สรุปมติคณะรัฐมนตรี(25 ตุลาคม 2559)

25 ต.ค. 2559 | 10:20 น.
วันนี้ (25 ตุลาคม 2559) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี    พร้อมด้วย พันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ และพันเอกหญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   ได้ร่วมแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี  ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้

มีมติเห็นชอบการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลังสิ้นสุดการจดทะเบียน

ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลังสิ้นสุดการจดทะเบียน ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ ดังนี้

1. มาตรการดำเนินการหลังสิ้นสุดการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา โดยขอให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมอำนวยความสะดวกการตรวจสัญชาติ การตรวจสัญชาติเป็นการดำเนินการของประเทศต้นทางและ รง.จะอำนวยความสะดวกเพื่อให้มีการตรวจสัญชาติแรงงานกัมพูชา ลาว เมียนมา อย่างมีประสิทธิภาพ

2. เห็นชอบยุทธศาสตร์บริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ปี 2560 – 2564 ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ฯ 5 ด้าน ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การจัดระบบแรงงานเพื่อลดการพึ่งพาแรงงานต่างด้าว ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่กับความต้องการแรงงานที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 2 การควบคุม กำกับ ดูแลกระบวนการเข้ามา ระหว่างการทำงานและกลับออกไปของแรงงานต่างด้าว ยุทธศาสตร์ที่ 3 การกำหนดมาตรฐานการจ้างแรงงาน ต่างด้าวให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ยุทธศาสตร์ที่ 4 การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่มีประสิทธิภาพ ยุทธศาสตร์ที่ 5 การติดตามและประเมินผล

3. ขยายระยะเวลาการอยู่ในราชอาณาจักรและอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเล และกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ ซึ่งใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 และกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ (รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานต่างด้าวที่อายุไม่เกิน 18 ปี) ซึ่งใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 ออกไปอีกจนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เท่ากันทุกคน เพื่อเข้ารับการตรวจสัญชาติ สำหรับแรงงานที่ผ่านการตรวจสัญชาติ และได้รับหนังสือเดินทาง เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางหรือเอกสารรับรองบุคคล จะได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและอนุญาตทำงานถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 และสามารถต่ออายุได้อีกครั้งเดียวไม่เกิน 2 ปี

เทงบกลาง 1.8 หมื่นล.ยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน

ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ประจำปีงบประมาณ 2560 ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ โดยอนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้นจำนวน 18,760 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไปแก่หมู่บ้านเพื่อกิจการอันเป็นสาธารณะประโยชน์ จำนวน 18,663.75 ล้านบาท หมู่บ้านๆละ 250,000 บาท ทั้งนี้ ต้องไม่เกินวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติ และค่าดำเนินโครงการฯตามที่ได้รับการประสานจาก กระทรวงมหาดไทย จำนวน 96.25 ล้านบาท พร้อมมอบหมายให้กรมการปกครองดำเนินโครงการฯและจัดตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอในแต่ละพื้นที่ เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการและกรอบวงเงินให้แก่โครงการที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากประชาคมหมู่บ้านแล้ว ระยะเวลาดำเนินโครงการประมาณ 3 เดือน โดยให้ มท.เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์ และขั้นตอนการดำเนินโครงการ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวต้องไม่เป็นการจัดซื้อครุภัณฑ์ ใหม่ และต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่ได้เสนอของบประมาณประจำปีอยู่แล้ว อาทิ การซ่อมโรงเรียน และการสร้างศาลาการเปรียญ เป็นต้น

ครม.คุมเข้มผู้ซื้อ ผู้ขายยาสูบ 

ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอ สนช.พิจารณาต่อไป โดยสาระสำคัญ เป็นการนำสาระสำคัญของ พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 มารวมเป็นกฎหมายฉบับเดียวกัน แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติบางประการให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน เช่น แก้ไขเพิ่มเติมในคำนิยาม คำว่า ผลิตภัณฑ์ยาสูบให้ครอบคลุม ผลิตภัณฑ์ที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ เช่น มอรากู่ไฟฟ้า รวมถึงแก้ไขนิยาม การตลาด ครอบคลุมไปถึงการส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย การขายโดยการใช้บุคคล สร้างภาพลักษณ์ การแสดงสลากทุกรูปแบบ ห้ามการโฆษณาและสื่อสารการตลาดผลิตภัณฑ์ยาสูบ เช่น การแสดงชื่อ เครื่องหมายในสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ และภาพยนตร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ การประกวดและการแข่งขัน เป็นต้น

ทั้งยังกำหนดอายุขั้นต่ำไว้ที่ต้องมีอายุ 18 ปี ร่างกฎหมายใหม่เปลี่ยนเป็น 20 ปีขึ้นไป และในการดำเนินการร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากร่างพระราชบัญญัติด้วยแล้ว ทั้งยังรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และรับทราบผลการดำเนินการขอจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบขึ้นเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ

ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ พ.ศ. ....ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง อาทิ การกำหนดหลักเกณฑ์การประกอบกิจการระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ กำหนดให้ระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อต้องแสดงรายละเอียดของแผนผังโดยสังเขป แผนผังบริเวณแสดงแนวท่อ แบบก่อสร้าง แผนผังแสดงการเชื่อมต่อของระบบแบบก่อสร้าง เครื่องหมายแสดงในเขตระบบ แบบก่อสร้างลิ้นปิดเปิดควบคุมการไหลของน้ำมันและรายการคำนวณความมั่นคงแข็งแรง

ตลอดจนกำหนดมาตรฐานการออกแบบ การก่อสร้าง การทดสอบและตรวจสอบ รวมถึงกำหนดคุณสมบัติของท่อขนส่งน้ำมัน ลักษณะการวางท่อขนส่งน้ำมัน การกำหนดบริเวณอันตราย และเครื่องหมายแสดงในบริเวณเขตระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ และกำหนดในบทเฉพาะกาลให้ผู้รับใบอนุญาตระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ หรือได้รับความเห็นชอบแบบแปลนและแบบก่อสร้างตามกฎหมายว่าด้วยควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ก่อนวันที่กฎหมายนี้ใช้บังคับ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้ เว้นแต่กรณีที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงให้ต้องปฏิบัติภายในระยะเวลาที่กำหนด

ครม.เห็นชอบการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการประชุมเรื่อง การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2559 ตามบัญชานายกรัฐมนตรีและให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) ดำเนินการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ดังนี้

1. ให้ มท. ดำเนินการตามหนังสือ มท. ด่วนที่สุด ที่ มท 0307.2/ว2417 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2557ต่อไป แต่เพื่อให้มีการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้นในอำเภอเป็นไปตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่96/2557 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกคำสั่งจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้นในอำเภอและกำหนดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและช่วยเหลือนายอำเภอในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีสาเหตุจากการร้องเรียนร้องทุกข์

2. ให้ มท. เกลี่ยอัตรากำลังที่มีไปสนับสนุนการดำเนินการตามข้อ 1

3. ในการดำเนินการตามข้อ 1 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบอำนาจตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 96/2557 ให้แก่นายอำเภอเพื่อให้ศูนย์ดำรงธรรมที่จัดตั้งขึ้นสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีสาเหตุจากการร้องเรียน ร้องทุกข์ได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ และทันต่อสถานการณ์

4. เมื่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอตามข้อ 1 ดำเนินการไประยะหนึ่งแล้ว ให้ มท. พิจารณาถึงความจำเป็นเหมาะสมในการคงอยู่ระหว่างศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ

แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายณพงศ์ ศิริขันตยกุล รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบบัญชี (นักบัญชีทรงคุณวุฒิ) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย ดังนี้

1. นายอาณัติ ชวนะเกรียงไกร ผู้ช่วยปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

2. นายปัญญา หาญลำยวง รองอธิบดีกรมพลศึกษา ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ

แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน (กระทรวงแรงงาน)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ              สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ดังนี้

1. นายวิชัย คงรัตนชาติ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

2.นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

3. นางเพชรรัตน์ สินอวย ผู้ช่วยปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง                  ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง

แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอรับโอนและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง สังกัดศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 2 ราย ดังนี้

1. นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้

2. นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งผู้มีอำนาจสั่งบรรจุทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมการโอนด้วยแล้ว