ดำรงค์ พิณคุณ : เกาสมอง..ท้าทายวิกฤติ ด้วยการลงมือทำ

03 ต.ค. 2559 | 12:00 น.
“เส้นทางหากเราไม่เริ่มจดปากกาและลากเป็นคนแรก เราก็ต้องเดินตามคนอื่นตลอดไป” จากจุดเริ่มต้นของชายวัย 26 ปี ที่ไม่หยุดตัวเองอยู่ที่การเป็นพนักงานประจำของบริษัทต่างประเทศ แต่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยมีหัวใจสำคัญคือต้องเป็นธุรกิจที่ไม่เคยปรากฏในประเทศไทย จากเงินทุนเพียง 300,000 บาท กับอินเตอร์เน็ตที่ไม่ต้องพูดถึงความเร็ว แต่ด้วยพลังนักสู้ที่มีอยู่เต็มหัวใจ ผู้ชายที่ชื่อ “ดำรงค์ พิณคุณ” สกุลเดิม วงษ์โชติปิ่นทอง สามารถเปลี่ยนเงิน 300,000 บาท เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลายระดับลักชัวรี “Rester”

[caption id="attachment_103008" align="aligncenter" width="336"] ดำรงค์ พิณคุณ ดำรงค์ พิณคุณ[/caption]

“การทำธุรกิจบนโลกของความเป็นจริงกับบนหน้ากระดาษแตกต่างกัน หากผมทำตาม Business Plan ที่ร่างขึ้นตอนแรก ผมคงหมดตัว” จากเก้าอี้นวด 5 ตัว ที่เจรจาขอซื้อด้วยตนเองจากโรงงานผู้ผลิตชั้นนำที่ประเทศไต้หวัน จากสินค้าที่เดินตาม Business Plan แล้วหาหนทางเรียกทุนกลับแทบไม่เจอ จากงานแสดงสินค้า Thailand Health and Beauty โดยกรมส่งเสริมการส่งออก พื้นที่ 3X3 ตารางเมตร เก้าอี้นวดแบรนด์ของตัวเองแบรนด์แรก กับชื่อ “Rester” ที่ภรรยาเป็นผู้ตั้ง และการเป็นครั้งแรกที่เก้าอี้นวดหยอดเหรียญได้โชว์โฉมและคุณสมบัติให้คนได้สัมผัส เปิดบิลออร์เดอร์เก้าอี้นวดหยอดเหรียญจาก 5 ตัว เป็น 10 เป็น 100 ตัว เปลี่ยนจากการเป็นผู้สั่งซื้อเก้าอี้นวดรายเล็กที่สุดของบริษัทผู้ผลิต เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ทะลุยอดออร์เดอร์ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดจากอเมริกา “Rester” ก้าวสู่ธุรกิจมูลค่าร้อยล้านได้ในระยะเวลาเพียง 4 ปี ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจขั้นโคม่าในเหตุการณ์ต้มยำกุ้งปี 2541

ในวันที่ผมมีเวลา มีเงินทอง สามารถหาซื้อทุกสิ่งที่ต้องการได้ แต่สิ่งเดียวที่ผมไม่มีคือสิ่งที่เรียกว่า “ความสุข” ความสำเร็จก้าวแรกของธุรกิจคุณดำรงค์สามารถปล่อยให้ธุรกิจและเงินทำงานได้ในวันเพียง 30 ปี คุณดำรงค์พบว่าตนเองมีเวลาเหลือล้นที่จะทำอะไรก็ได้ตามความต้องการ แต่สิ่งที่เผชิญและกลายเป็นความเครียดรบกวนจิตใจคือ ตื่นขึ้นมาจะทำอะไร จะไปที่ไหน จะทานอะไร จนตั้งคำถามกับตนเองว่า คนเราจะมีความสุขได้อย่างไร? และอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าการประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง? จึงตัดสินใจเข้าเรียนแทบทุกหลักสูตรและการเปิดอบรมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารธุรกิจในขณะนั้นทั้งในและต่างประเทศตลอด 5 ปี ช่วงเวลาที่คลังสมองอัดแน่นไปด้วยหลักทฤษฎีที่กลั่นกรองกับภาคปฏิบัติประจวบเหมาะกับการให้สัมภาษณ์รายการวิทยุในประเด็นเศรษฐกิจช่วงวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ 2551 และวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย คุณดำรงค์ตอกย้ำกลยุทธ์การเป็นผู้นำองค์กรด้วยการเปิดคำถามกับผู้ร่วมรายการว่า “ถ้าเทวดามาเป็นนายกรัฐมนตรี คุณจะรวยขึ้นหรือไม่?” พร้อมปิดการสนทนาว่าสำหรับผู้บริหารไม่ว่าสถานการณ์แบบใดทุกอย่างต้องเดินหน้า เมื่อพบกับโจทย์ที่ยากขึ้น เราต้องใช้กลยุทธ์การบริหารที่มากกว่าเดิม และในช่วงเวลานั้นเองที่คุณดำรงค์ตัดสินใจเปิดบริษัทของตนเองขึ้นอีก 2 บริษัท หนึ่งบริษัทเพื่อตอบโจทย์งานเขียนหนังสือที่กำลังเริ่มต้นขึ้น และอีกหนึ่งบริษัทเพื่อจัดงานฝึกอบรม สร้างกระบวนการคิดถูกและทำถูกให้กับทุกคนหัวใจที่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งนักสู้

[caption id="attachment_103009" align="aligncenter" width="336"] ดำรงค์ พิณคุณ ดำรงค์ พิณคุณ[/caption]

“ผมเหมือนถูกฟ้าลิขิตมาให้ทำงานยาก ในช่วงเวลาที่ยาก และทำสิ่งที่ยากให้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง” จากหนึ่งธุรกิจที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2541 ท่ามกลางวิกฤติต้มยำกุ้ง ต่อมาให้หลังอีก 10 ปี กับอีก 2 ธุรกิจ ในช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ คุณดำรงค์ นำคลังความรู้ที่อัดแน่นเป็นพลังงานสะสมพร้อมระเบิด พรั่งพรูออกมาเป็นตัวหนังสือที่ดูเหมือนจะไม่มีวันหมด เปลี่ยนจากนักธุรกิจเป็นนักเขียนกลยุทธ์การตลาดฉบับอ่านง่ายคู่กระเป๋าฉบับภาษาไทยมากกว่า 60 ปก ภาษาอังกฤษ 30 ปก และยังมีการซื้อลิขสิทธิ์แปลเป็นภาษาต่างๆ และวางจำหน่ายกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
พอเริ่มเขียนหนังสือ ผมก็เริ่มศึกษาวงการหนังสืออย่างจริงจังและพบว่า หนังสือที่พิมพ์ขึ้นในประเทศไทยตกปีละ 18,000 ปก เฉลี่ยวันละ 50 ปก ทำอย่างไรที่จะมีหนังสือของเราครองพื้นที่บนชั้นหนังสือได้ตลอดปี ผมจึงเริ่มตื่นตี 4 ลุกขึ้นมาเขียนหนังสือที่ไม่ได้เป็นเนื้อหายาวๆ แต่เกิดจากการกลั่นกรอง แยกหมวดหมู่ และย่อยรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดจากการเรียนภาคทฤษฎี ประสบการณ์ในธุรกิจ และข้อสังเกตจากการดำเนินชีวิตในทุกวันของผม โดยอธิบายผ่านภาพการเชื่อมโยงองค์ความรู้และความคิด เกิดเป็นศิลปะในตัวหนังสือ หรือที่ปัจจุบันเรียกกันว่าอินโฟร์กราฟิก เพียงแค่มองปราดเดียวก็เข้าใจ วิธีการนี้นอกจากทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการตลาดหรือองค์ความรู้เชิงลึกด้านการบริหารเข้าใจง่ายแล้ว ผมสามารถสร้างหนังสือได้เฉลี่ย 2 สัปดาห์ต่อหนึ่งเล่ม ตอกย้ำชื่อ “ดำรงค์ พิณคุณ” ในฐานะนักเขียน และหน้าปกหนังสือที่เกิดจากการใช้เส้นง่ายๆ อย่าง สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม และวงกลม ผสานรวมกันดึงดูดสายตาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของหนังสือคู่ใจบนโต๊ะข้างหัวเตียง

การเป็นและเขียนและวิทยากรทำให้ผมพบว่า ทุกวันนี้เราต่างต้องการประสบความสำเร็จ มีเงินทอง มีทุกอย่าง ทุกคนต่างเรียนมาสูงๆ ในระดับที่พอๆ กัน แต่พอถึงเวลานำมาใช้จริงๆ นำมาบริหารจริงๆ มีน้อยคนที่จะหลุดออกจากกรอบที่ยึดกันอยู่ได้ “The Success” คือหลักสูตรที่ถูกกลั่นกรองจากสิ่งที่ผมเรียนและประสบการณ์ทั้งหมด บางคนคิดถูกแต่ทำผิด บางคนคิดผิด แต่ทำถูก เพียงเราเริ่มต้นจากการคิดถูกและทำถูก มองความอยากที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเป็นเป้าหมาย และแยกแยะสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราย่ำแย่ลงเป็นกิเลสได้แล้ว ทุกคนก็สามารถเผชิญเส้นทางที่ยาก และสนุกกับโจทย์ชีวิตใหม่ๆ ของเราได้ทุกวันเช่นกัน

“ยามเด็ก การกระโดดโลดเต้นท่ามกลางสายฝนคือความสุข ยามโต เม็ดฝนคือมวลปัญหาที่กระทบผิวพรรณ ร่างกาย และเงินในกระเป๋า ทำไมเมื่อเราโตขึ้น เมื่อหัวใจเราใหญ่ขึ้น ความสุขเรากลับลดลง ดังนั้นฝนจะสุขหรือจะทุกข์อยู่ที่ความคิดของเราเอง” ดำรงค์ พิณคุณ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,197 วันที่ 2 - 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559