คุมเข้มห้ามขนส่งนํ้ามันทางท่อ ปิดด่านแม่สอดสูญ 1-2 ล.ลิตร/วัน

27 ต.ค. 2559 | 00:00 น.
สมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าภาคอีสานร้องเมียนมาปิดชายแดน หลังกรมธุรกิจพลังงานประกาศใช้กฎกระทรวงห้ามขนส่งน้ำมันทางท่อ “สุระชัย”ชี้เสียหายส่งออกน้ำมัน 1-2 ล้านลิตรต่อวัน โวย รมว.พลังงานสร้างความแตกแยก หยิบกฎหมายมาบังคับใช้โดยไม่สนใจผู้ซื้อ

นายสุระชัย กนกะปิณฑะ สมาชิกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าภาคอีสาน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากกรณีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ได้ออกกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2559 นี้ โดยจากนี้ไปจะห้ามการขนส่งน้ำมันผ่านท่อไปฝั่งเมียนมา จากปัจจุบันที่ดำเนินการบริเวณด้านแม่สอด จังหวัดตาก แต่จะต้องขนส่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ที่บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น ส่งผลให้ทางรัฐบาลกระเหรี่ยงไม่พอใจ และได้ปิดชายแดนเมียนมาแล้ว ทำให้เกิดความเสียหายในการขนส่งสินค้าไปยังเมียนมา

โดยที่ผ่านมาสมาคมฯ มีสมาชิก 14-15 ราย ขนส่งน้ำมันไปยังเมียนมา 60-80 แทลเลอร์ต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณ 1-2 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งที่ผ่านมาการขนส่งน้ำมันไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลกระเหรี่ยง จึงจำเป็นต้องขนถ่ายทางท่อที่ อ.แม่สอดแทน ประกอบกับที่ผ่านมาสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา มีความคับแคบ รถบรรทุกไม่สามารถเบียดข้ามไปได้มากนัก รวมทั้งยังไม่มีกฎหมายรองรับความปลอดภัยสำหรับรถบรรทุกที่ข้ามไปยังเขตเมียนมาด้วย

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่ากระทรวงพลังงานไม่ควรเข้าไปยุ่งกับกรณีนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีกรมศุลกากร และกรรมสรรพสามิต เป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว แต่กรมธุรกิจพลังงาน กลับหยิบยกกฎหมายโดยอ้างเรื่องการขนส่งน้ำมันนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตขึ้นมา โดยไม่ได้พิจารณาถึงหลักความเป็นจริงว่าเมียนมาประกอบไปด้วยรัฐหลายรัฐ โดยแต่ละรัฐมีการแบ่งเขตแบ่งช่องทางไว้อย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้น จะเห็นว่าที่ผ่านมามีสินค้าบางชนิดที่สามารถขนส่งผ่านสะพานได้ ขณะที่สินค้าบางชนิดจำเป็นต้องขนถ่ายข้ามท่อ ข้ามแม่น้ำเมยไป

นายสุรชัย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การปิดชายแดนเมียนมาในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ส่งออกของไทยอย่างมาก เพราะไม่สามารถส่งสินค้าทุกชนิดไปยังเมียนมาได้ ซึ่งสมาคมฯทราบเรื่องดังกล่าวก่อนหน้านี้ จึงสต๊อกสินค้าน้ำมันไปยังเมียนมาแล้ว สามารถใช้ได้เป็นระยะเวลา 3 วัน ดังนั้นหากปิดชายแดนเกิน 3 วัน เชื่อว่าทางเมียนมาจะนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่นแทนประเทศไทย ดังนั้น ย่อมทำให้ผู้ส่งออกของไทยสูญเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ได้ออกกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2559 นี้ โดยห้ามการขนส่งน้ำมันผ่านท่อไปฝั่งเมียนมา ตามที่เคยปฏิบัติมา รวมทั้งห้ามถ่ายใส่ถังทุกชนิด ทำให้ต้องขนส่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ที่บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น

โดยกฎกระทรวงดังกล่าว ทำให้ทหารกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ บีจีเอฟ ซึ่งมีพันเอกพิเศษหม่องชิตตู่ เป็นผู้บังคับการ ออกมาขู่จะปิดชายแดนด้านทิศเหนือซึ่งเป็นจุดขนถ่ายน้ำมันผ่านท่อ เนื่องจากที่ผ่านมาการขนถ่ายน้ำมันทั้งหมดซึ่งมีมูลค่ามหาศาล น้ำมันที่ส่งข้ามไปปีละประมาณ 120 ล้านลิตร เฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านลิตร จะถ่ายลงที่ท่าเรือที่ 10 ท่าเรือที่ 13 และท่าเรือที่ 21 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ควบคุมของทหาร บีจีเอฟ ของ พันเอกพิเศษหม่องชิตตู่ และเป็นรายได้หลักในการดูแลกองกำลังทั้งหมด หากเปลี่ยนเส้นทางไปส่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา รายได้จะตกกับทางการเมียนมาเท่านั้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการขนส่งน้ำมันทางรถบรรทุกไปยังเมียนมา ยังดำเนินการไม่ถูกต้อง โดยไม่ขนถ่ายน้ำมันในสถานที่ที่มีใบอนุญาต แต่ลักลอบขนถ่ายทางท่อข้ามน้ำไปยังฝั่งเมียนมา ซึ่งไม่มีความปลอดภัย ดังนั้นเชื่อว่าการออกกฎกระทรวงในครั้งนี้จะทำให้มีมาตรฐานการขนส่งน้ำมันทางรถบรรทุกมากขึ้น
นอกจากนี้หากผู้ประกอบการต้องการขนถ่ายน้ำมันในบริเวณพื้นที่แม่สอดผ่านทางท่ออย่างถูกกฎหมาย ก็ควรมาขอใบอนุญาตกรมเพื่อตั้งคลังเก็บน้ำมันในบริเวณดังกล่าว แล้วค่อยขนถ่ายไปยังฝั่งเมียนมาต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,204 วันที่ 27 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559