ซับคอมแพ็กต์ เอ็มจี 5 สนุกจัดจ้านเกินราคา

เอ็มจี ค่ายรถอังกฤษที่ถูกเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทิฟซื้อกิจการไป บุกตลาดรถยนต์ไทยด้วยการจับมือซีพี เปิดบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่จัดจำหน่ายรถทุกรุ่นที่ประกอบในประเทศ โดยเอ็มจี 3 ทำให้ประชากรเอ็มจีเพิ่มขึ้นอย่างมาก ล่าสุด เอ็มจียังได้ส่งเอ็มจี 5 ซับคอมแพ็กต์ตัวล่าสุดในราคาเริ่มต้นที่ 6.49 แสนบาท จนถึงรุ่นท็อป 7.59 แสนบาท

ผมมีโอกาสได้หยิบยืมเอ็มจี 5 รุ่น 1.5 เทอร์โบ เอ็กซ์ ซันรูฟ ราคา 7.59 แสนบาท รูปลักษณ์ภายนอกสะดุดตาด้วยเส้นสายที่เฉียบคมแนวสปอร์ต ภายใต้แนวคิด คูเป้ ดีไซน์ (Coupe Design) มิติตัวถังแบบ 4 ประตูที่เน้นความปราดเปรียว ฝากระโปรงหน้ามีสันขอบรูปทรง V-Shape ที่ชัดเจน สอดรับอย่างลงตัวกับกรอบไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ที่ให้ความเท่ทั้งในเวลากลางวันและเพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืน ดึงดูดทุกสายตา และเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นด้วยไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันหรือ Daytime Running Lights (DRL) ไฟท้ายดีไซน์แบบยาวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ เอ็มจี ยกระดับความคุ้มค่าด้วยหลังคาซันรูฟที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

[caption id="attachment_101609" align="aligncenter" width="500"] ภายในห้องโดยสารของเอ็มจี 5[/caption]

ภายในห้องโดยสารของเอ็มจี 5 ฉีกดีไซน์ออกจากเอ็มจี 3 มาเป็นคนละเรื่อง เพราะถูกพัฒนาให้มีขนาดใหญ่เทียบเท่ารถคอมแพ็กต์ ห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย เพื่อผู้โดยสารทุกที่นั่งตลอดการเดินทาง เบาะที่นั่งหุ้มหนังโอบกระชับลำตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แผงคอนโซลหน้าและหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต พร้อมหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ สะดวกยิ่งขึ้นด้วยระบบเครื่องเสียงและหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วที่แสดงผลระบบนำทาง และภาพจากกล้องมองหลัง ตลอดจนการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ทุกเส้นทาง

[caption id="attachment_101610" align="aligncenter" width="500"] เครื่องยนต์ TURBO 1.5 ลิตร[/caption]

เอ็มจี 5 มีเครื่องยนต์เบนซิน 2 รุ่นให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินคือรุ่น 1.5 ลิตร พละกำลังสูงสุดที่ 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที แต่รุ่นท็อป ใช้ เครื่องยนต์ TURBO 1.5 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุดถึง 210 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์กว้าง 2,000-4,400 รอบต่อนาที จึงให้อัตราเร่งที่จัดจ้าน กดเมื่อไรเร่งแซงทันใจมาก สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างเร้าใจ และยังรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ด้วย ขณะที่ซีวิค 1.5 TURBO ยังได้แค่ E 20

อีกสิ่งที่เอ็มจี 5 ทำได้โดดเด่นมาก คือระบบกันสะเทือนแบบ European Tuning Suspension มาตรฐานสูงสุดแบบยุโรป ด้านหน้าแบบ Ultra-Rigid MacPherson Strut ด้านหลังแบบ H-Type Torsion Beam คานขวางแบบ U-Shape ให้การยึดเกาะถนนที่แน่นหนึบทุกย่านความเร็ว ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบ LDC (Low Dragging Calipers) ตอบสนองทุกการสั่งการอย่างรวดเร็วและเฉียบคม

เอ็มจี 5 ยังอัดแน่นด้วยระบบเทคโนโลยีความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC และ ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ITPMS และ ระบบควบคุมการทรงตัว SCS แต่สิ่งที่เด่นกว่าใครคือ การติดตั้งระบบ inkaNet เทคโนโลยีการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ เอ็มจี ที่ทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายจริงๆเหมือนเป็นเลขาส่วนตัว แต่เชื่อว่า ส่วนใหญ่เอาไว้เล่นอินเตอร์เน็ตขณะเดินทางมากกว่า โดยลูกค้าจะได้สิทธิพิเศษสามารถเชื่อมต่อระบบ inkaNet นาน 5 ปี

ต้องยอมรับว่า เอ็มจี 5 น่าใช้น่าคบมาก สมรรถนะโดดเด่น ออพชันล้น ราคายั่วใจมาก แต่จะหนักใจเรื่องศูนย์บริการที่ยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร อีกทั้งยังไม่เป็นรถที่ตลาดนิยมกันนัก ซึ่งทางเอ็มจี เซลส์ก็พยายามยกระดับราคามือสองด้วยการตั้งแผนกยูสคาร์ขึ้นมารองรับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25 - 28 กันยายน พ.ศ. 2559