ปตท.สยายปีกตลาดอาเซียน ตั้งเป้าเปิดปั๊มนํ้ามัน 500 แห่งใน 5 ปี

21 ต.ค. 2559 | 04:00 น.
นับตั้งแต่เปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ช่วงปลายปี 2558 เป็นต้นมา ส่งผลให้ยักษ์ใหญ่ข้ามชาติและบริษัทแถวหน้าของไทยต่างเข้าปักหมุดขยายธุรกิจมากขึ้น และหนึ่งในนั้นคือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่รุกหนักเพิ่มขีดทางการแข่งขัน และยังสนองนโยบายรัฐบาล “พี่จูงน้อง” ผลักดันสินค้าเอสเอ็มอีไทยก้าวไปในต่างแดนล่าสุดจากการเดินทางสู่เมืองเสียมราฐประเทศกัมพูชาเยี่ยมชม พีทีทีไลฟ์สเตชั่นสถานีบริการนํ้ามันแบบครบวงจรของปตท.สาขาเซียงนำและสาขาอัปราระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา

ตลาดนํ้ามันโต

การลงทุนในอาเซียน นอกจากปตท.จะเน้นด้านความมั่นคงด้านพลังงานการเจาะสำรวจแล้ว ยังส่งเสริมให้เกิดการสร้างแบรนด์ของคนไทย โดยใช้สถานีนํ้ามันเป็นหัวหอกสำคัญ อย่างไรก็ดีตลาดกัมพูชาถือว่ามีศักยภาพสูง และยังมีโอกาสเติบโตอีกสูงที่สำคัญ จีดีพี โตต่อเนื่องถึง7% ซึ่งปตท.ลงทุนธุรกิจนํ้ามันที่นี่ 200ล้านลิตรซึ่งเน้นทั้งค้าปลีก-ค้าส่งครบวงจรขณะเดียวกันยังเน้นสร้างแบรนด์ให้กับ

นํ้ามัน-อเมซอนบูมในกัมพูชา

จากการลงพื้นที่ พบว่า มีความตื่นตัวสำหรับผู้ให้บริการและผู้ที่รอรับบริการบริเวณสถานีบริการนํ้ามันและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ที่ได้รับการตอบรับอย่างมากจากคนกัมพูชาในเวลานี้คือ “กาแฟอเมซอน” เรื่องนี้นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจนํ้ามัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ยํ้าว่านอกจากลูกค้าที่มารับบริการนํ้ามันตามสถานีบริการที่เปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องแล้ว “อเมซอน” กาแฟ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในเครือ กลับประสบความสำเร็จมากกว่าในไทย ซึ่งสาขารวมที่เขายืนยันว่า มีมากถึง 1,700 แห่งทั่วอาเซียน ยอดขายสูงสุดอยู่ที่กัมพูชากว่า 1,000 แก้วต่อสาขาต่อวัน จากสาขาที่มีทั้งหมดใน 3 สาขา

ดังนั้น จึงสะท้อนว่า ราคาและรสชาติ ที่ตอบโจทย์จึงสามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนสถานีให้บริการนํ้ามันพ่วงพื้นที่ค้าปลีกที่แทรกตัวในปั๊มนํ้ามัน ซึ่งจะมีร้านกาแฟ และ สินค้าบริการพร้อมเสิร์ฟ หากหลายที่ช่วยดึงคนเข้ามาในแอเรีย 3,900 ตารางเมตรแห่งนี้ สามารถรองรับลูกค้ากัมพูชา นักท่องเที่ยวต่างชาติ ร่วมทั้งไทยที่เดินทางไปยังเมืองต่างๆ ซึ่งสินค้าชิ้นเอกที่ได้รับคำชื่นชมจากคนเสียมราฐ

ดึง12แบรนด์ร่วมคาราวาน

นอกจากธุรกิจของปตท.แล้ว ยังเปิดพื้นที่รายรอบในบริเวณสถานีน้ำมันของปตท.เป็นลานค้าปลีก เปิดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ร่วมเปิดตลาดไปพร้อมๆกัน ซึ่งปัจจุบันมี 12 แบรนด์ อาทิ ปึงหงีเชียง แบล็คแคนยอน หมูปิ้งเพียวกริลพอร์ก ตำมั่ว ยูนานขาหมู เย็นตาโฟอาจารย์มัลลิการ์ สกายลักค์ ฮ็อตวิซาร์ออโต้แคร์ เป็นต้น นอกจากนี้ ปตท.ยังเปิดกว้าง เพื่อให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ๆ ร่วมนำผลิตภัณฑ์ไปเปิดพื้นที่ในต่างแดนด้วยเช่นเดียวกันนอกจากกัมพูชา

[caption id="attachment_107151" align="aligncenter" width="500"] บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)[/caption]

5 ปี 500 สถานีนํ้ามันในอาเซียน

อย่างไรก็ดี ปตท.ได้วางกรอบแผน5 ปี เข้าปักหมุดขยายธุรกิจค้าปลีกนํ้ามันและ ผลักดันเอสเอ็มอี ไทยก้าวกระโดดไปในต่างแดน ร่วมทั้งกัมพูชาในเวลานี้จากการตรวจสอบ 4 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาวเมียนมา ฟิลิปปินส์ ขณะนี้มีปั๊มนํ้ามันรวม 170 แห่ง และภายในปี 2563 หรือตามแผน 5 ปีนับจากนี้ จะมีปั๊มนํ้ามัน500 แห่ง ขณะที่ร้านกาแฟอเมซอนปัจจุบัน37 ร้าน ปี 2563 จะมี 200 สาขา ส่วนจิฟฟี่ ปัจจุบันมี 24 สาขา ปี 2563 จะมี200 สาขา ส่วนนํ้ามันหล่อลื่น ปตท.มีความมั่นใจจะเข้าไป ให้ครบทุกประเทศส่วนงบประมาณภายใน 5 ปี จะใช้วงเงินลงทุนขยายธุรกิจนํ้ามัน 4,500 ล้านบาทลงในตลาดอาเซียน เฉพาะธุรกิจนํ้ามันคาดว่าจะสร้างรายได้ปีละ 24,500 ล้านบาท ภายใน 5 ปี หรือ ปี 2563

ทั้งนี้แผนของปตท. มีนโยบายขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยประเทศกัมพูชาเป็นอีกประเทศที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน สปป.ลาวมี่สถานีนํ้ามัน29 แห่ง กัมพูชา 28 แห่งซึ่งอยู่ในเสียมราฐ 4 แห่ง โดย 2 แห่งบริหารโดยปตท. และ 2 แห่งบริหารโดยดีลเลอร์เมียนมา 8 แห่ง และ ฟิลิปปินส์ 105 แห่งและมีแผนจะขยายเป็น 500 แห่ง ภายในปี 2563 ดังกล่าว

จ่อลุยเมียนมา-เวียดหลังก.ม.เปิด

ขณะที่การบุกเข้าไปขยายฐานสถานีบริการนํ้ามันปตท.แบบครบวงจรนั้น ยังมีปัญหาว่าทั้งเมียนมาและเวียดนามกฎหมายยังไม่เปิดให้ต่างชาติเข้าไปตั้งสถานีนํ้ามัน แต่ยังสงวนให้พลเมืองของเขาดำเนินการ แม้จะซื้อนํ้ามันของปตท.ไปแต่ชื่อต้องเป็นของคนกัมพูชา ทั้ง 2 ประเทศนี้ประเมินว่า ได้ใช้สัญญาใจหากมีการแก้กฎหมายและเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้าดำเนินการ แน่นอนว่า ปตท.พร้อมที่จะเข้าปักธงโดยดึงกลุ่มเอสเอ็มอีไปด้วยแน่นอน ซึ่งจะช่วยกระจายการลงทุนไปยังต่างแดนได้อย่างมากเพราะตลาดในเวียดนามและเมียนมามองว่าเป็นตลาดใหญ่และน่าสนใจ

ปัจจุบัน ปตท.ไม่ได้มีเฉพาะธุรกิจนํ้ามัน นอนออยล์ แต่ยังต้องมีพันธกิจหลักในการผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอี ให้เติบโตไปพร้อมกันด้วยการพัฒนาสถานีนํ้ามันรูปแบบใหม่ครบวงจร ตามนโยบายประชารัฐของรัฐบาล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,202 วันที่ 20 - 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559