คีตา วงศ์กิตติพัฒน์ : บทเพลงแห่ง ‘ความสำเร็จ’ ที่มาจากความเชื่อและศรัทธาใน ‘โอกาส’
“อย่าให้คำว่ารอเป็นอุปสรรคสำหรับการเรียนรู้ในทุกโอกาส”ทัศนคติอันทรงพลังร้อยเรียงเป็นทำนองของชีวิต ผลิตเป็นกระบวนการคิดและลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ตนเองอยากทำด้วยการนำเอาแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับหัวใจเป็นแรงผลักดันให้ “ความฝัน พรสวรรค์และโอกาส” ขับเคลื่อนเดินหน้าพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง ดุจดั่งเพลงคลาสสิกที่มีหลากช่วงหลายทำนองรังสรรค์สร้างจินตนาการได้อย่างไม่รู้จบ และนี่คือหนึ่งบทเพลงทางความคิดที่ถูกเขียนขึ้นจากคุณคีตา วงศ์กิตติพัฒน์
“คีตา คือ ดนตรี” คุณคีตา ฉายภาพถึงความเป็นมาของชื่อและเส้นทางชีวิตที่เข้าสู่วงการดนตรีว่า สมัยคุณศุภชัย วงศ์กิตติพัฒน์หรือคุณพ่อเป็นวัยรุ่นหลงใหลในเสียงดนตรี ฝึกฝนฝีมือจนเป็นที่ยอมรับและมีโอกาสได้เล่นดนตรีที่ร้านมณเทียรทอง แต่ทว่าสุดท้ายแล้วคุณพ่อไม่ได้เป็นนักดนตรีอาชีพและหันมาทำธุรกิจส่วนตัว อย่างไรก็ดีเสียงดนตรีที่บรรเลงอยู่ในหัวใจได้ส่งต่อคุณค่าและความหมายในการสานต่ออุดมการณ์ด้านการสร้างบทเพลงแห่งความสุข จึงได้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจและนำเสียงดนตรีเข้ามาขับกล่อมทำให้ความหมายของชื่อ คีตา เป็นดั่งสัญลักษณ์แทนใจในการถ่ายทอดความสุขแก่ผู้ฟังทุกคนเสมอมาจนถึงวันนี้
[caption id="attachment_101536" align="aligncenter" width="336"]
คีตา วงศ์กิตติพัฒน์[/caption]
“เล่น ดีด สี ตี เป่า เพราะดนตรีคือชีวิต”คุณคีตา เผยต่ออีกว่า ตนเริ่มเล่นดนตรีครั้งแรกในวัยเพียง 4 ขวบ ฝึกฝนและหมั่นเพียรเรียนรู้ด้านศิลป์และศาสตร์ในแขนงวิชาดนตรี จนสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น เปียโน ไวโฮลีน กลอง อูคูเลเล่ โคโตะ (พิณญี่ปุ่น) นำทางสู่เส้นทางการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านศิลปศาสตร์ เอกเปียโนคลาสสิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งระหว่างการศึกษาได้สร้างผลงานแรกของชีวิตในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการได้เรียบเรียงเพลง Still On My Mind และเล่นเปียโนแจ๊ซในงาน H.M.BLUES concert ร้อง บรรเลง เพลงของพ่อโดยมีเจนนิเฟอร์คิ้มเป็นคนขับร้อง ผู้ซึ่งเป็นไอดอลของตนในการขับเคลื่อนความสุขด้วยเสียงดนตรี ถือได้ว่างานนี้เป็นจุดเริ่มต้นหรือคิกออฟในวงการดนตรีอย่างเป็นทางการและเป็นคอนเสิร์ตแห่งความภาคภูมิใจในชีวิต
ต่อด้วยความสามารถที่โดดเด่นจากนั้นคุณโฟมได้ออกอัลบั้มเพลงเป็นครั้งแรกร่วมกับค่ายเพลง LIVIN'G จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ในอัลบั้ม “Breeze up By FOAM” ซึ่งมีทั้ง Vol.1 และ Vol.2 เป็นการนำเอาบทเพลงแจ๊ซในยุคปี 60-70 มาถ่ายทอดใหม่และเรียบเรียงด้วยเปียโนในสไตล์ของตนอย่างไพเราะ พร้อมต่อยอดองค์ความรู้และจินตนาการในศาสตร์ด้านดนตรีสร้างอัลบั้ม Foam Difference ซึ่งตัวเองเข้ามามีบทบาทในทุกขั้นตอนนับตั้งแต่ แต่งเพลง เรียบเรียง ขับร้องและบรรเลง เป็นก้าวที่สำคัญในการก้าวเข้าสู่วงการเพลงอย่างภาคภูมิใจในฐานะเด็กสาวที่มีอายุน้อยแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ด้านดนตรีและพรแสวงในการสรรค์สร้างโอกาสและไขว่คว้าทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิตอย่างสนุกสนานและมีความสุข
โลกของดนตรีมีเรื่องน่าค้นหาไม่มีที่สิ้นสุดคุณโฟมได้ไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านดนตรีแจ๊สจาก Leeds College of Musicประเทศอังกฤษ ซึ่งหลังจากจบการศึกษาได้เข้าสู่วงการเพลงในทุกมิติไม่ว่าจะเป็น การแต่งเพลงในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อย่างเช่นเพลงอย่าขัดขืน ซึ่งขับร้องโดย เบล สุพล และบทเพลงอื่นๆอีกหลากหลาย รวมทั้งการเล่นดนตรีตามงานและสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งการอยู่ในวงการดนตรีมาโดยตลอดทำให้คุณคีตาได้มองเห็นถึงโอกาสและความท้าทายครั้งใหม่ให้กับชีวิต ตนจึงเรียนรู้และศึกษางานด้านการตลาดเพิ่มเติมเพราะตัวเองมองว่าวิถีของตลาดโลกคือการเรียนรู้แบบไม่รู้จบสอดรับกับบุคลิกของตนเองที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ในวันนี้คุณคีตา วงศ์กิตติพัฒน์ ได้เป็นส่วนหนึ่งของ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในตำแหน่ง Product Manager บัตรเครดิต กรุงศรี ซิกเนเจอร์ (Krungsri Signature Credit Card)
“รู้สึกว่าตนเป็นคนที่ชอบอะไรหลากหลาย เป็นคนที่อยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา”การเข้ามาทำงานด้านการตลาดทำให้เราได้เรียนรู้เกิดความเข้าใจในผู้คนและสังคมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีในทุกช่วงเวลาหลังจากการทำงานคุณคีตาไม่ละทิ้งบทเพลงของหัวใจแต่กลับฝึกฝนและนำไอเดียจากการมองเห็นสังคมมารังสรรค์เป็นบทเพลงและงานแสดงต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันตนได้หมั่นเรียนรู้มุมมองใหม่ๆ ในบริบทของสังคม และนำความชื่นชอบและหลงใหลในสิ่งที่ตนรักมาเป็นเข็มทิศในการเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ อย่างสุขใจ ยกตัวอย่างเช่น งานเขียนหนังสือเรื่องตะลุยกินอินโซลหรือจะเป็นการเป็นบล็อกเกอร์ในนามปากกาคีตานิสต้าให้กับนิตยสารเลมอเนดด้านการรีวิวความสวยความงามจากเครื่องประดับตกแต่งในแฟชั่นสไตล์ต่างๆ ซึ่งงานเขียนเป็นอีกบทเรียนที่สร้างความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิตและที่สำคัญเป็นส่วนเติมเต็มประจุไฟแห่งความฝันในวัยเด็กของตนที่อยากเป็นนักเขียนอย่างสมบูรณ์แบบ
จากบทเพลงสู่งานเขียนร้อยเรียงเป็นงานด้านการตลาด ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้คุณคีตาเชื่อและศรัทธาในโอกาส เพราะโอกาสสามารถสร้างการเรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้ และโอกาสยังเป็นดั่งศูนย์การเรียนรู้ของชีวิต ถ้าทุกคนคิดที่จะปิดหรือปฏิเสธโอกาสเปรียบเสมือนดั่งการปิดกั้นการเรียนรู้ให้กับตนเอง ฉะนั้นแล้ว “ถ้าได้โอกาสมาแล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุด” เช่นเดียวกันกับ “แรงบันดาลใจ” เชื้อเพลิงแห่งพลังของร่างกายที่ขับเคลื่อนหัวใจในการก้าวเดินและมุ่งมั่นทำในสิ่งใหม่คือสิ่งที่คุณคีตายึดถือเป็นแนวปฏิบัติ เพราะแรงบันดาลใจเกิดมาพร้อมกับหัวใจ ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้ แรงบันดาลใจก็จะไม่มีวันหมดไปจากหัวใจนี่คือหนึ่งเรื่องราวความคิดที่บรรเลงความสุขในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลในแบบฉบับ คุณคีตา วงศ์กิตติพัฒน์
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25 - 28 กันยายน พ.ศ. 2559
“คีตา คือ ดนตรี” คุณคีตา ฉายภาพถึงความเป็นมาของชื่อและเส้นทางชีวิตที่เข้าสู่วงการดนตรีว่า สมัยคุณศุภชัย วงศ์กิตติพัฒน์หรือคุณพ่อเป็นวัยรุ่นหลงใหลในเสียงดนตรี ฝึกฝนฝีมือจนเป็นที่ยอมรับและมีโอกาสได้เล่นดนตรีที่ร้านมณเทียรทอง แต่ทว่าสุดท้ายแล้วคุณพ่อไม่ได้เป็นนักดนตรีอาชีพและหันมาทำธุรกิจส่วนตัว อย่างไรก็ดีเสียงดนตรีที่บรรเลงอยู่ในหัวใจได้ส่งต่อคุณค่าและความหมายในการสานต่ออุดมการณ์ด้านการสร้างบทเพลงแห่งความสุข จึงได้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจและนำเสียงดนตรีเข้ามาขับกล่อมทำให้ความหมายของชื่อ คีตา เป็นดั่งสัญลักษณ์แทนใจในการถ่ายทอดความสุขแก่ผู้ฟังทุกคนเสมอมาจนถึงวันนี้
[caption id="attachment_101536" align="aligncenter" width="336"]
“เล่น ดีด สี ตี เป่า เพราะดนตรีคือชีวิต”คุณคีตา เผยต่ออีกว่า ตนเริ่มเล่นดนตรีครั้งแรกในวัยเพียง 4 ขวบ ฝึกฝนและหมั่นเพียรเรียนรู้ด้านศิลป์และศาสตร์ในแขนงวิชาดนตรี จนสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น เปียโน ไวโฮลีน กลอง อูคูเลเล่ โคโตะ (พิณญี่ปุ่น) นำทางสู่เส้นทางการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านศิลปศาสตร์ เอกเปียโนคลาสสิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งระหว่างการศึกษาได้สร้างผลงานแรกของชีวิตในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการได้เรียบเรียงเพลง Still On My Mind และเล่นเปียโนแจ๊ซในงาน H.M.BLUES concert ร้อง บรรเลง เพลงของพ่อโดยมีเจนนิเฟอร์คิ้มเป็นคนขับร้อง ผู้ซึ่งเป็นไอดอลของตนในการขับเคลื่อนความสุขด้วยเสียงดนตรี ถือได้ว่างานนี้เป็นจุดเริ่มต้นหรือคิกออฟในวงการดนตรีอย่างเป็นทางการและเป็นคอนเสิร์ตแห่งความภาคภูมิใจในชีวิต
ต่อด้วยความสามารถที่โดดเด่นจากนั้นคุณโฟมได้ออกอัลบั้มเพลงเป็นครั้งแรกร่วมกับค่ายเพลง LIVIN'G จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ในอัลบั้ม “Breeze up By FOAM” ซึ่งมีทั้ง Vol.1 และ Vol.2 เป็นการนำเอาบทเพลงแจ๊ซในยุคปี 60-70 มาถ่ายทอดใหม่และเรียบเรียงด้วยเปียโนในสไตล์ของตนอย่างไพเราะ พร้อมต่อยอดองค์ความรู้และจินตนาการในศาสตร์ด้านดนตรีสร้างอัลบั้ม Foam Difference ซึ่งตัวเองเข้ามามีบทบาทในทุกขั้นตอนนับตั้งแต่ แต่งเพลง เรียบเรียง ขับร้องและบรรเลง เป็นก้าวที่สำคัญในการก้าวเข้าสู่วงการเพลงอย่างภาคภูมิใจในฐานะเด็กสาวที่มีอายุน้อยแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ด้านดนตรีและพรแสวงในการสรรค์สร้างโอกาสและไขว่คว้าทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิตอย่างสนุกสนานและมีความสุข
โลกของดนตรีมีเรื่องน่าค้นหาไม่มีที่สิ้นสุดคุณโฟมได้ไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านดนตรีแจ๊สจาก Leeds College of Musicประเทศอังกฤษ ซึ่งหลังจากจบการศึกษาได้เข้าสู่วงการเพลงในทุกมิติไม่ว่าจะเป็น การแต่งเพลงในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อย่างเช่นเพลงอย่าขัดขืน ซึ่งขับร้องโดย เบล สุพล และบทเพลงอื่นๆอีกหลากหลาย รวมทั้งการเล่นดนตรีตามงานและสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งการอยู่ในวงการดนตรีมาโดยตลอดทำให้คุณคีตาได้มองเห็นถึงโอกาสและความท้าทายครั้งใหม่ให้กับชีวิต ตนจึงเรียนรู้และศึกษางานด้านการตลาดเพิ่มเติมเพราะตัวเองมองว่าวิถีของตลาดโลกคือการเรียนรู้แบบไม่รู้จบสอดรับกับบุคลิกของตนเองที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ในวันนี้คุณคีตา วงศ์กิตติพัฒน์ ได้เป็นส่วนหนึ่งของ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในตำแหน่ง Product Manager บัตรเครดิต กรุงศรี ซิกเนเจอร์ (Krungsri Signature Credit Card)
“รู้สึกว่าตนเป็นคนที่ชอบอะไรหลากหลาย เป็นคนที่อยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา”การเข้ามาทำงานด้านการตลาดทำให้เราได้เรียนรู้เกิดความเข้าใจในผู้คนและสังคมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีในทุกช่วงเวลาหลังจากการทำงานคุณคีตาไม่ละทิ้งบทเพลงของหัวใจแต่กลับฝึกฝนและนำไอเดียจากการมองเห็นสังคมมารังสรรค์เป็นบทเพลงและงานแสดงต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันตนได้หมั่นเรียนรู้มุมมองใหม่ๆ ในบริบทของสังคม และนำความชื่นชอบและหลงใหลในสิ่งที่ตนรักมาเป็นเข็มทิศในการเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ อย่างสุขใจ ยกตัวอย่างเช่น งานเขียนหนังสือเรื่องตะลุยกินอินโซลหรือจะเป็นการเป็นบล็อกเกอร์ในนามปากกาคีตานิสต้าให้กับนิตยสารเลมอเนดด้านการรีวิวความสวยความงามจากเครื่องประดับตกแต่งในแฟชั่นสไตล์ต่างๆ ซึ่งงานเขียนเป็นอีกบทเรียนที่สร้างความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิตและที่สำคัญเป็นส่วนเติมเต็มประจุไฟแห่งความฝันในวัยเด็กของตนที่อยากเป็นนักเขียนอย่างสมบูรณ์แบบ
จากบทเพลงสู่งานเขียนร้อยเรียงเป็นงานด้านการตลาด ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้คุณคีตาเชื่อและศรัทธาในโอกาส เพราะโอกาสสามารถสร้างการเรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้ และโอกาสยังเป็นดั่งศูนย์การเรียนรู้ของชีวิต ถ้าทุกคนคิดที่จะปิดหรือปฏิเสธโอกาสเปรียบเสมือนดั่งการปิดกั้นการเรียนรู้ให้กับตนเอง ฉะนั้นแล้ว “ถ้าได้โอกาสมาแล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุด” เช่นเดียวกันกับ “แรงบันดาลใจ” เชื้อเพลิงแห่งพลังของร่างกายที่ขับเคลื่อนหัวใจในการก้าวเดินและมุ่งมั่นทำในสิ่งใหม่คือสิ่งที่คุณคีตายึดถือเป็นแนวปฏิบัติ เพราะแรงบันดาลใจเกิดมาพร้อมกับหัวใจ ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้ แรงบันดาลใจก็จะไม่มีวันหมดไปจากหัวใจนี่คือหนึ่งเรื่องราวความคิดที่บรรเลงความสุขในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลในแบบฉบับ คุณคีตา วงศ์กิตติพัฒน์
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25 - 28 กันยายน พ.ศ. 2559