‘คาเนโบ’วางเป้าปี63ติดTOP10 หวนรุกตลาดความงามเคาน์เตอร์แบรนด์

28 กันยายน 2559
เป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปีที่คาเนโบ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์แบรนด์ใหม่วางตลาด ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและในประเทศไทย ประกอบกับนโยบายการทำตลาดใหม่ ที่ต้องการให้ทั่วโลกมีแบรนด์เครื่องสำอางในกลุ่มสกินแคร์เพียงแบรนด์เดียว ในลักษณะโกลบัลแบรนด์ จากก่อนหน้าที่ส่งสินค้าไปทำตลาดในหลายภูมิภาคของโลกภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย ซึ่งมีผลทำให้ความแข็งแกร่งของแบรนด์ ไม่สามารถสู้กับสมรภูมิการแข่งขันในธุรกิจเครื่องสำอางอย่างทุกวันนี้ได้ ล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา คาเนโบ คอสเมติกส์ ประเทศญี่ปุ่น จึงตัดสินใจเปิดตัวแบรนด์ใหม่ "คาเนโบ" (KANEBO) ที่ใช้ชื่อเดียวกับคอร์ปอเรตแบรนด์ เพื่อหวังผลสร้างความแข็งแกร่งและเกิดการจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น

[caption id="attachment_101520" align="aligncenter" width="335"] ยาซูฮิโร่ ทากุโร่ ยาซูฮิโร่ ทากุโร่[/caption]

สำหรับประเทศไทย ภายใต้การนำของ "ยาซูฮิโร่ ทากุโร่" ประธานกรรมการ บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบนโยบายมาบริหารงานในตลาดประเทศไทยโดยตรง จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในประเทศไทยขึ้น พร้อมกับให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการขับเคลื่อนแบรนด์ เพื่อไปสู่เป้าหมายการเป็น 1 ใน 10 ของแบรนด์เครื่องสำอางกลุ่มเพรสทีจ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่จำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้า

ภาวะตลาดเครื่องสำอางในปัจจุบัน

ในช่วง 8-9 เดือนแรกที่ผ่านมาภาพรวมตลาดเครื่องสำอางในเมืองไทยค่อนข้างซบเซา ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายลดลงประมาณ 3% สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ออกเลย แม้แต่แบรนด์เครื่องสำอางขนาดใหญ่ก็มียอดขายที่ลดลงเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางเมืองไทยมีมูลค่าราว 1.73 แสนล้านบาท แบ่งเป็นเครื่องสำอางระดับพรีเมียมหรือเคาน์เตอร์แบรนด์ราว 3 หมื่นล้านบาท ส่วนการแข่งขันที่ผ่านมาก็รุนแรง โดยเฉพาะการจัดโปรโมชั่นราคา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้หลายแบรนด์ลงมาแข่งขันกันกันอย่างรุนแรง ส่วนบริษัทไม่ได้แข่งขันในเรื่องของราคา เนื่องจากราคาที่วางจำหน่ายเชื่อว่าผู้บริโภคชาวไทยสามารถจับต้องได้อยู่แล้ว ซึ่งแบรนด์คาเนโบมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,000-3,300 บาท

การเปิดตัวแบรนด์ใหม่

แบรนด์คาเนโบ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบกว่า 10 ปี ที่มีแบรนด์ใหม่ออกมาทำตลาด จากเดิมที่ผู้บริโภครู้จักคาเนโบในแบรนด์ คาเนโบ อิมเพรส ที่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ และคาเนโบ ลูนาโซล กลุ่มเครื่องสำอาง ซึ่งนับจากนี้บริษัทจะจะทยอยปรับสินค้าที่อยู่ภายใต้แบรนด์ "คาเนโบ อิมเพรส" มาเป็น "คาเนโบ" แต่ในส่วนของ คาเนโบ ลูนาโซล ยังคงทำตลาดตามปกติ พร้อมกับวางแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

สำหรับแบรนด์คาเนโบ เป็นแบรนด์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อให้ผู้หญิงทั่วโลกได้สัมผัสสินค้า ภายใต้คอนเซ้ปต์ Chrono Beauty หรือ ศาสตร์ความงามตามช่วงเวลา ที่จะมีสินค้าทั้งกลุ่มสกินแคร์และเมกอัพ แต่สำหรับในประเทศไทยจะเปิดตัวกลุ่มสกินแคร์ก่อน ซึ่งมุ่งเน้นการให้ผู้หญิงมีความสวยงามตามช่วงเวลา ตั้งแต่ 1 วัน 1 เดือน 1 ปี และตลอดไป กับสโลแกน Make Your Life a Masterpiece พร้อมกับได้นำ Arizona Muse ซูเปอร์โมเดลระดับโลกชาวอเมริกัน มาเป็นพรีเซนเตอร์

เป้าหมายติดอันดับท็อปเทน

"ยาซูฮิโร่" กล่าวต่อว่าภายในปี 2563 ต้องการที่จะผลักดันแบรนด์คาเนโบให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของกลุ่มเครื่องสำอางเพรสทีจ ในห้างสรรพสินค้าที่ปัจจุบันอยู่ในลำดับที่ 14 พร้อมกับวางแผนเพิ่มทั้งจำนวนลูกค้าจากปัจจุบัน 3 หมื่นรายเป็น 6 หมื่นราย เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเท่าตัวจากปัจจุบัน 1.1% เป็น 2.2% จากมูลค่าตลาดรวม และเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ ให้เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งบริษัทคาดว่าต้องใช้งบประมาณทางการตลาดเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปัจจุบัน ในการสร้างแบรนด์ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมการสื่อสารแบรนด์ไปยังผู้บริโภคผ่านโฆษณา ประชาสัมพันธ์ นิตยสาร เว็บไซต์ โปรโมชั่น ณ จุด ขาย และการแจกสินค้าเพื่อทดลองใช้

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมปรับภาพลักษณ์ของเคาน์เตอร์รูปโฉมใหม่ทั้งหมด 70 แห่งทั่วประเทศ ตามรูปแบบของแบรนด์ใหม่ โดยรูปแบบใหม่มี "กเวนาเอล นิโคลา" ดีไซเนอร์ชื่อดังจากฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบ ซึ่งจะใช้สัญลักษณ์จากชื่อแบรนด์ "K" เป็นศูนย์กลางของการดีไซน์ ในปีนี้จะปรับปรุงจำนวน 7 แห่ง ซึ่งสาขาแรกจะปรับปรุงที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว บริษัทได้เตรียมงบประมาณไว้ราว 140 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาทต่อสาขา

ผลประกอบการที่คาดหวัง

บริษัทวางเป้าหมายว่าภายในปี 2563 จะมีรายได้รวม 1,000 ล้านบาท เฉพาะแบรนด์คาเนโบจะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 60-70% หรือราย 600-700 ล้านบาท ส่วนปีนี้มีรายได้รวมประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งการเปิดตัวของแบรนด์คาเนโบในครั้งนี้ถือว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดในประเทศไทยมีศักยภาพและเป็นตลาดสำคัญ บริษัทแม่ต้องการให้ตลาดทางแถบเอเชียเริ่มทยอยปรับเปลี่ยนแบรนด์ก่อน ส่วนในทวีปยุโรปคาดว่าคงสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปีหน้า นอกจากแบรนด์คาเนโบ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่บริษัททำตลาดอยู่แล้ว ยังมีเครื่องสำอางในตลาดแมสภายใต้แบรนด์ เคท เกียวโต (KATE TOKYO) วางจำหน่ายด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25 - 28 กันยายน พ.ศ. 2559