29 ตุลารับคลื่นมหาชน คสช.-รัฐบาลวางแผนรองรับทุกมิติ มหาดไทยจัดคิววันละ 3,000 คน

26 ต.ค. 2559 | 07:00 น.
รัฐบาล-คสช.รัฐบาลวางแผนรับมือคลื่นมหาชนล้านจากทั่วทุกสารทิศที่จะเดินทางเข้ากทม. เพื่อถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง นับตั้งแต่วันที่ 29ต.ค. สั่งบริหารจัดการในทุกมิติทั้งอำนวยความสะดวกและการรักษาความปลอดภัย “บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะประชุมหน่วยงานรับมือ มหาดไทยจัดประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศเวียนเดินทางร่วมวันละ 3,000 คน คมนาคมพร้อมจัดจุดรองรับกองทัพรถบัส รถตู้ กทม.เข้มพร้อมดูแลจัดคนร่วมพิธีวันละ 4 หมื่น เชื่อ 84 วัน ทะลุ 3 ล้านคน

[caption id="attachment_108900" align="aligncenter" width="700"] ระเบียบการแต่งกายเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ระเบียบการแต่งกายเข้าถวายสักการะพระบรมศพ[/caption]

หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร(15 วัน) และพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ณ สำนักพระราชวังได้รับพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทได้ ตั้งแต่วันที่29 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. ทุกวัน ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ท่ามกลางความจดจ่อของประชาชนที่จะหลั่งไหลมุ่งสู่พระบรมมหาราชวังอีกครั้งนั้น

ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. เกี่ยวกับมาตรการรองรับประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมนี้ ว่า ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วม รวมถึงสั่งการให้ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์(ศตส.) ทำเนียบรัฐบาล โดยจะประชุมแผนบูรณาการร่วมกัน ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้เพื่อรองรับประชาชนที่มีมากขึ้นทุกวัน และเห็นได้ว่าการจัดระเบียบดีขึ้น ทั้งการรักษาความปลอดภัย นํ้า และขยะ

ส่วนการเตรียมงานพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี จัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะมีการประชุมครั้งแรกในเร็ว ๆ นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักพระราชวัง ที่ต้องหารายละเอียดก่อนจัดการประชุมขึ้น

 คสช.สั่งเตรียมรับมือทุกมิติ

ด้านพ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช.ได้ให้ความสำคัญต่อการเตรียมรับรองและอำนวยความสะดวกประชาชน โดยสั่งการให้กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) เตรียมบริหารจัดการในทุกมิติให้เกิดความเรียบร้อย สามารถรองรับคลื่นมหาชนได้อย่างเหมาะสม

สำหรับกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ในทุกจังหวัด ร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางเป็นส่วนรวม ตามที่กระทรวงมหาดไทย จัดลำดับการเดินทางของแต่ละจังหวัดไว้แล้ว โดยให้ กกล.รส.ในพื้นที่เข้าดูแลประชาชนตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการเดินทางให้มีความสะดวกและปลอดภัย เมื่อเข้าสู่ กทม.ทาง กกล.รส.กองทัพภาคที่ 1 จะรับช่วงจัดการพื้นที่จอดรถอำนวยความสะดวกการเชื่อมต่อรถเข้าสู่พื้นที่สนามหลวง รวมถึงให้คำแนะนำการปฏิบัติตน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะร่วมกันปฏิบัติงานในนามของรัฐบาล เพื่อดูแลให้ทุกกิจกรรมรอบพระมหาราชวังและสนามหลวง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เกิดภาพลักษณ์ที่ดี และที่สำคัญให้ประชาชนได้รับความสะดวก และสามารถเข้ากราบสักการะพระบรมศพตามที่ตั้งใจไว้อย่างดีที่สุด

 ทุกจังหวัดจัดคิว4ภาควันละ3พันคน

ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงว่าได้ กำชับให้ทุกจังหวัด จัดกลุ่มประชาชนที่สมัครใจเข้าถวายสักการะ ซึ่งต้องประสานกับสำนักพระราชวัง โดยจะมีจำนวนในแต่ละวัน 750 คนต่อภาค ทั้ง 4 ภาค ตกวันละประมาณ 3,000 คน มีการหารือถึงความเหมาะสม ซึ่งในส่วนนี้มีความละเอียดอ่อน โดยคนที่มาต้องมีความพร้อมพอสมควรทั้งด้านร่างกายและเครื่องแต่งกาย

แต่ทั้งนี้จะไปตัดคนออกเพราะเขาอายุมากเกินไปนั้นทำไม่ได้ แต่ต้องให้คำแนะนำว่าจะสามารถเดินทางไหวหรือไม่ และจะต้องมีการเตรียมตัว ซึ่งต้องมีซักซ้อมกันก่อน ทั้งการแต่งกายและการปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ
รัฐมนตรีมหาดไทยกล่าวอีกว่า ส่วนการอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ จะมีจุดพักเตรียมตัวเพื่อตรวจความเรียบร้อยของการแต่งกาย รวมทั้งการชี้แจงการปฏิบัติเพิ่ม ก่อนที่จะเข้าไปถึงพระบรมมหาราชวัง ซึ่งจะเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและรับประกันได้ว่าคนที่เข้ามาจะสามารถเข้าถวายสักการะได้ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น

 เมืองส้มโอ-ย่าโมนัดรวมใจ

นายกฤษฏา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กระทรวงมหาดไทย ได้จัดสรรงบประมาณเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ร่วมเดินทางมาเคารพพระบรมศพตลอด 84วัน (29 ต.ค.2559-20 ม.ค.2560) วงเงิน 69 ล้านบาท โดยประชาชนจาก 4 ภาคทั่วประเทศ ได้เข้าสักการะพระบรมศพวันละ 3 พันคน รวมทั้งสิ้นมีจำนวน 2.5 แสนคน โดยทุกคนที่ประสงค์จะเดินทางจะต้องลงชื่อต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ส่วนประชาชนที่ประสงค์เดินทางเป็นหมู่คณะ อาทิ สมาคม ชมรม หรือส่วนตัวจะต้องแจ้งชื่อต่อผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย

ขณะที่กิจกรรมในส่วนภูมิภาค จากท้องสนามหลวงขยายสู่ลานย่าโมที่จังหวัดนครราชสีมาเตรียมรวมพลังร่วมสร้างประวัติศาสตร์ “คนโคราชร่วมแสดงความจงรักภักดี ร้องเพลงสรรเสริมพระบารมีให้ดังก้องแผ่นดิน “เช่นเดียวกันกับจังหวัดนครปฐม” ได้นัดรวมพลร้อยดวงใจคนนครปฐม ร้องเพลิงสรรเสริมพระบารมีถวายในหลวง “ในวันที่ 27 ตุลาคมได้นี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 18.30 น.เป็นต้นไป และบันทึกภาพประวัตศิ าสตร์จดุ เทยี น เวลา 19.00 น.บริเวณหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์

กทม.คุมเข้มห้ามขายของรอบวัง

ด้านการเตรียมความพร้อมของกรุงเทพมหานคร ล่าสุด พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผลจากวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่ประชาชนเดินทางมารวมตัวกันเพื่อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีล้นหลาม ปรากฏว่ามีขยะตกค้างบริเวณสนามหลวงจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกล่องโฟมใส่อาหารและขวดพลาสติก ล่าสุด ผู้ว่ากทม.ได้สั่งการให้เปลี่ยนจากกล่องโฟมเป็นกล่องกระดาษชานอ้อยหรือเอากล่องข้าวมาเอง และพกพาขวดน้ำดื่มมาด้วย

ซึ่งนายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากการสำรวจขยะพบว่า อาหารและน้ำดื่มที่ทานหมดมีไม่เกิน60% จากการเก็บข้อมูลของ กทม. ปริมาณขยะในวันธรรมดาประมาณวันละ 35 ตัน ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ ประมาณวันละ 80 ตัน และเฉพาะวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา มีขยะประมาณ 365 ตัน

ขณะที่ พล. ต.ท. อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ได้สั่งควบคุมโดยห้ามหาบเร่แผงลอยขายสินค้าบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง และพื้นที่สักการะพระบรมศพ ซึ่งนับจากนี้จะส่งทีมเทศกิจออกตรวจสอบอย่างเข็มงวดต่อไป

 กทม.คาด3ล.คนสักการะพระบรมศพ

ด้านนายธนสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในการเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพวันแรก 29 ตุลาคม คาดจะบริหารจัดการให้เข้าได้ประมาณ 1 หมื่นคน และวันถัดไปนับจากนั้นบัตรคิวสามารถรองรับได้วันละ 4 หมื่นคิว ซึ่งจะหมุนวียนได้ตลอด 84 วัน คาดว่า จะมีประชาชนเข้ามาสักการะพระบรมศพจำนวน กว่า 3 ล้านคน

1พ.ย.ขายตั๋วนักท่องเที่ยว

นาย ธนสิทธิ์กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน นับจากวันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ทางสำนักพระราชวังจะเปิดให้บริษัททัวร์สามารถซื้อตั๋วให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้เข้าสักการะพระบรมศพได้ด้วย โดยใช้ประตูวิเศษไชยศรี ส่วนประชาชนทั่วไปจะเปลี่ยนไปใช้ประตูมณีนพรัตน์ โดยตัวเลขบัตรคิวที่จะจัดให้นักท่องเที่ยวและการกำหนดราคาตั๋จะประเมินอีกครั้ง สำหรับ แผนเดินรถ นับจากวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ยังมีรถขนส่งมวลชนรองรับประชาชนจากต่างจังหวัดจาก 16 จุดอาทิ บริเวณเมืองทองธานี ไบเทค สถานีขนส่งสายใต้เก่าเป็นต้น

  คมนาคมพร้อมรับคลื่นประชาชน

ด้านการจัดการรองรับรถจากต่างจังหวัด นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางไปสักการะพระบรมศพ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559-20 มกราคม 2560 ว่า จะให้ประชาชนใช้รถตู้บริการและรถไฟจากต่างจังหวัดมายัง 3-4 สถานีหลัก คือ สายใต้ใหม่ เอกมัย และขนส่งหมอชิต 2 จากจุดนี้กระทรวงคมนาคมได้จัดรถชัตเติ้ลบัสไว้คอยบริการรับส่งไปยังสนามหลวงตามแผนเดิมที่ให้บริการวันที่ 21-24 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยกระทรวงคมนาคมมีความเชื่อมั่นว่า จำนวนรถบริการสาธารณะที่จัดเตรียมไว้สามารถรองรับจำนวนคนที่เดินทางได้

ทั้งนี้ บขส. ได้จัดเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับรถตู้เข้าใช้ในพื้นที่พร้อมทุกด้านแล้ว มีจุดจอดรอ จุดพักคอยสำหรับรถตู้รองรับเพียงพอ โดยสถานีขนส่งจตุจักรรองรับจำนวนรถได้ 2,046 คัน สถานีขนส่งสายใต้ (ปิ่นเกล้า) รองรับได้ 1,617 คัน และสถานีขนส่งเอกมัยรองรับได้ 542 คัน รวม 4,205 คัน

 “สตีเวน ซีกัล” พบนายกฯ

เช้าวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้นายสตีเวน ซีกัล นักแสดง และผู้ผลิตภาพยนตร์ เข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสที่มาร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า นายสตีเวน ซีกัล เดินทางมาเยือนไทยบ่อยครั้งเพราะประทับใจความสวยงามของประเทศไทยและชื่นชมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามคนไทย รู้สึกผูกพันกับประเทศไทยหลายประการ ส่วนตัวยังนับถือศาสนาพุทธมากว่า 40 ปี การมาเยือนไทยครั้งนี้ มุ่งหวังจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยทั้งการเผยแพร่การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทย รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย และสถานที่ถ่ายทำในไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้นายสตีเวน ซีกัล กล่าวยกย่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ทั่วโลกต่างชื่นชม จึงขอแสดงความเสียใจต่อประชาชนชาวไทยในความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และได้ลงนามน้อมเกล้าฯถวายความอาลัยด้วย

 ระเบียบการถวายสักการะ

สำนักพระราชวังแจ้งระเบียบการเข้าเฝ้าฯถวายสักการะหน้าพระบรมโกศว่า สำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาตในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชดังนี้ 1. ในวันทึ่ 28 ตุลาคม 2559 สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เเละลงนามถวายความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวังตั้งแต่เวลา08.00-16.30 น. อีก 1 วัน

2. พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญูพระราชกุศลครบ 15 วัน ได้ตั้งเเต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป เวลา08.00-21.00 น. ทุกวัน (ยกเวันช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,204 วันที่ 27 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559