ล็อกซเล่ย์ผนึก‘อาลีบาบา’ จัดหลักสูตรต่อยอดเอสเอ็มอีเรียนลัดอี-คอมเมิร์ซ
ล็อกซเล่ย์ วางยุทธศาสตร์กรุยทางธุรกิจสู่ดิจิตอล ชิมลางผนึก "อาลีบาบ่า" เป็นพาร์ตเนอร์จัดการหลักสูตร "ดรีมทริป" เรียนรู้การทำการค้าออนไลน์ ก่อนต่อยอดให้บริการอื่นๆ ของอาลีบาบา พร้อมเล็งนำสินค้าในกลุ่มขายผ่านแพลตฟอร์มยักษ์อี-คอมเมิร์ซจีน
นางวนิดา แสงแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาและพัฒนาช่องทาง บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทมีนโยบายปรับธุรกิจไปสู่ดิจิตอลมากขึ้น ล่าสุดได้เริ่มเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซระดับโลก "อาลีบาบาดอตคอม" (Alibaba.com) โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการหลักจัดหลักสูตรการทำธุรกิจการค้าออนไลน์แบบ ธุรกิจต่อธุรกิจ (B2BX ระดับเข้มข้น ภายใต้ชื่อ "อาลีบาบาดรีมทริป" (Alibaba Dream Trip) โดยเปิดให้ผู้สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง หรือเอสเอ็มอี ที่ต้องการขยายช่องทางค้าขายแบบออนไลน์ ได้เข้ามาเรียนรู้เทคนิคการทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซกับอาลีบาบา โดยมีโอกาสได้เรียนรู้การบริหารงานแบบ อาลีบาบา เรียนรู้ระบบอาลีเพย์ (Alipay) และเทคนิคการเปิดร้านออนไลน์ให้มีรายได้เป็นล้านต่อปี โดยจะได้ไปสัมผัสประสบการณ์จริง ที่สำนักงานใหญ่เมืองหังโจวประเทศจีน เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน ซึ่งหลังจากจบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศนียบัตรหลักสูตรอี-คอมเมิร์ซจากอาลีบาบา และภายหลังจบหลักสูตรสามารถ สมัครเป็นสมาชิกอาลีบาบาได้ทันที โดยจะมีการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการนำสินค้าเข้าไปขายในอาลีบาบา
"อาลีบาบา ต้องการให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ประกอบการไทยในการทำอี-คอมเมิร์ซก่อน ขณะที่ล็อกซเล่ย์ มีฐานลูกค้าที่เป็นภาคการศึกษา ฐานข้อมูลเอสเอ็มอี ที่ทำร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) 1 ล้านราย และมีฐานลูกค้าของธนาคารที่เป็นพันธมิตร ดังนั้นจึงได้เริ่มต้นเป็นพันธมิตรในการจัดโปรแกรมอาลีบาบาดรีมทริป ขึ้นมา โดยจะเริ่มครอสแรกประมาณเดือนพฤศจิกายน ซึ่งแต่ละครอสจะเปิดรับ 30-50 คน"
นางวนิดา กล่าวต่อไปว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับอาลีบาบ่าครั้งนี้เป็นเพิ่งจุดเริ่มต้นสู่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หรือดิจิตอลของกลุ่มล็อกซเล่ย์ โดยต่อไปจะมีการเจรจาเป็นผู้ให้บริการด้านอื่นๆของอาลีบาบา ขณะเดียวกันก็ได้เตรียมสมัครเป็นสมาชิกโกลด์เมมเบอร์ ของอาลีบาบา ในการทำสินค้าของเครือล็อกซเล่ย์ เข้าไปขายผ่านแพลตฟอร์มอาลีบาบา ในรูปแบบบีทูบี อี-คอมเมิร์ซ อาทิ กลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง คอนซูเมอร์โปรดักต์ และไอทีโปรดักต์
[caption id="attachment_101871" align="aligncenter" width="335"]
เจอรี่ วู
ผู้จัดการอาลีบาบาประจำประเทศไทยและลาว[/caption]
ด้านนายเจอรี่ วู ผู้จัดการอาลีบาบาประจำประเทศไทยและลาว กล่าวว่าบริษัทมีนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการนำสินค้าเข้ามาขายผ่านแพลตฟอร์มอาลีบาบาไปยังตลาดโลก โดยขณะนี้ประเทศที่ซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอาลีบาบามากสุด คือ สหรัฐฯ รองลงมาคือรัสเซีย และยุโรป อย่างไรก็ตามต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ จึงได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับล็อกซเล่ย์ ซึ่งเป็นโลคัลพาร์ตเนอร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในไทย โดยคาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้ประกอบการไทยนำสินค้าเข้ามาขายผ่านอาลีบาบ่าเพิ่มขึ้นเป็น 2,000-3,000 ราย จากปัจจุบันมีอยู่ไม่ถึง 1,000 ราย อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ทำการจัดเก็บตัวเลขมูลค่าการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าของกลุ่มผู้ประกอบการไทย โดยคาดว่าในปีหน้าจะเริ่มเก็บข้อมูลธุรกรรมซื้อขาย
"ความร่วมมือกับล็อกซเล่ย์ในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันธุรกิจของเอสเอ็มอีไทยเข้าสู่ช่องทางอี-คอมเมิร์ซได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายฐานสมาชิกเว็บไซต์อาลีบาบาในประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,196
วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559
นางวนิดา แสงแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาและพัฒนาช่องทาง บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทมีนโยบายปรับธุรกิจไปสู่ดิจิตอลมากขึ้น ล่าสุดได้เริ่มเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซระดับโลก "อาลีบาบาดอตคอม" (Alibaba.com) โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการหลักจัดหลักสูตรการทำธุรกิจการค้าออนไลน์แบบ ธุรกิจต่อธุรกิจ (B2BX ระดับเข้มข้น ภายใต้ชื่อ "อาลีบาบาดรีมทริป" (Alibaba Dream Trip) โดยเปิดให้ผู้สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง หรือเอสเอ็มอี ที่ต้องการขยายช่องทางค้าขายแบบออนไลน์ ได้เข้ามาเรียนรู้เทคนิคการทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซกับอาลีบาบา โดยมีโอกาสได้เรียนรู้การบริหารงานแบบ อาลีบาบา เรียนรู้ระบบอาลีเพย์ (Alipay) และเทคนิคการเปิดร้านออนไลน์ให้มีรายได้เป็นล้านต่อปี โดยจะได้ไปสัมผัสประสบการณ์จริง ที่สำนักงานใหญ่เมืองหังโจวประเทศจีน เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน ซึ่งหลังจากจบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศนียบัตรหลักสูตรอี-คอมเมิร์ซจากอาลีบาบา และภายหลังจบหลักสูตรสามารถ สมัครเป็นสมาชิกอาลีบาบาได้ทันที โดยจะมีการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการนำสินค้าเข้าไปขายในอาลีบาบา
"อาลีบาบา ต้องการให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ประกอบการไทยในการทำอี-คอมเมิร์ซก่อน ขณะที่ล็อกซเล่ย์ มีฐานลูกค้าที่เป็นภาคการศึกษา ฐานข้อมูลเอสเอ็มอี ที่ทำร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) 1 ล้านราย และมีฐานลูกค้าของธนาคารที่เป็นพันธมิตร ดังนั้นจึงได้เริ่มต้นเป็นพันธมิตรในการจัดโปรแกรมอาลีบาบาดรีมทริป ขึ้นมา โดยจะเริ่มครอสแรกประมาณเดือนพฤศจิกายน ซึ่งแต่ละครอสจะเปิดรับ 30-50 คน"
นางวนิดา กล่าวต่อไปว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับอาลีบาบ่าครั้งนี้เป็นเพิ่งจุดเริ่มต้นสู่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หรือดิจิตอลของกลุ่มล็อกซเล่ย์ โดยต่อไปจะมีการเจรจาเป็นผู้ให้บริการด้านอื่นๆของอาลีบาบา ขณะเดียวกันก็ได้เตรียมสมัครเป็นสมาชิกโกลด์เมมเบอร์ ของอาลีบาบา ในการทำสินค้าของเครือล็อกซเล่ย์ เข้าไปขายผ่านแพลตฟอร์มอาลีบาบา ในรูปแบบบีทูบี อี-คอมเมิร์ซ อาทิ กลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง คอนซูเมอร์โปรดักต์ และไอทีโปรดักต์
[caption id="attachment_101871" align="aligncenter" width="335"]
ผู้จัดการอาลีบาบาประจำประเทศไทยและลาว[/caption]
ด้านนายเจอรี่ วู ผู้จัดการอาลีบาบาประจำประเทศไทยและลาว กล่าวว่าบริษัทมีนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการนำสินค้าเข้ามาขายผ่านแพลตฟอร์มอาลีบาบาไปยังตลาดโลก โดยขณะนี้ประเทศที่ซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอาลีบาบามากสุด คือ สหรัฐฯ รองลงมาคือรัสเซีย และยุโรป อย่างไรก็ตามต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ จึงได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับล็อกซเล่ย์ ซึ่งเป็นโลคัลพาร์ตเนอร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในไทย โดยคาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้ประกอบการไทยนำสินค้าเข้ามาขายผ่านอาลีบาบ่าเพิ่มขึ้นเป็น 2,000-3,000 ราย จากปัจจุบันมีอยู่ไม่ถึง 1,000 ราย อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ทำการจัดเก็บตัวเลขมูลค่าการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าของกลุ่มผู้ประกอบการไทย โดยคาดว่าในปีหน้าจะเริ่มเก็บข้อมูลธุรกรรมซื้อขาย
"ความร่วมมือกับล็อกซเล่ย์ในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันธุรกิจของเอสเอ็มอีไทยเข้าสู่ช่องทางอี-คอมเมิร์ซได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายฐานสมาชิกเว็บไซต์อาลีบาบาในประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,196
วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559