด้วย หรือสถานที่ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดจัดไว้ให้ใช้เป็นจุดบริการ”

ด้านนางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอ.รส.)ว่า ที่ประชุม กอ.รส. แจ้งประกาศเลื่อนการเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากเดิมช่วงบ่ายของวันที่ 28 ตุลาคม 2559 เปลี่ยนแปลงเป็นวันที่ 29 ตุลาคม 2559 สำหรับระหว่างวันนี้ – 28 ตุลาคม 2559 ขอให้ประชาชนรับบัตรคิวที่จุดแจกบัตรคิวบริเวณกลางสนามหลวง เป็นรอบๆ ละ 100 คน วันละประมาณ 4 หมื่น คน ส่วนตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไปคาดว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพได้ขั้นต้นวันละประมาณ 1หมื่นคน

ด้านนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวขอความร่วมมือประชาชนให้เดินทางมาท้องสนามหลวงด้วยระบบขนส่งมวลชน ซึ่งมีจุดหลักที่บริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ กองสลากเดิม ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า และกรมการรักษาดินแดน(สวนเจ้าเชตุ) ซึ่งกทม. ได้จัดรถ Shuttle Bus รับส่งไว้แล้ว ปัจจุบันไม่อนุญาตให้รถทั่วไปจอดในพื้นที่สนามหลวง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,204 วันที่ 27 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559