ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังอิหร่านปฏิเสธที่จะลดกำลังการผลิตลง

28 ก.ย. 2559 | 02:50 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 28 กันยายน 2559

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 3 เปอร์เซนต์หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียคาดว่าการประชุมในวันสุดท้ายที่ประเทศแอลจีเรีย ประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปกและรัสเซียไม่น่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องการลดกำลังการผลิต หลังจากที่อิหร่านปฏิเสธข้อเสนอจากซาอุดิอาระเบียในเรื่องของการตรึงกำลังการผลิตและคาดว่าการบรรลุข้อตกลงจะเลื่อนไปในการประชุมโอเปกในช่วงปลายเดือน พ.ย.

- นอกจากนี้รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะลดกำลังการผลิตลง ในขณะเดียวกันประเทศสมาชิกทั้งอิหร่าน ลิเบีย และไนจีเรีย ควรได้รับอนุญาตให้เพิ่มกำลังการผลิตให้อยู่ในระดับสูงที่สุด

+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) เปิดเผยตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 0.75 ล้านบาร์เรล มาแตะระดับ 506.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรล ในขณะที่น้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน

- โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ลง 7 เหรียญสหรัฐฯ / บาร์เรล สู่ระดับที่ 43 เหรียญสหรัฐฯ / บาร์เรล  เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนในเรื่องของระดับกำลังการผลิต และคาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะเพิ่มขึ้น 0.4 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ระดับ 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน

oil28 ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณการส่งออกในเดือน ก.ย. และ ต.ค. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงสนับสนุนจากปริมาณความต้องการในอินโดนีเซียที่ปรับเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากอินโดนีเซียและเคนย่า อย่างไรก็ตามราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 42-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการหามาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบในวันที่ 26-28 ก.ย. นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมหารือกัน อย่างไรก็ตาม เลขาธิการกลุ่มโอเปกมองว่าการประชุมครั้งนี้อาจถือเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเพื่อปรึกษาหารือเท่านั้น อาจยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกิดขึ้น

ลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมันดิบปริมาณ 700,000 บาร์เรลออกจากท่าขนส่ง Ras Lanuf เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2014 ในขณะที่ เรือลำที่ 2 ที่ขนส่งน้ำมันดิบ 700,000 บาร์เรลต่อวัน ก็เริ่มส่งออกแล้วเช่นกัน

ตลาดน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ และปริมาณน้ำมันเบนซิลคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดไว้

ที่มา :บมจ.ไทยออยล์