หลง(ทาง) รักเซี่ยงไฮ้

01 ต.ค. 2559 | 11:00 น.
เป็นความรู้ใหม่ที่ได้รับ เมื่อบริษัทซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารแฟรนไชส์ "เซเว่นอีเลฟเว่นในประเทศไทย ได้ร่วมกับอาศรมสยาม-จีนวิทยา จัดทริปพาสื่อมวลชนไทย 13 ชีวิต สัมผัสมหานครเซี่ยงไฮ้ในมุมมองใหม่ที่แตกต่างกว่าทุกครั้ง สร้างความประทับใจมิรู้ลืม ระหว่างวันที่ 1-5 กันยายน ที่ผ่านมา

จังหวะชีวิตในมหานครเซี่ยงไฮ้นั้น หมุนเร็วกว่าอีกหลายๆ เมืองใหญ่ของจีน เซี่ยงไฮ้วันนี้ได้รับการยกให้เป็นมหานคร ที่มีชีวิตชีวาที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก นับตั้งแต่สินค้า ภูมิทัศน์ จนถึงค่านิยมใหม่ที่เปลี่ยนแปลงแบบติดจรวด ป่าตึกสูงต่างเสียดยอดทะลุม่านหมอกสีเทา แออัดกันอยู่สองฝั่งแม่น้ำ "หวงผู่" ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

[caption id="attachment_102124" align="aligncenter" width="500"] ป่าตึกสูงต่างเสียดยอดทะลุม่านหมอกสีเทา ป่าตึกสูงต่างเสียดยอดทะลุม่านหมอกสีเทา[/caption]

ทว่าห่างออกไปทางตะวันออกจากเซี่ยงไฮ้เพียง 100 กิโลเมตรกลับปรากฏภาพดั้งเดิมของโลกตะวันออกเหมือนเดินย้อนอดีต นั้นคือย่านชนบทของหมู่บ้าน "อู่เจิ้น" ตำบลเก่าแก่ในเมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ที่มีอารยธรรมที่ยาวนาน 7,000 ปี

เมืองนี้มีความพิเศษมากกว่าเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม ที่นี่ยังคงดำรงรักษาไว้ได้เกือบเต็มร้อย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม หรือสะท้อนจากภาพลวดลายการแกะสลักไม้ทั้งบานประตูและหน้าต่าง การแกะสลักหิน ซึ่งจะเห็นได้ตามเสาสะพานที่ผ่านสายตาตลอดจนรูปปั้นต่างๆ ล้วนสะท้อนอารยธรรมจีนอันล้ำค่ายิ่ง

[caption id="attachment_102123" align="aligncenter" width="500"] แม่น้ำซื่อเหอ แม่น้ำซื่อเหอ[/caption]

"อู่เจิ้น" มีชื่อเสียงมากเรื่องของความงามสองฝั่งแม่น้ำ "ซื่อเหอ" จนเป็นที่กล่าวขานว่า "เมืองโบราณบนสายน้ำ คล้ายเมืองเวนิซในอิตาลี"นักท่องเที่ยวพลาดการล่องเรือชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งคลองหมู่บ้าน "อู่เจิ้น" เท่ากับไม่ได้เดินทางมาที่นี่

แม้ไฮไลต์ของทริปนี้คือการชมความทันสมัยเมืองเซี่ยงไฮ้ ช็อปปิ้งกับการกินอาหารอร่อยๆ หากแต่ในความรู้สึกของผู้เขียนมีความประทับใจผู้คนในเซี่ยงไฮ้มาก จึงอยากถ่ายทอดความรู้สึกให้ผู้คนรับรู้ แต่ก่อนเคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับคนจีนมีแต่เรื่องความไร้ระเบียบ เรื่องมรรยาท แต่สิ่งที่ผู้เขียนได้พบเห็นและสัมผัสมาครั้งนี้ ต่างกันสิ้นเชิง

"เซี่ยงไฮ้" บ้านเมืองเขาก็พัฒนาไปมากพร้อมๆกับ "คนจีน" ในเซี่ยงไฮ้ก็พัฒนาไปมาก คือการขึ้นรถ คือถ้าเขามาทีหลังเขาจะไม่ยอมขึ้นจนกว่าเราจะขึ้นก่อน เพราะเขาเห็นเรามาก่อน เคยได้ยินเรื่องการเบียดแย่งคิวกันในจีน แต่พอได้สัมผัสความจริงแล้วมันต่างกันมาก หรือจะเป็นเฉพาะ "คนเซียงไฮ้" ก็ไม่แน่

นอกจากการมีมรรยาททางสังคมที่ลบภาพ "คนจีน" ชอบแย่งกัน ผู้เขียนยังประทับใจ "น้ำใจ" คนที่นี่มีน้ำใจจริงๆ เพราะผู้เขียนได้รับประสบการณ์ตรงจากทริปนี้ คืนหนึ่งที่ปลีกตัวมาเดินคนเดียว ด้วยความอยากรู้อยากผู้คนเมืองใหญ่เมืองนี้ยามค่ำคืนเขาทำอะไรกัน แต่พอจะกลับโรงแรมนี่สิ จำทางไม่ได้ คิดว่าคงหลงแล้วแน่นอน จึงปรี่เขาไปถามคนแถวนั้น แต่ก็สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เขาใช้ภาษาจีน ผู้เขียนใช้ภาษาใบ้ เลยก็เอาแผนที่โรงแรมให้ดู เขาก็ชี้ให้ดูเดินไปยังไง เราก็งงๆแล้วเขาก็พามาส่งเกือบถึงปากทางโรงแรม คนที่นี่ช่างมีน้ำใจจริงๆ

ผู้เขียน รู้สึกโชคดีที่ได้มาเที่ยวเมืองเซี่ยงไฮ้และยังได้รับน้ำใจดีๆจากคนเซี่ยงไฮ้ด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,196
วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559