บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์หรือ GTWM ออกบทวิเคราะห์สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำประจำวัน (ภาคค่ำ)
ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นระหว่าง US$1,262 – 1,270 ตามการปรับบวกของตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศในเขตยูโรโซนที่ทำให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่ภาพรวมค่าเงินยูโรยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง จึงทำให้ราคาทองคำที่กำลังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ sideway up ระหว่าง US$1,255 – 1,280 ไม่มีสัญญาณจะ breakout แม้ว่า MACD ในกราฟราย 1 ชม. มีการปรับขึ้น และ RSI กำลังจะเข้าเขต overbought ก็ตาม เนื่องจากนักลงทุนมีการตอบสนองต่อการคาดการณ์ว่า ฮิลลารี คลินตัน จะมีชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ Fed กำลังจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. ส่วนเงินบาทที่เริ่มสวิงในทิศทางแข็งค่า จึงไม่เป็นบวกต่อราคาทองคำในประเทศ แต่ด้วยความผันผวนในระดับสูงของค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบจำกัด จึงมีแนวโน้มที่ราคาทองคำในประเทศจะไม่ผันผวนนัก
แนวต้าน Spot Gold : US$1,275 / US$1,280
แนวรับ Spot Gold : US$1,260 / US$1,255
แนะนำ : trading ในกรอบ
News Update
-สถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี Ifo เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีที่ 110.5 ในเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 109.5 ในเดือน ก.ย. เนื่องจากบริษัทต่างเพิ่มการจ้างงานเพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากสหรัฐฯและเอเชีย
-ธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena ของอิตาลี มีแผนจะปลดพนักงาน 2,600 ตำแหน่ง ปิดสำนักงาน 500 สาขา และขายกิจการบางส่วน เพื่อกอบกู้ธุรกิจที่กำลังประสบกับปัญหาหนี้เสีย 3.6 แสนล้านยูโร (4 แสนล้านดอลลาร์) โดยคาดว่าผู้ถือหุ้นจะอนุมัติแผนระดมทุนครั้งใหม่มูลค่า 5 พันล้านยูโร
-ธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, ธนาคารมิซูโฮ, ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ป และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น จะจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูมูลค่า 2 แสนล้านเยน (1.91 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงสิ้นเดือนนี้
-รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยผ่านบทความตีพิมพ์ใน นสพ.พีเพิ่ล เดลี่ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีมูลเหตุที่ทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน จะช่วยให้เงินหยวนยังคงมีเสถียรภาพในระดับที่สมเหตุสมผล