พ่อเมืองปราจีนบุรีน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพัฒนาปราจีนบุรีเมืองสมุนไพร สร้างความมั่งคั่งจากฐานภูมิปัญญา
วันที่ 26 ตุลาคม 2559 กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมมอบนโยบายแผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560-2564 และพิธีเปิดตัวโครงการพัฒนาเมืองสมุนไพร ณ ห้องประชุมโรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยในงานมี พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี โดยมี ผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วมรับฟังนโยบาย ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดในเมืองสมุนไพร 4 แห่ง ได้แก่ ปราจีนบุรี สกลนคร เชียงรายและสุราษฎร์ธานี โดยผู้บริหารทั้งสองกระทรวงมีเป้าหมายร่วมกันในการทำงานแบบบูรณาการเพื่อยกระดับการพัฒนาสมุนไพรให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อสุขภาพและเศรษฐกิจของคนไทย
นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี 1 ใน 4 เมืองสมุนไพร กล่าวว่า เมืองสมุนไพรเป็นหน่วยงานระดับพื้นที่ที่ทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาสมุนไพรอย่างเป็นระบบและครบวงจร โดยขณะนี้มีการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาดไทย เกษตร สาธารณสุข หรือแม้แต่ผู้ประกอบการก็มีส่วนร่วม เพราะเราตระหนักว่างานนี้เป็นของทุกคน ไม่เฉพาะภาครัฐ และหากทำได้จะสร้างให้เกิดความยั่งยืนในการพัฒนาให้กับคนในทั้งจังหวัด อีกทั้งยังเป็นโมเดลการพัฒนาสมุนไพรให้กับที่อื่นๆ ได้ด้วย โดยแนวทางการดำเนินงานนั้น เราได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของล้นเกล้า รัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ โดยสร้างให้ทุกคนมีความรู้ โดยเฉพาะรู้เรื่องภูมิปัญญาสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย มีคุณธรรม ทั้งผู้ประกอบการและข้าราชการต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ทำในสิ่งที่ตนเองมีความรู้ ความถนัด ซึ่งนับเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาเมืองสมุนไพรที่มีกิจกรรมหลากหลาย ตั้งแต่ปลูกสมุนไพร วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ การท่องเที่ยว การฝึกอบรมและสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนในการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะดำเนินได้ต้องอยู่บนพื้นฐานความรู้และคุณธรรมของผู้คน ส่วนในเรื่องความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันนั้นเราก็น้อมนำมาพัฒนาเป็นโครงการต่าง ๆ ที่หลากหลายเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของเมืองสมุนไพร”
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และเลขานุการคณะทำงานเมืองสมุนไพร กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเมืองสมุนไพรว่า จากการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นพบว่า เมืองสมุนไพรปราจีนบุรี จะสร้างให้เกิดผลตอบแทนต่อทั้งในระดับประเทศและในระดับจังหวัด โดยในระดับประเทศนั้นจะมีรูปแบบ การพัฒนาสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยครบวงจร เหมือนกับที่อภัยภูเบศรเคยทำ แต่ต่อไปจะขยายให้กว้างขึ้นเป็นระดับจังหวัดที่ทุกคนสามารถมาเรียนรู้ได้ ส่วนในระดับจังหวัดนั้นจะมีผลตอบแทนทางการเงินภายใน 5 ปี 39,357.10 ล้านบาท และคุณภาพของคนปราจีนบุรีและคนไทยที่มาใช้บริการการแพทย์แผนไทย แต่ผลกระทบที่มากกว่านั้นที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ คือ นวัตกรรม ความรู้ภูมิปัญญาที่นับวันจะงอกเงยจากการกินใช้และวิจัย ที่จะเป็นความยั่งยืนให้กับลูกหลานสืบไป”