4เทรนด์ไอทีดันไทยสู่ยุคใหม่เศรษฐกิจดิจิตอล

15 ตุลาคม 2559
ไอเอสเอสพี เผยจับตามอง 4 เทรนด์ไอทีในยุคเศรษฐกิจดิจิตอล ทั้งโมบาย-แอลโอที-บิ๊กดาต้า และ คลาวด์คอมพิวติ้ง เป็นจุดเปลี่ยนให้ไทยเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายภาครัฐ

นายบัณฑิต ว่องวัฒนะสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด หรือ ไอเอสเอสพี เปิดเยว่า นโยบายของรัฐบาลต้องการผลักดันประเทศไทยก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปสู่เศรษฐกิจใหม่ ทำให้หลายธุรกิจเริ่มปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเตรียมพร้อมกับการแข่งขันทางธุรกิจ และให้ความสำคัญในการเพิ่มศักยภาพภาพทางด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรมากขึ้น ปัจจุบันมีธุรกิจเกิดใหม่ที่อาศัยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างเช่น สตาร์ทอัพ และจากแนวโน้มของเทรนด์เทคโนโลยีในยุคเศรษฐกิจดิจิตอล

อย่างไรก็ตามองค์กรธุรกิจควรพิจารณาเพื่อนำมาปรับใช้ให้ธุรกิจสามารถจะเติบโตและก้าวไปพร้อมๆ กับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 จะต้องมีเทคโนโลยีที่ ประกอบด้วย โมบายเทคโนโลยี (Mobile Technology) นับเป็นเทคโนโลยีที่ใกล้ชิดคนไทยมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้บริโภคที่หันมานิยมใช้สมาร์ทโฟน, แวร์เอเบิล, แท็บเล็ต และอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนั้นยังมีการซื้อสินค้าและการใช้จ่ายต่างๆ หรือแม้แต่การใช้หาข้อมูลความรู้ที่ต้องการ รวมทั้งการแสดงออกทางความคิดเห็นต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไปในเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่าง เฟดบุ๊ก,ไลน์, อินสตราแกรม และ วอทแอพ เป็นต้นซึ่งจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปดังกล่าว ทำให้ภาคธุรกิจต้องหันมาสนใจในการคิดค้น และพัฒนาโมบายเทคโนโลยี หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งใช้ช่องทางดังกล่าวเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้าและองค์กรอย่างใกล้ชิด

ขณะที่อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (Internet of Things หรือ IoT) IoT กำลังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการผสานรวมโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกดิจิตอลเข้าไว้ด้วยกันอย่างรวดเร็ว ตลอดจนสร้างโอกาสและความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับองค์กรธุรกิจ จากการที่โมบายเทคโนโลยีแพร่หลาย ผู้คนเริ่มคุ้นชินกับการใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อควบคุม หรือใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตมากขึ้น องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวแล้วนำระบบดิจิตอลกำลังเข้าไปเปลี่ยนโมเดลธุรกิจที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเดิมๆ ให้สามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นดิจิตอลเพื่อเชื่อมโยงทุกส่วนให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะ และเป็นแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้จริง เพื่อผลักดันมูลค่าของธุรกิจให้ก้าวสู่ระดับที่ใหญ่ขึ้น เติบโตขึ้นได้ในยุคของเศรษฐกิจดิจิตอล

นายบัณฑิต ยังกล่าวเพิ่มเติมอีว่า สำหรับ บิ๊กดาต้า (Big Data) เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ทันสมัย สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุม และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ทำให้เกิดข้อมูลต่างๆ เกิดขึ้นมากมายบนโลกดิจิตอล ทั้งข้อมูลที่มีโครงสร้างและข้อมูลไร้โครงสร้างซึ่งล้วนแล้วแต่มีมูลค่ามหาศาลต่อธุรกิจในยุคนี้ เนื่องจากเทคโนโลยีจากคลาวด์โซลูชั่นสามารถจับข้อมูลต่างๆ บนโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วยกตัวอย่างบริการที่ไอเอสเอสพีมีอย่าง "Oracle Social Relationship Management" (Oracle SRM) ซอฟต์แวร์ที่ทำงานบนคลาวด์ มีฟังก์ชั่นในการจับฟีดแบ็คของผู้บริโภคจากเว็บไซต์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทั้งเฟดบุ๊ก และ ไลน์ เป็นต้น โดยนำข้อมูลที่ได้จากโพสต์และความคิดเห็นต่างๆมาประมวลผล ได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้แล้ว คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) เป็นตัวเลือกที่องค์กรหลายแห่งทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่หันมาให้ความสำคัญ ให้ความเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยและความเสถียร เพื่อนำมาใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร เพื่อลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากคลาวด์คอมพิวติ้งเป็นการเช่าใช้บริการเป็นรายเดือน มีผู้เชี่ยวชาญระบบคอยดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน จะมีการอัพเดตให้ใหม่เสมอ ยกตัวอย่างโซลูชั่นคลาวด์ของไอเอสเอสพี อย่างชุดโปรแกรมการทำงาน Office 365, ERP ระบบบริหารจัดการองค์กรแบบครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีของ SAP Business One ที่พร้อมรองรับการทำงาน ทั้งด้านการเงิน, การบัญชี, การขาย, การให้บริการ, การจัดซื้อ เป็นต้น

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,200 วันที่ 13 - 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559