อสมท เผยแผนเยียวยายุติปัญหาโครงข่าย
อสมท ย้ำพร้อมเยียวยา และหามาตรการเคลียร์ปัญหาโครงข่าย ย้ำผลเจรจากับสปริงนิวส์ วอยซ์ทีวีและไทยรัฐทีวีส่งสัญญาณบวก
[caption id="attachment_107765" align="aligncenter" width="335"]
พิเศษ จียาศักดิ์
กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)[/caption]
นายพิเศษ จียาศักดิ์ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่อสมท ยื่นหนังสือขอระงับการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นในระบบดิจิทัล (MUX) แก่ผู้ใช้บริการทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย สปริงนิวส์ วอยซ์ทีวี และไทยรัฐทีวี ว่า อสมทได้พยายามเจรจากับผู้ใช้บริการโครงข่ายฯเพื่อหาข้อยุติมาโดยตลอด โดยเชื่อว่าผลการเจรจาจะมีความคืบหน้าและส่งสัญญาณบวกอย่างแน่นอน
สำหรับประเด็นหลักในการเจรจาประกอบด้วย ความพร้อมของอุปกรณ์โครงข่ายของ อสมท ซึ่งได้ดำเนินการจัดซื้อและติดตั้งตามมาตรฐานที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนด ส่วนจำนวนสถานีที่ให้บริการนั้น กสทช. มีมติให้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกันซึ่งมีจำนวนสถานีหลัก 39 สถานี แบ่งออกเป็นสถานีของ TPBS 35 สถานี ซึ่งไม่รองรับการให้บริการระบบสายอากาศแบบ 2 แกน ส่วน 4 สถานีที่เหลือในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดลำปาง จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดศรีสะเกษ ของอสมท สามารถให้บริการระบบสายอากาศแบบ 2 แกนได้ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการรับชม ทั้งนี้ อสมท มีมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการฯ ด้วยการลดอัตราค่าเช่าโครงข่ายต่อปีไปแล้ว
ส่วนกรณีความล่าช้าในการติดตั้งโครงข่ายตามระยะที่กำหนดไว้ของ กสทช. นั้น อสมทได้พิจารณาแนวทางการเยียวยาค่าบริการดังกล่าวให้กับผู้ใช้บริการทั้ง 3 รายแล้วและอยู่ระหว่างการเจรจา รวมถึงการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมจำนวนครัวเรือนตามกรอบเวลาที่กสทช. กำหนด ซึ่งอสมท จะลดค่าบริการให้ในอัตราที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้บริการแต่ละราย แต่ผู้ใช้บริการทั้ง 3 รายยังต้องชำระค่าบริการและค่าชดเชยในกรณีล่าช้าด้วย
“อสมท และ ผู้ใช้บริการทั้ง 3 รายได้เริ่มเจรจาเรื่องการชำระค่าบริการคงค้างอีกครั้งซึ่ง อสมท ได้พิจารณาแนวทางการเยียวยาค่าบริการดังกล่าวให้กับผู้ใช้บริการทั้ง 3 รายแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการต้องชำระค่าปรับจากการชำระค่าบริการล่าช้า”
นายพิเศษ กล่าวเพิ่มเติมว่าอสมท ได้ดำเนินการขยายสถานีโครงข่าย ครอบคลุมจำนวนครัวเรือน 90% ตามแผนการขยายโครงข่ายของ กสทช. แล้วและยังมีแผนที่จะพัฒนาการให้บริการโครงข่ายต่อเนื่อง การสร้างสถานีเสริมเพื่อปรับปรุงให้บริการในพื้นที่สำคัญ รวมถึงระบบมอนิเตอร์ และระบบการบำรุงรักษาต่างๆ ด้วย
ก่อนหน้านี้บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ให้บริการสถานีข่าวทางทีวีดิจิตอลช่อง 19 ได้ออกแถลงการณ์ว่า สปริงนิวส์มีความพร้อมในการชำระค่าบริการให้แก่ อสมท และยังคงดำเนินธุรกิจสถานีข่าวทางทีวีดิจิตอล ช่อง 19 อย่างต่อเนื่อง โดยจะไม่มีการระงับสัญญาณหรือจอดำอย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุที่ยังไม่จ่ายค่าบริการโครงข่ายเพราะการเจรจากับ บริษัท อสมทยังไม่ได้ข้อยุติ แต่มีแนวโน้มไปในเชิงบวก
“สปริงนิวส์ได้เตรียมงบประมาณในการชำระค่าโครงข่ายไว้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนที่สามารถตกลงกันได้ การเจรจาล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีแนวโน้มไปในเชิงบวก น่าจะลงเอยกันได้ในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ ทางสถานีข่าวสปริงนิวส์ทีวีดิจิทัลช่อง 19 พร้อมที่จะเจรจาหาข้อยุติกับทางบริษัท อสมท อย่างรวดเร็ว เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนผู้รับข่าวสารผ่านทางสถานีข่าวสปริงนิวส์ ทีวีดิจิทัล ช่อง 19 และยืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหาจอดำอย่างแน่นอน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,203 วันที่ 23 - 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_107765" align="aligncenter" width="335"]
กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)[/caption]
นายพิเศษ จียาศักดิ์ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่อสมท ยื่นหนังสือขอระงับการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นในระบบดิจิทัล (MUX) แก่ผู้ใช้บริการทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย สปริงนิวส์ วอยซ์ทีวี และไทยรัฐทีวี ว่า อสมทได้พยายามเจรจากับผู้ใช้บริการโครงข่ายฯเพื่อหาข้อยุติมาโดยตลอด โดยเชื่อว่าผลการเจรจาจะมีความคืบหน้าและส่งสัญญาณบวกอย่างแน่นอน
สำหรับประเด็นหลักในการเจรจาประกอบด้วย ความพร้อมของอุปกรณ์โครงข่ายของ อสมท ซึ่งได้ดำเนินการจัดซื้อและติดตั้งตามมาตรฐานที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนด ส่วนจำนวนสถานีที่ให้บริการนั้น กสทช. มีมติให้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกันซึ่งมีจำนวนสถานีหลัก 39 สถานี แบ่งออกเป็นสถานีของ TPBS 35 สถานี ซึ่งไม่รองรับการให้บริการระบบสายอากาศแบบ 2 แกน ส่วน 4 สถานีที่เหลือในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดลำปาง จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดศรีสะเกษ ของอสมท สามารถให้บริการระบบสายอากาศแบบ 2 แกนได้ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการรับชม ทั้งนี้ อสมท มีมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการฯ ด้วยการลดอัตราค่าเช่าโครงข่ายต่อปีไปแล้ว
ส่วนกรณีความล่าช้าในการติดตั้งโครงข่ายตามระยะที่กำหนดไว้ของ กสทช. นั้น อสมทได้พิจารณาแนวทางการเยียวยาค่าบริการดังกล่าวให้กับผู้ใช้บริการทั้ง 3 รายแล้วและอยู่ระหว่างการเจรจา รวมถึงการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมจำนวนครัวเรือนตามกรอบเวลาที่กสทช. กำหนด ซึ่งอสมท จะลดค่าบริการให้ในอัตราที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้บริการแต่ละราย แต่ผู้ใช้บริการทั้ง 3 รายยังต้องชำระค่าบริการและค่าชดเชยในกรณีล่าช้าด้วย
“อสมท และ ผู้ใช้บริการทั้ง 3 รายได้เริ่มเจรจาเรื่องการชำระค่าบริการคงค้างอีกครั้งซึ่ง อสมท ได้พิจารณาแนวทางการเยียวยาค่าบริการดังกล่าวให้กับผู้ใช้บริการทั้ง 3 รายแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการต้องชำระค่าปรับจากการชำระค่าบริการล่าช้า”
นายพิเศษ กล่าวเพิ่มเติมว่าอสมท ได้ดำเนินการขยายสถานีโครงข่าย ครอบคลุมจำนวนครัวเรือน 90% ตามแผนการขยายโครงข่ายของ กสทช. แล้วและยังมีแผนที่จะพัฒนาการให้บริการโครงข่ายต่อเนื่อง การสร้างสถานีเสริมเพื่อปรับปรุงให้บริการในพื้นที่สำคัญ รวมถึงระบบมอนิเตอร์ และระบบการบำรุงรักษาต่างๆ ด้วย
ก่อนหน้านี้บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ให้บริการสถานีข่าวทางทีวีดิจิตอลช่อง 19 ได้ออกแถลงการณ์ว่า สปริงนิวส์มีความพร้อมในการชำระค่าบริการให้แก่ อสมท และยังคงดำเนินธุรกิจสถานีข่าวทางทีวีดิจิตอล ช่อง 19 อย่างต่อเนื่อง โดยจะไม่มีการระงับสัญญาณหรือจอดำอย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุที่ยังไม่จ่ายค่าบริการโครงข่ายเพราะการเจรจากับ บริษัท อสมทยังไม่ได้ข้อยุติ แต่มีแนวโน้มไปในเชิงบวก
“สปริงนิวส์ได้เตรียมงบประมาณในการชำระค่าโครงข่ายไว้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนที่สามารถตกลงกันได้ การเจรจาล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีแนวโน้มไปในเชิงบวก น่าจะลงเอยกันได้ในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ ทางสถานีข่าวสปริงนิวส์ทีวีดิจิทัลช่อง 19 พร้อมที่จะเจรจาหาข้อยุติกับทางบริษัท อสมท อย่างรวดเร็ว เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนผู้รับข่าวสารผ่านทางสถานีข่าวสปริงนิวส์ ทีวีดิจิทัล ช่อง 19 และยืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหาจอดำอย่างแน่นอน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,203 วันที่ 23 - 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559