แนวโน้มราคาทองคำวันพรุ่งนี้(29 ก.ย.59)
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 28 กันยายน 2559
สภาวะตลาดวันที่ 28 กันยายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,321.75-1,327.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,900 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น.ของวันที่ 28/09/16)
แนวโน้มวันที่ 29 กันยายน 2559
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐสั่งปรับดอยช์ แบงก์ของเยอรมนีเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อรอมชอมคดีการสร้างความเข้าใจผิดต่อลูกค้าในการขายตราสารหนี้ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) อย่างไม่เหมาะสมให้กับลูกค้า จนสร้างความวิตกเกี่ยวกับภาคการเงินของยุโรป เกี่ยวกับสถานะของดอยช์ แบงก์ จนราคาหุ้นดอยช์ แบงก์ร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ กดดันสกุลเงินยูโรอ่อนค่าและหนุนดอลลาร์ปรับตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุลทำให้เกิดความระมัดระวังในการเข้าซื้อทองคำ อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ ส่งผลลบต่อดอลลาร์สหรัฐลดช่วงบวกลงหลังจาก นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ต่อนิสิตที่มหาวิทยาลัยโฮเวิร์ด ว่าไม่ต้องการจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปและอัตราดอกเบี้ยควรจะปรับสูงขึ้นแต่ไม่รู้ว่าเมื่อใดเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความเห็นดังกล่าวทำให้ นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาสต่ำกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนธันวาคม โดยปรับลดลงจากโอกาสสูงกว่า 60% ที่เคยคาดไว้ในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้โดยไม่เป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และเสริมว่าเฟดเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายได้มากกว่ายังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป ถ้อยแถลงของนายวิลเลียมส์ขัดแย้งกับความเห็นของนายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ แต่นายวิลเลียมส์ไม่มีสิทธิออกเสียงในปีนี้ วายแอลจีเชื่อว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,321-1,308 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบน บริเวณ 1,342-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนระยะสั้นรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,321-1,308 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแบบ Sideway โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,342-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,321 (21,630บาท) 1,308 (21,410บาท) 1,300 (21,280บาท)
แนวต้าน 1,342 (21,970บาท) 1,356 (22,200บาท) 1,367 (22,380บาท)
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กราฟราคาทองคำ
สภาวะตลาดวันที่ 28 กันยายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,321.75-1,327.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,900 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น.ของวันที่ 28/09/16)
แนวโน้มวันที่ 29 กันยายน 2559
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐสั่งปรับดอยช์ แบงก์ของเยอรมนีเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อรอมชอมคดีการสร้างความเข้าใจผิดต่อลูกค้าในการขายตราสารหนี้ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) อย่างไม่เหมาะสมให้กับลูกค้า จนสร้างความวิตกเกี่ยวกับภาคการเงินของยุโรป เกี่ยวกับสถานะของดอยช์ แบงก์ จนราคาหุ้นดอยช์ แบงก์ร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ กดดันสกุลเงินยูโรอ่อนค่าและหนุนดอลลาร์ปรับตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุลทำให้เกิดความระมัดระวังในการเข้าซื้อทองคำ อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ ส่งผลลบต่อดอลลาร์สหรัฐลดช่วงบวกลงหลังจาก นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ต่อนิสิตที่มหาวิทยาลัยโฮเวิร์ด ว่าไม่ต้องการจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปและอัตราดอกเบี้ยควรจะปรับสูงขึ้นแต่ไม่รู้ว่าเมื่อใดเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความเห็นดังกล่าวทำให้ นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาสต่ำกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนธันวาคม โดยปรับลดลงจากโอกาสสูงกว่า 60% ที่เคยคาดไว้ในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้โดยไม่เป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และเสริมว่าเฟดเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายได้มากกว่ายังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป ถ้อยแถลงของนายวิลเลียมส์ขัดแย้งกับความเห็นของนายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ แต่นายวิลเลียมส์ไม่มีสิทธิออกเสียงในปีนี้ วายแอลจีเชื่อว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,321-1,308 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบน บริเวณ 1,342-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนระยะสั้นรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,321-1,308 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแบบ Sideway โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,342-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,321 (21,630บาท) 1,308 (21,410บาท) 1,300 (21,280บาท)
แนวต้าน 1,342 (21,970บาท) 1,356 (22,200บาท) 1,367 (22,380บาท)
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กราฟราคาทองคำ
