คำต่อคำ‘หมอเสริฐ’ ปิดดีลหมื่นล้าน 7 วันจบ

06 ตุลาคม 2559
แม้วัยจะล่วงเลยย่างเข้า 84 ปี แต่ "หมอเสริฐ" น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) บีดีเอ็มเอส ก็ยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ทางธุรกิจ ล่าสุดกับการปิดดีลซื้อ โรงแรม สวิส โฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ กับอาคาร พรอมเมอนาด และที่ดิน 15 ไร่ ด้วยเม็ดเงิน 1.08 หมื่นล้านบาท จนเป็นข่าวครึกโครม ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ถึงความเป็นมาของดีลแห่งปีครั้งนี้

[caption id="attachment_103809" align="aligncenter" width="335"] น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ[/caption]

เหมือนได้มาอาคารฟรี

เริ่มบทสนทานา หมอเสริฐ ออกตัวว่า ผมไม่ได้ดีลเองมีคนมาบอกว่ามีต่างชาติสนใจจะซื้อ เจ้าของไม่ได้บอกทั่วไป ที่ดินแปลงนี้เห็นมาตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ ตอนหนีสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่างชาติก็จะเอา เราไปคุย ดีลกันประมาณ 7 วัน ก็จบผมเป็นคนตรงไปตรงมา บอกว่าจะเอายังงี้ เอางี้ เจ้าของเขาก็ดีใจที่ในภาพรวมยังเป็นของคนไทยอยู่ ผมไปดูที่ดินครั้งเดียว มาบอกกับบอร์ด (คณะกรรมการบริหารบริษัท) ไม่มีใครค้าน แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โป้งก็จบแล้ว

ส่วนมูลค่าที่ดินที่มีมูลค่าถึงตารางวาละ 1.8 ล้านบาทนั้น คุณหมอ บอกว่า เราต้องหาคนกลางมาประเมิน จึงให้ ทางริชาร์ด เอลลิส (บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด) มาตีราคา ซึ่งที่ตีราคาออกมามันรวมทั้งหมด หากพูดภาษาชาวบ้านเราได้ตึกมาฟรี อีกทั้งคิดว่าเรากำลังอยากได้ที่ ที่มีสวน มีอะไร ที่เป็นแบบเวลเนส ส่วนอาคารก็สามารถนำมาปรับปรุงไม่เท่าไรก็ใช้งานได้ แถมยังได้พรอมเมอนาด (อาคารสำนักงานPromenade)12 ชั้น ก็จะใช้เป็นที่ทำงานของบริษัทในเครือที่เช่าอยู่ให้ย้ายเข้ามา เอาผู้บริหารมารวมอยู่ที่นี่ เปิดพื้นที่ โรงพยาบาลรับคนไข้เพิ่ม

ไม่เสี่ยงแบงก์เสนอตัวให้กู้

พูดถึงตัวเลขทางบัญชี เราก็ขาดทุนดอกเบี้ยที่เราไปลงทุนนะ คิดว่าเริ่มงานได้อีก 6 เดือนก็เริ่มพอมีรายได้มาเคลียร์กับดอกเบี้ย ซึ่งของเราเสียไม่ค่อยแพง เรตติ้ง (อันดับเครดิตของบีดีเอ็มเอส) ของเราดี เพราะหนี้ไม่เยอะอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E Retio ) อยู่ที่ 0.5 เท่าเอง ราคาที่ดินก็ขึ้นเรื่อย ๆ เราเชื่อว่าแถวนี้ 10 ปีราคาไม่เคยลง และมีคนออฟเฟอร์ให้เราใช้เงินเยอะ เจ้าของแบงก์ 2-3 แห่งก็เสนอตัวอยากให้เอาเงินมาใช้ ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะคิดว่าจะกู้ให้น้อยที่สุด หรือกู้ครึ่งหนึ่งราว 6 พันล้านบาท

ส่วนที่ดินแปลงนี้มันเข้าล็อกประเทศไทยไปหาซื้อที่ดินแอเรีย แบบนี้ที่ไหนได้ มีเพียงด้านเดียวที่ติดแต่ก็มีระยะห่างจากตึกพอสมควร ส่วนที่เหลือติดคลองแสนแสบ และถนนอีก 2 ข้าง คือถนนสมคิดและชิดลม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมีสวนขนาดใหญ่ จะหาที่ไหนได้และไม่มีความเสี่ยง

 คนยอมจ่ายเงินเพื่อรักษามากขึ้น

ทางด้านรูปแบบของ "เวลเนส เซ็นเตอร์" นั้น หมอเสริฐ ย้ำว่าจะต่างจากที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพของคน การลดน้ำหนัก ความสวยความงาม และดูแลอาหารการกิน แต่ของบีดีเอ็มเอสจะเน้นในเชิงวิชาการ เป็นการต่อเนื่องจากการพัฒนา Excellence Center ทั้ง 9 แห่ง ให้มีศักยภาพเทียบเท่าโรงพยาบาลในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมา บีดีเอ็มเอส ได้มีความร่วมมือกับโรงพยาบาลระดับท็อปของโลก 8-9 แห่ง ทำงานร่วมกันการแลกเปลี่ยนบุคลากร ดึงบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาทำงานวิจัย ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว โครงการนี้จึงเป็นการต่อยอดจากการพัฒนา Excellence Center ทั้ง 9 แห่ง (ด้านโรคสมองโรคมะเร็ง โรคลมชัก โรคระบบทางเดินอาหาร ระบบเครือข่ายการแพทย์ฉุกเฉินและอุบัติเหตุ โรคข้อและกระดูก โรคพยาบาลเด็กและระบบอาชีวอนามัย)

ดังนั้นบีดีเอ็มเอส เวลเนส เซ็นเตอร์ จึงมีรูปแบบการบริการที่แบ่งออกเป็น 1. การป้องกัน (Prevention) จากปัจจุบันคนตายด้วยมะเร็งอันดับ 1 ไม่ใช่โรคหัวใจ ที่โรงพยาบาลต่างๆ สามารถแก้ไขและป้องกันปัญหาโรคหัวใจได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการทำบายพาส สามารถแก้ไขและการป้องกันเส้นเลือดอุดตันได้ แต่บีดีเอ็มเอสมองว่าความรู้ทางสุขภาพอนามัย มันน่าจะไปได้ยาวกว่า เพราะคนอายุยืนขึ้น คนยอมจ่ายเงินเพื่อการรักษามากขึ้นจึงมาทบทวนใหม่ ว่าเวลเนส เซ็นเตอร์ จะเอาด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ไม่ได้รักษาเมื่อป่วยเป็นโรคแล้ว แต่เป็นการป้องกัน ทำอย่างไรไม่ให้เป็นโรคเบาหวาน หัวใจ มะเร็ง

ส่วนที่ 2 เป็นการรักษาโรคปัจจุบัน ด้วยการมีความร่วมมือกับเครือข่ายโรงพยาบาลชั้นนำ และนำบุคคลกรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมงาน ส่วนที่ 3 เป็นการให้บริการ Longevity เนื่องจากคนต้องการมีอายุยืนยาวขึ้น เช่น คนไทยที่มีอายุ 74 ปีแต่ต้องการมีอายุ 80 ปี ก็สามารถให้การดูแลได้ แต่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ 80% ไม่ได้ต้องการมีอายุที่ยืนยาว แต่ต้องการมีชีวิตอยู่แบบสบาย เหมาะสมกับอายุ ไม่ต้องการบีบคั้นร่างกายจนเกินไป

เชิญ 100 คนแรกเป็นสมาชิก

"ประมาณ 6 เดือนหรือช่วงเดือนเมษายน 2560 จะเปิดให้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) ก่อน เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงสถานที่ และรูปแบบการขายเป็นโอพีดีอาจจะขายเป็นแพ็กเกจ ซึ่งจะเป็นการตรวจรักษา และเอนไทเอจจิ้ง ทำให้คนสบายขึ้นแต่ยังไม่ถึงพาร์ตลองเกรวิตี้ จุดเด่นของเราจะต่างจากที่เขาทำทั่วไป

ในเรื่องวิทยาการองค์ความรู้ ที่เราใส่ไปมากกว่า ที่อื่นก็ทำดีเป็นเวลเนสจริงๆ การดูแลเรื่องอาหารการกิน การทำให้ร่างกายผอมลง ดูสวยงามขึ้น ซึ่งคนมาใช้บริการจะไม่รับคนทั่วไปแต่จะรับเฉพาะสมาชิก ที่จะมีการเชิญคนมาเป็นสมาชิกปีละประมาณ 100 คน ด้านสถานที่จะปรับปรุงโรงแรม 338 ห้องมาปรับใช้ ซึ่งส่วนใหญ่ทำโครงสร้างไว้ดีมาก แต่ต้องปรับให้อยู่สบายโดยที่ตัวโครงสร้างไม่ต้องทำอะไร และคงไม่ได้ใช้ห้องทั้งหมด"

ผุดสถาบันฟันเทียบชั้นโลก

หมอเสริฐ ยังเล่าถึงแผนการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อีกว่า อีกบริการที่จะมีอยู่ในเวลเนสเซ็นเตอร์ จะเป็นสถาบันฟันใหม่ที่ถูกยกระดับให้เทียบเท่ามาตรฐานยุโรปและสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับExcellence Center เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย หากมีอาการไม่มากสามารถรักษาได้ทันที

แต่หากเป็นโรคที่มีอาการมากก็สามารถพักรักษาตัวเพื่อทำการรักษาได้ ซึ่งอัตราค่ารักษาฟันในต่างประเทศแพงกว่าประเทศไทย 4-5 เท่า และการให้บริการรักษาฟันถือว่ามีอัตรากำไรมาก และไม่การรักษาไม่ซับซ้อนเมื่อเทียบกับโรคทั่วไป เนื่องจากมีโรคที่เกี่ยวกับฟันไม่กี่โรค ขณะนี้ได้จัดทำแผนการจัดตั้งสถาบันฟันไว้แล้ว คาดว่าภายใน 1 ปีนับจากนี้จะมีสถาบันฟัน ที่มีความรู้ การรักษาและเครื่องมือทัดเทียบเท่ากับการรักษาในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

ขณะเดียวกันยังได้เตรียมสถาบันฝึกอบรมทันตแพทย์ที่เรียนจบใหม่ เพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถให้เทียบเท่ากับต่างประเทศด้วย เป็นการฝึกทันตแพทย์เพื่อให้เข้ามาทำงานร่วมกันให้มาก รวมถึงการนำผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมงานด้วยอย่างน้อยครั้งละ 1 ปี

นอกจากนี้ จะให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก ซึ่งในโลกนี้มีดีมานด์มาก ทั้งจากประเทศจีน อาหรับ และออสเตรเลียแต่จะทำให้ถูกต้อง คนอายุน้อยๆ ก็สามารถฝากไข่ไว้ก่อนได้ ถือเป็นโจทย์ที่คนบางประเทศอยากทำแต่การทำเทคโนโลยีต้องเป๊ะ เราจะทำตรงนี้ในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำเช่นกัน

ทิ้งท้าย หมอเสริฐ บอกว่าสิ่งที่ทำดีกับการท่องเที่ยวไทย เพราะรายได้ 14%ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ใช้เพื่อการรักษา“เมดิคัลทัวริซึม” ช่วยไทยแลนด์ 4.0 อีกต่างหาก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,198 วันที่ 6 - 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559