เคทีลุ้นอัศวินใช้อำนาจตั้งบอร์ดใหม่ สังเร่งเดินหน้า 4 โครงการรถไฟฟ้า

23 ต.ค. 2559 | 05:00 น.
กรุงเทพธนาคมส่อเค้าวุ่นต่อเนื่อง หลัง “สุรพล นิติไกรพจน์” ประธานบอร์ดประกาศไขก๊อก ล่าสุดกรรมการเตรียมลาออกอีก 1-2 คน เปิดทางให้อำนาจผู้ว่ากทม.คนใหม่ตั้งคณะกรรมการ จับตา 4 โครงการรถไฟฟ้าทั้งส่วนต่อขยายและเส้นทางระบบรอง รอ “อัศวิน” เคาะความชัดเจนพร้อมกรณีเจรจารับภาระหนี้กว่า 6 หมื่นล้านที่จะเป็นเจ้าภาพรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายเหนือ-ใต้แทนรฟม.

นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด(เคที) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าล่าสุด ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บริษัทได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งพร้อมกันนี้ทราบว่าจะมีคณะกรรมการบริษัทอีก 1-2 ท่านแสดงความประสงค์จะยื่นขอลาออกจากตำแหน่ง หลังจากมีการแต่งตั้งพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร(กทม.) คนใหม่แทน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)มีคำสั่งปลดออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีคณะกรรมการอยู่อีกจำนวนหนึ่งแต่อาจส่งผลกระทบต่อการเร่งผลักดันโครงการสำคัญของเคทีได้ โดยคณะกรรมการชุดปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งช่วงที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ดำรงเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

“ปัจจุบันคณะกรรมการส่วนที่เหลือได้แต่งตั้งให้รศ.มานพ พงศทัต ทำหน้าที่ประธานกรรมการแทนศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ แต่โดยมารยาทแล้วตำแหน่งเหล่านี้จะได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดังนั้นเมื่อมีผู้ว่าฯกทม.คนใหม่คณะกรรมการชุดเก่าจะแสดงมารยาทยื่นขอลาออกเปิดทางให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เข้าไปทำหน้าที่แทน เนื่องจากมีภารกิจหลายด้านต้องเร่งผลักดันหากไม่มีความชัดเจนอาจส่งผลให้เกิดผลกระทบตามมาได้”

“หลายโครงการจะต้องรอเซ็นอนุมัติจากประธานกรรมการตามอำนาจหน้าที่ อาทิ การจ่ายเงินให้กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) เดือนละกว่า 150 ล้านบาท เป็นค่าจ้างให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสและค่าเดินรถโดยสารบีอาร์ที ดังนั้นหากล่าช้าอาจจะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการได้”

ประการสำคัญโครงการที่ยังรอให้ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ตัดสินใจเร่งผลักดันมี 3-4 โครงการ ประกอบไปด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ-พระราม 9 โดยมีแผนจะก่อสร้างช่วงวัชรพล-ทองหล่อ ในระยะแรกแล้วจึงจะขยายไปยังช่วงอื่นๆต่อไป เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง(สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสกรุงธนบุรี-โรงพยาบาลตากสิน) ที่กลุ่มไอค่อนสยามแสดงความสนใจจะลงทุนกว่า 2,000 ล้านให้กทม. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว(บีทีเอส) ส่วนต่อขยายบางหว้า-ตลิ่งชัน และโครงการรถไฟฟ้าระบบรองสายบางนา-สนามบินสุวรรณภูมิ ยังต้องเร่งดำเนินการซึ่งเป็นอำนาจการตัดสินใจของผู้ว่าฯกทม.ทั้งหมด

นอกจากนั้นยังมีกรณีการเจรจากับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เกี่ยวกับการเคลียร์ภาระหนี้กว่า 6 หมื่นล้านบาทพร้อมรับเป็นเจ้าภาพดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งกทม.มีแผนเปิดให้บริการจากสถานีแบริ่ง-สถานีสำโรง ในเดือนธันวาคมนี้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,203 วันที่ 23 - 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559