แอปเปิลขยาย R&D ในเอเซีย เล็งจับมือบริษัทญี่ปุ่นนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้กับทุกอุปกรณ์

25 ต.ค. 2559 | 04:00 น.
ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิล เผยแผนเปิดศูนย์อาร์แอนด์ดีแห่งแรกในญี่ปุ่น พร้อมวางเป้าหมายจับมือบริษัทญี่ปุ่นพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอปเปิล อิงค์ ให้สัมภาษณ์กับนิกเกอิเอเชียน รีวิว ว่า แอปเปิลเตรียมเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) ในประเทศญี่ปุ่น ที่เมืองโยโกฮามา ภายในปีนี้ โดยศูนย์วิจัยดังกล่าวจะทำหน้าที่พัฒนาเทคโนโลยีชิ้นส่วนใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นศูนย์แห่งแรกนอกสหรัฐอเมริกา โดยจะเน้นไปที่ด้านวิศวกรรมชั้นสูง และแตกต่างจากศูนย์วิจัยและพัฒนาที่แอปเปิลมแผนจะเปิดในประเทศจีนคุกกล่าวว่า แอปเปิลมีเป้าหมายที่จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือเอไอ เข้ามาใช้ในหลากหลายด้าน โดยประสานความร่วมมือกับบริษัทญี่ปุ่น “ธรรมชาติของไอเอนั้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งหมด และสามารถนำไปใช้ในแบบที่คนส่วนใหญ่คิดไม่ถึง” คุกกล่าว

คุกยกตัวอย่างว่า เอไอสามารถเข้ามาช่วยเพิ่มระยะเวลาการทำงานของแบตเตอรี ช่วยแนะนำเพลงให้กับสมาชิกที่สมัครใช้งานแอปเปิล มิวสิก หรือแม้แต่ช่วยจดจำว่าผู้ใช้จอดรถยนต์ไว้ที่ไหนเป็นต้น

นอกจากนี้ คุกกล่าวว่าแอปเปิลมีเป้าหมายที่จะเพิ่มความสำคัญในการนำบริการโมบายเพย์เมนต์ แอปเปิลเพย์ เข้ามารุกในตลาดญี่ปุ่นและตลาดเอเชียอื่นๆให้มากยิ่งขึ้น โดยไอโฟน 7 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแอปเปิลที่สามารถทำงานร่วมกับระบบคอนแท็กต์เลสเพย์เมนต์ของบริษัท ฟีลิก้า ของญี่ปุ่นได้

นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ยอดขายที่ชะลอตัวลงในประเทศจีนทำให้แอปเปิลหันเหความสนใจกลับมายังตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่ไอโฟนครองส่วนแบ่งตลาดในสัดส่วนสูง โดยคุกกล่าวว่าแอปเปิลมองเห็นทัศนคติที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันในญี่ปุ่น เนื่องจากแอปเปิลมีหุ้นส่วนและซัพพลายเออร์จำนวนมากอยู่ในตลาดดังกล่าว อีกทั้งชุมชนของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในญี่ปุ่นก็มีความกระตือรือร้น

คุกกล่าวว่า แอปเปิลต้องการใช้แอปเปิลเพย์ ประกอบกับไอโฟนและแอปเปิลวอตช์ เพื่อส่งเสริมสังคมที่ปราศจากเงินสด (cashless society) “เราต้องการเป็นตัวกระตุ้นในการดึงเงินสดออกจากระบบ เราไม่คิดว่าผู้บริโภคชอบการถือเงินสดสักเท่าไหร่”

ขณะเดียวกัน แอปเปิลยังมีความร่วมมือกับบริษัทญี่ปุ่นอีกหลายบริษัท อาทินินเทนโดที่เตรียมนำเกมซูเปอร์มาริโอมาเปิดให้ผู้ใช้อุปกรณ์ระบบไอโอเอสได้เล่นและบริษัทไอบีเอ็ม และเจแปน โพสต์โฮลดิ้งส์ ให้บริการด้านสุขภาพแก่ผู้สูงอายุโดยใช้แท็บเลตไอแพดเป็นหลัก “ญี่ปุ่นอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว” คุกกล่าว

ขณะเดียวกัน จีนยังคงมีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ สำหรับแอปเปิลโดยในปีนี้แอปเปิลได้ทุ่มเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลงทุนในบริษัทผู้ให้บริการเรียกแท็กซี่ ตีตี ชูสิง ขณะเดียวกันเมื่อเร็วๆ นี้ แอปเปิลประกาศแผนเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งที่ 2 ในประเทศจีนที่เมืองเสินเจิ้น ซึ่งจะเปิดทำการในปีหน้า หลังจากก่อนหน้านี้แอปเปิลกล่าวว่า ได้ทุ่มเงิน 45 ล้านดอลลารส์หรัฐฯ เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ปักกิ่งขึ้นเป็นแห่งแรกในจีน

“ศูนย์ที่เสินเจิ้นและที่ปักกิ่งมีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนในท้องถิ่นและมหาวิทยาลัย โดยเราจะทำงานเพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้มีความสามารถทั่วประเทศ” จอช โรเซนสต็อกโฆษกของแอปเปิลกล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,203 วันที่ 23 - 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559