‘เจ.ไอ.บี.-คอมเซเว่น’มองค้าปลีกไอทีโค้งสุดท้ายสดใส

16 ตุลาคม 2559
ค้าปลีกไอทีโค้งสุดท้ายของปีนี้อนาคตสดใส ผู้ค้าระบุยังเป็นสิ่งจำเป็น ขณะที่โปรดักต์ใหม่จ่อทำตลาดเพียบ เจไอบี ยึด 3 ทำเลทองขยายสาขาใหม่ ขณะที่คอมเซเว่น รีแบรนด์ ร้านขายแอปเปิลใหม่เป็น "สตูดิโอ 7" หวังสร้างความต่าง และประสบการณ์ใหม่ลูกค้า

นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกสินค้าไอทีครบวงจร ภายใต้ชื่อ "เจไอบี" เปิดเผยว่าแม้ว่ากำลังซื้อผู้บริโภคปีนี้จะหดตัว แต่บริษัทมั่นใจว่าธุรกิจไอทีไตรมาสสุดท้ายยังเติบโต เนื่องจากสินค้าในกลุ่มไอทีถือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการประกอบอาชีพ และเป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันในปัจจุบัน ดังนั้นจึงยังเดินหน้าขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับภาพลักษณ์ใหม่ที่เน้นจำหน่ายสินค้าคุณภาพระดับกลางบนมากยิ่งขึ้น โดยในต้นเดือนตุลาคมนี้จะเปิดสาขาใหม่ใน 3 ทำเลทอง คือ ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ท มอลล์, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น

"ในเดือนตุลาคมนี้ เราเตรียมเปิดสาขาใหม่ของร้าน ไมน์ (mine) และ เจไอบี ใกล้เคียงกันถึง 3 สาขา โดย ไมน์ ร้านค้าปลีกสินค้าไอทีไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมจะเปิดที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยว และลูกค้าในพื้นที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนร้านเจไอบี ในภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยและสอดรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้นจะเปิดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เพื่อขยายฐานไปยังลูกค้ากลุ่มกลางบนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้ากลางบนไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยขอนแก่นเป็นหัวเมืองขนาดใหญ่ที่ลูกค้ามีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกับลูกค้าในกรุงเทพฯ ซึ่งเชื่อว่าภาพลักษณ์ใหม่ของร้านเจไอบี จะได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างดี ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับร้าน เจไอบี สาขาอื่นๆ ที่เปิดในเครือเซ็นทรัลก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะสาขาเซ็นทรัล เวิลด์ ที่เปิดก่อนหน้านี้พบว่าลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้การต้อนรับล้นหลาม จนกลายเป็นร้านที่ทำรายได้อยู่ในอันดับต้นๆ ของบริษัทในปัจจุบัน"

นายสมยศ กล่าวอีกว่าบริษัทมียอดการเติบโตแบบสวนกระแสเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งมาจากการปรับภาพลักษณ์ร้านใหม่ ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ารุ่นใหม่ และกลุ่มลูกค้าระดับกลางบนมากยิ่งขึ้น
ด้านนายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ กล่าวว่าแนวโน้มค้าปลีกสินค้าไอทีไตรมาสสุดท้ายมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงการจับจ่ายใช้สอยปลายปี อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ออกสู่ตลาด ทั้งไอโฟน 7 และโน้ตบุ๊กทูอินวัน นอกจากนี้ยังเห็นการกลับมาเติบโตของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ เดสก์ท็อป เป็นเลข 2 หลัก

โดยล่าสุดบริษัทได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอปเปิล ภายใต้ชื่อ ไอสตูดิโอ ไอบีท และยูสโตร์ บายคอมเซเว่น มาใช้ชื่อ "สตูดิโอ7"(Studio7) เพื่อสร้างความแตกต่างจากตัวแทนรายอื่น และต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า สำหรับการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ใช้งบการลงทุนราว 10 ล้านบาท และวางงบการทำแคมเปญการตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์ "สตูดิโอ 7 เซเว่น อีส มอร์" อีก 25 ล้านบาท โดยกิจกรรมและโปรโมชั่น สิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า พร้อมทั้งมีแผนนำระบบสมาชิก และโปรแกรมบริหารลูกค้าสัมพันธ์ หรือ ซีอาร์เอ็มมาใช้เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้
โดยปัจจุบันมีร้าน"สตูดิโอ 7" ราว 93 สาขา คาดว่าภายในปีหน้าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5-10 สาขา โดยสาขาใหญ่จะใช้เม็ดเงินลงทุนราว 15 ล้านบาท และสาขาขนาดกลางและเล็กใช้ราว 7-8 ล้านบาท

นายสุระกล่าวต่อไปอีกว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมตลอดปีนี้เติบโตขึ้น 10% โดยมีรายได้รวม 17,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 15,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโฟน 35% , คอมพิวเตอร์ 30% , แท็บเลต 10% และที่เหลือเป็นรายได้จากอุปกรณ์เสริม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,200 วันที่ 13 - 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559