สธ.จัดกิจกรรม“ทำดีที่สุดถวายเป็นพระราชกุศล”

25 ต.ค. 2559 | 06:55 น.
กระทรวงสาธารณสุข  ให้หน่วยงานในสังกัดทุกแห่ง “ทำดีที่สุดถวายเป็นพระราชกุศล” พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกันทั่วประเทศ  ด้วย 3 กิจกรรม คือ การเปลี่ยนความโทมนัสให้เป็นพลังความดี  น้อมนำแนวพระราชดำริและพระบรมราโชวาทเป็นแนวทางดำเนินงาน  และการจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชนตลอดต่อเนื่อง 1 ปี

วันนี้ (25 ตุลาคม 2559) ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จ.นนทบุรี นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข และให้สัมภาษณ์ว่า ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายให้บุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลังความดี  พร้อมให้หน่วยงานในสังกัดทุกแห่ง “ทำดีที่สุดถวายเป็นพระราชกุศล” ด้วย 3 กิจกรรมหลัก ดังนี้ 1.การเปลี่ยนความโทมนัสให้เป็นพลังความดี ประกอบด้วย กิจกรรมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศลทุกวันอังคาร การสวดพระอภิธรรมถวายเป็นพระราชกุศลทุกวันพฤหัสบดี เวลา 15.52 น. เป็นเวลา 1 เดือน การทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 108 รูปถวายเป็นพระราชกุศลในวันที่ 2 ธันวาคม 2559 กิจกรรมการปฏิบัติธรรม 3  วัน ถวายเป็นพระราชกุศลครบ 50 วัน ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2559  การจัดอุปสมบทหมู่ 9 วัน และปฏิบัติธรรมสำหรับสตรีถวายเป็นพระราชกุศลครบ 100 วัน

การจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข การลงนามเรื่องที่ต้องการทำความดีที่สุดเพื่อถวายพระองค์ท่าน เช่น เลิกบุหรี่ อบายมุขอื่นๆ ในช่วง 100 วัน  จัดกิจกรรมเชิญชวนประชาชนและบุคลากรในสังกัดร่วมบริจาคโลหิต จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2559  กิจกรรมการปลูกต้นไม้ หรือปลูกป่าสมุนไพร ดีเดย์พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 และ โครงการสาธารณสุขรวมใจลดโลกร้อน (Green and Clean Hospital ) และให้ทุกจังหวัดจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทั้งด้านสุขภาพกายและจิตใจอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 1 ปี

2. น้อมนำแนวพระราชดำริและพระบรมราโชวาท  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านการแพทย์และสาธารณสุข มาเป็นแนวทางดำเนินงานใน 2 ปีที่ผ่านมาและอนาคต   เช่น  ทันตกรรม  ไอโอดีน  โรคเรื้อน  วัณโรค ไข้เลือดออก การส่งต่อในจราจรคับขัน เศรษฐกิจพอเพียง สมุนไพรไทย  โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น

3.การจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพ ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข  กับกรุงเทพมหานคร โดยบูรณาการการทำงานกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรสาธารณประโยชน์  ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่มาร่วมพิธี ที่บริเวณสนามหลวงพระบรมมหาราชวังและทั่วประเทศ