ข้าว-มัน-ยางลุ้นออร์เดอร์ไตรมาส4 บิ๊กธุรกิจยังมั่นใจเข้าป้าย-ปีหน้าฟื้น

29 ก.ย. 2559 | 12:00 น.
บิ๊กส่งออกสินค้าเกษตร"ข้าว ยาง มัน" ยังต้องลุ้นยอดไตรมาสสุดท้าย หลังลูกค้าปรับแผนสั่งซื้อส่งมอบแบบเดือนต่อเดือน "ซี.พี.อินเตอร์เทรด-ข้าวไชยพร" ยังมั่นใจสิ้นปีเข้าป้าย ขณะไทยฮั้ว-เอสทีซี ทำใจยอดลดลงจากตลาดใหญ่จีนลดสั่งซื้อ ประสานเสียงปี 60 ฟื้นตัว คาดเศรษฐกิจคู่ค้า-เศรษฐกิจโลกดีขึ้น

นายฐิติ ลุจินตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจการค้าข้าวและอาหารในประเทศและต่างประเทศ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้บริษัทส่งออกข้าวได้แล้วประมาณ 4 แสนตัน จากเป้าหมายส่งออกปีนี้ที่ 6 แสนตัน มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท โดยในอีก 2 แสนตันที่เหลือยังต้องลุ้น เพราะในสินค้าข้าวเวลานี้ผู้ซื้อไม่รีบซื้อ แต่ชะลอดูผลผลิต และราคาข้าวใหม่ของไทยที่จะออกมาในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม การซื้อจากนี้เป็นแบบเดือนต่อเดือน คือเมื่อสั่งซื้อแล้วให้ส่งมอบภายใน 1 เดือน

"วันนี้ไม่มีใครขายไกลถึงสิ้นปี และออร์เดอร์เดือนไกลก็ยังไม่มี แต่ทางบริษัทยังมั่นใจถึงสิ้นปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายส่วนหนึ่งจะได้จากข้าวจีทูจีที่รัฐไปประมูลมา และจัดสรรโควตาให้เอกชนเป็นผู้ส่งมอบ อีกส่วนหนึ่งเป็นข้าวที่เราไปเจาะตลาดเอง เช่นตลาดข้าวหอมมะลิตลาดสหรัฐฯและยุโรปที่จะเริ่มซื้อไปเก็บในเดือน 11-12 ตลาดข้าวและข้าวนึ่งในแอฟริกาที่คาดจะมีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น ภาพรวมคำสั่งซื้อส่งมอบในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้น่าจะใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีแล้ว เป้าที่วางไว้น่าจะเป็นไปได้ ส่วนปี 2560 บริษัทวางเป้าหมายส่งออก ที่ 7.2 แสนตัน มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท โดยจะรุกขยายตลาดจีนและอาเซียนที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น"

ขณะที่นายเสริมศักดิ์ ควรทรงธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ข้าวไชยพร จำกัด เผยว่า การส่งออกข้าวของบริษัทช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ส่งออกแล้วประมาณ 2 แสนตัน จากเป้าหมายในปีนี้มากกว่า 3 แสนตัน ยังต้องลุ้นคำสั่งซื้อเช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องรอดูว่าฟิลิปปินส์จะเปิดประมูลซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)อีกเมื่อใด จากเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ไทยชนะประมูลขายข้าวจีทูจีให้ฟิลิปปินส์มาได้ 1 แสนตัน โดยกรมการค้าต่างประเทศมอบหมายให้สมาชิกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเป็นผู้ส่งมอบข้าวให้แล้วเสร็จภายในตุลาคมนี้

"บริษัทยังคาดจะทำได้ตามเป้าหมาย 3 แสนกว่าตัน ส่วนหนึ่งคาดหวังกระทรวงพาณิชย์จะไปประมูลข้าวจีทูจีจากฟิลิปปินส์ที่คาดจะปิดประมูลในล็อตต่อไปในเดือนพฤศจิกายนไม่ต่ำกว่า 2.5 แสนตัน รวมถึงการเจรจาส่งมอบข้าวจีทูจีกับจีนใน 1 ล้านตันที่สอง และจากตลาดมาเลเซีย ตลาดญี่ปุ่น และตลาดอื่นๆ ที่คาดจะมีความต้องการเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี"

นายหลักชัย กิตติพล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมคำสั่งซื้อยางพาราเพื่อส่งมอบในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ดีขึ้น โดยเฉพาะคำสั่งซื้อจากจีนผู้ใช้ยางพารารายใหญ่สุดของโลกตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ตลาดสหรัฐฯก็ขยับดีขึ้น อย่างไรก็ดีในปีนี้บริษัทคาดจะส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพาราได้ไม่เกิน 3 แสนตัน มูลค่าราว 1.5 หมื่นล้านบาท ผลจากในปีนี้ราคายางส่งออกทุกประเภทเฉลี่ยลดลงประมาณ 10% ผลจากนโยบายความร่วมมือ 3 ประเทศ (ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย)ในการลดการส่งออกยาง(มี.ค.-ส.ค.59)เพื่อช่วยดันราคาในประเทศ และผลจากในรอบปีนี้บริษัทอยู่ระหว่างดีลธุรกิจโดยดึงกลุ่มก๋วงเขิ่นจากจีนเข้ามาถือหุ้น

"ปีหน้าเราน่าจะกลับจะมาได้ มีเป้าหมายส่งออกในปี 2560 ที่ 6 แสนตัน มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมองว่าอุตสาหกรรมยางได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในนี้ ปีหน้าเศรษฐกิจโลกคาดจะฟื้นตัว ราคายางน่าปรับขึ้นจากปีนี้เฉลี่ย 10%"

ด้านนายเจน วงศ์บุญสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ(อาวุโส) บริษัท เอสทีซี ทาปิโอก้า กรุ๊ป จำกัด ได้คาดการส่งออกสินค้ามันเส้นของทางกลุ่มในปี 2559 ว่า จะอยู่ที่ระดับ 3 แสนตัน จากปี 2558 อยู่ที่ระดับ 4 แสนกว่าตัน เป้าหมายดังกล่าวจะได้หรือไม่ยังต้องลุ้นคำสั่งซื้อจากจีน ซึ่งเป็นผู้ใช้ และเป็นตลาดใหญ่สุดของมันเส้นไทยในเดือนที่เหลือของปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไร โดยคงต้องรอดูช่วงสัปดาห์แรกหลังโกลเดน วีก หรือช่วงวันหยุดในเทศกาลวันชาติจีนระหว่าง 1-7 ตุลาคม "เราคาดหวังหลังช่วงโกลเดน วีก จีนจะกลับมาซื้อมันเส้นไทยเพิ่มขึ้น ผลพวงจากทางการจีนประกาศ เมื่อ 19 กันยายนจะหยุดระบายสต๊อกข้าวโพด เพื่อพยุงราคาผลผลิตข้าวโพดใหม่ที่จะออกมาในช่วงกันยายน-พฤษภาคมปีหน้า เราก็หวังจีนจะนำเข้ามันเส้นในเดือนที่เหลือของปีนี้มากขึ้น รวมถึงในปีหน้า"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,196
วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559