ศตส.เตรียมพร้อมรับคลื่นมหาชนเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ 29 ต.ค.เป็นต้นไป

27 ต.ค. 2559 | 01:20 น.
ศตส. เตรียมความพร้อมดูแลประชาชนที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในทุกๆด้าน

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2559  ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (หรือ ศตส.) แถลงภายหลังการประชุมว่า ศตส. ได้ประเมินสถานการณ์ในช่วงที่จะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะดูแลประชาขนให้เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด และยังไม่มีการกำหนดวันสิ้นสุดที่จะให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพว่าจะเป็นวันใด

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 29 - 31 ต.ค. ศตส. ประเมินว่า ประชาชนจะเดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ เป็นจำนวนมาก จึงจะมีการปิดการจราจรโดยรอบท้องสนามหลวง และพระบรมมหาราชวัง เชื่อมต่อถนนราชดำเนิน ถนนหลานหลวง และแยกอรุณอัมรินทร์ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ส่วนรอบนอกจะปิดตามแยกหลัก โดยจะมีรถ ขสมก. อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้ามายังพื้นที่ และไม่อนุญาตให้รถส่วนตัวเข้ามาเด็ดขาด ซึ่งจะปรับจุดรถรับ - ส่ง ให้ห่างกันเล็กน้อย เพื่อให้การจราจรไหลลื่น เพราะที่ผ่านมามีปัญหารถไม่สามารถวนออกไปรับที่ต้นทางได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับการจัดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ จะใช้ระบบรับบัตรคิว มีจุดพักคอย ซึ่งเบื้องต้น ศตส. ประเมินว่าจะมีประชาชนสามารถเข้าไปถวายสักการะภายในพระบรมมหาราชวังได้ประมาณ 10,000 คน และขอให้ประชาชนไม่ต้องเร่งรีบเดินทางเข้ามาในช่วงแรก ขอให้ทยอยเดินทางเข้ามา เพราะยังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะอีกเป็นเวลานาน โดย ศตส.จะประเมินสถานการณ์รายวัน และหากสามารถปรับเพิ่มจำนวนประชาชนให้เข้าไปได้มากขึ้น ก็จะปรับเพิ่มตามสถานการณ์

ส่วนจุดบริการด้านการแพทย์ ยังจัดให้บริการเช่นเดิม แต่จะปรับให้อำนวยความสะดวกประชาชนให้มากขึ้น มีทีมอาสากู้ชีพเดินเท้า โรงพยาบาลสนาม มีการให้บริการยา สำหรับประชาชนที่มีโรคประจำตัวและลืมพกยามา สามารถไปรับยาที่จุดบริการได้ และขอให้ประชาชนที่มีโรคประจำตัว รับประทานยาและดูแลตัวเองเบื้องต้นมาให้เรียบร้อยก่อน หากกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน มีแผนส่งตัวผู้ป่วยทั้งทางบก และทางเรือไปยังโรงพยาบาลศิริราชและวชิระพยาบาลส่วนจุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม ขอให้ประชาชนนำอาหารสำเร็จรูป อาหารแห้งมาแจกจ่าย และจะให้จุดบริการกระทรวงเพิ่มการแจกจ่าย เช่น ยาดม ยาหม่อง ร่ม เป็นต้น และเพื่อป้องกันการพลัดหลงของเด็ก จะมีการแจกสายรีสแบนด์ โดยให้ผู้ปกครองเขียนชื่อใส่เบอร์โทรผู้ปกครองที่สามารถติดต่อได้

ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ตุลาคม นี้ ทางกระทรวงคมนาคม เตรียมทดลองให้บริการเรือ ที่จุผู้โดยสารประมาณ 400 คน จากท่าเรือสาธร มายังท่าช้าง ก่อนเปิดให้บริการในวันที่ 29 ตุลาคม และจะประเมินทดลองเดินเรือในท่าอื่น ๆ อีกต่อไป โดยวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือ วัดพระแก้ว ภายในพระบรมมหาราชวังตามปกติ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะจัดประชุมผู้ประกอบการ บริษัทท่องเที่ยวและไกด์เพื่อทำความเข้าใจและแจ้งจุดจอดรถทัวร์ที่มีมากถึง 200 คัน จะยังคงให้จอดส่งนักท่องเที่ยวที่บริเวณสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม และโรงแรมรัตนโกสินทร์ พร้อมจอดในจุดที่ตำรวจจราจรจัดไว้ให้ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะเข้าประตูวิเศษไชยศรี ระหว่างเวลา 08.00 - 16.00 น. ส่วนประชาชนจะเข้าถวายสักการะ พระบรมศพจะเดินทางเข้าที่ประตูมณีนพรัตน์ ในส่วนกรณีประชาชนที่ต้องพักค้างคืนสามารถพักเพิ่มเติมได้ที่สนามม้านางเลิ้ง เปิดให้พักได้ ถึง 200 คน นอกเหนือจากบ้านพักอุ่นใจและสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง