ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ผันผวนในระดับสูง

25 ต.ค. 2559 | 10:00 น.
ราคาน้ำมันดิบผันผวนในระดับสูง ตลาดจับตาการประชุมผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก ในวันที่  28 – 29 ต.ค.

บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ. ไทยออยล์

thaioil25-1 ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 48 – 53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 49 – 54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (24 - 28 ต.ค. 59)

ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะยังผันผวนในระดับสูง เหตุตลาดเฝ้าจับตาการประชุมผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 – 29 ต.ค. นี้ ที่จะมีการหารือเกี่ยวกับเพดานปริมาณการผลิตของแต่ละประเทศในกลุ่มโอเปก และระยะเวลาในการลดกำลังการผลิต ประกอบกับ ความเป็นไปได้ที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จะปรับลดลง ซึ่งคาดว่าจะส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลกับภาวะอุปทานล้นตลาดจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากลิเบีย คาซัคสถาน และไนจีเรีย รวมถึงจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอาจส่งแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:

จับตาการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 – 29 ต.ค. ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเวียนนา เพื่อหารือเกี่ยวกับเพดานปริมาณการผลิตของแต่ละประเทศในกลุ่มโอเปก และระยะเวลาในการลดกำลังการผลิต พร้อมกันนี้ กลุ่มโอเปกจะเชิญผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ เลขาธิการกลุ่มโอเปกมีกำหนดเข้าหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของรัสเซียในวันที่ 24 ต.ค. นี้ เพื่อสานต่อความร่วมมือระหว่างกลุ่มโอเปกและรัสเซีย อย่างไรก็ดี ข้อตกลงการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกยังคงถูกกดดันจากอิรัก หลังอิรักพยายามที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจข้อตกลงของกลุ่มโอเปก

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ต.ค. ปรับตัวลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง ลดลงถึง 1.6 ล้านบาร์เรล เนื่องจากการนำเข้าจากแคนาดาที่ลดลง และคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า

ไนจีเรียที่การผลิตน้ำมันดิบคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 22% จากปัจจุบัน มาแตะระดับ 2.2 ล้านบาร์เรลในปลายปีนี้และลิเบียที่มีแนวโน้มเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง ยังคงส่งผลกดดันราคาน้ำมัน โดยการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียแตะระดับ 0.58 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกครั้ง หลังแหล่งน้ำมันดิบ Waha กลับมาดำเนินการได้แล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ลิเบียยังต้องเผชิญกับปัญหาทางด้านการเงินจากต้นทุนในการดำเนินการที่สูง และ ปัญหาทางด้านความมั่นคงจากท่อขนส่งน้ำมันดิบในฝั่งตะวันตกที่ยังถูกโจมตีจากผู้ก่อความไม่สงบ

อุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากแหล่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่ Kashagan ในคาซัคสถานที่กลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้อีกครั้ง หลังปิดซ่อมแซมไปนาน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2556 โดยในเดือนต.ค. คาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจะอยู่ที่ 0.075 ล้านบาร์เรล และเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระหว่าง 0.15 - 0.18 ล้านบาร์เรล ในเดือนพ.ย. และ ธ.ค. ตามลำดับ

ตลาดยังคงกังวลกับจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวแตะ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบรายงานโดย Baker Hughes สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11 แท่น มาสู่ระดับ 443 แท่น อย่างไรก็ตาม อุปทานจะยังไม่กลับมาทันที และใช้เวลาประมาณ 3 – 5 เดือนกว่าที่หลุมขุดเจาะจะดำเนินการได้ปกติ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตและบริการยูโรโซน ดัชนีการผลิตและบริการสหรัฐฯ และ GDP ไตรมาส 3/2016 สหรัฐฯ

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (17 - 21 ต.ค. 59)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.05 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 50.85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลง 0.17 เหรียญสหรัฐฯ ปิดที่ 51.78 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 49 เหรียญสหรัฐฯ หลังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังของตลาด ว่ากลุ่มโอเปกประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบได้ตามที่มีความคืบหน้าในการประชุมระหว่างวันที่ 26 – 28 ก.ย. ที่ผ่านมา ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด วันที่ 7 ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 5.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาอยู่ที่ 468.7 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นสูงที่สุดในรอบมากกว่า 7 เดือน หลังนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ราคายังถูกกดดันจากที่นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเพื่อทำกำไร ก่อนที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสจะหมดอายุในวันที่ 20 ต.ค.

ที่มา : บมจ. ไทยออยล์