อย่างไรก็ตาม คาดว่าเม็ดเงินที่ลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว จะมาจากนักลงทุน Gen X และ Gen B เป็นหลัก เนื่องจากนักลงทุน Gen Y ยังอยู่ในช่วงเริ่มสะสมความมั่งคั่ง ซึ่งสะท้อนผ่านจำนวนการถือครองผลิตภัณฑ์การลงทุนที่น้อยกว่านักลงทุนที่เกิดในช่วง Gen X และ Gen B
คำถามถัดไปคือ นอกเหนือจากช่องทางหลักข้างต้น นักลงทุนให้น้ำหนักกับทางเลือกในการออมอื่นๆ อย่างไร ? และเนื่องจากข้อมูลในปัจจุบันที่ช่วยตอบโจทย์ดังกล่าว ยังมีค่อนข้างจำกัด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงได้จัดทำแบบสำรวจพฤติกรรมทางเลือกในการออมและการลงทุนของนักลงทุนในแต่ละช่วงวัย (Generation: Gen) ซึ่งแบ่งออกเป็น Gen Y , Gen X และ Gen B โดยสอบถามถึงการลงทุนทางเลือก อันประกอบด้วย การลงทุนในทองคำ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์/ที่ดินเพื่อการปล่อยเช่า/ขายเก็งกำไร การลงทุนในแชร์ การปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยกับเครือญาติ/คนรู้จัก การลงทุนส่วนทุนในธุรกิจที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง เงินฝากสหกรณ์ การลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอัตราผลตอบแทนค่อนข้างสูง (อันดับเครดิตต่ำกว่า BBB) การลงทุนในตราสารหนี้ที่ไม่มีข้อมูลการจัดอันดับเครดิต การลงทุนในเงินตราต่างประเทศ รวมทั้ง การลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือ DW ในช่วงระหว่างวันที่ 5-9 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา โดยในผลสำรวจจะเน้นพอร์ตการลงทุนที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต ซึ่งพบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
ทองคำ เงินฝากสหกรณ์ และอสังหาริมทรัพย์/ที่ดิน เพื่อการปล่อยเช่า/ขายเก็งกำไร เป็นผลิตภัณฑ์ 3 อันดับแรกที่นักลงทุนนิยมลงทุนมากที่สุด โดยจากการสอบถามถึงพอร์ตการลงทุนในปัจจุบัน หรือผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่นักลงทุนลงทุนอยู่แล้วนั้น จะพบว่า นักลงทุนทุกช่วงวัย สนใจใน 3 ตัวเลือกดังกล่าว อย่างไรก็ตาม อันดับการเลือกที่ต่างกัน สะท้อนความสนใจและข้อจำกัดในการลงทุนที่ต่างกัน โดยนักลงทุน Gen Y จะเลือกลงทุนในทางเลือกที่ใช้ขนาดเงินลงทุนไม่มาก แต่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี อาทิ เงินฝากสหกรณ์ เนื่องจาก Gen Y ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเริ่มสะสมความมั่งคั่งจากการทำงาน ดังนั้น จึงยังอาจไม่มีเงินก้อนขนาดใหญ่ดังเช่นในกรณีของ Gen X และ Gen B ที่โดยทั่วไป จะมีอายุงานและความมั่งคั่งสูงกว่าในเชิงเปรียบเทียบ ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ลงทุน/ถือครอง (Product Holding) มีจำนวนน้อยกว่ากลุ่ม Gen อื่นๆ นั่นคือ อยู่ที่ 1.5 ผลิตภัณฑ์ ต่ำกว่า Gen X และ Gen B ที่ 1.8-1.9 ผลิตภัณฑ์
สำหรับ Gen X และ Gen B นั้น นอกเหนือจากจำนวนผลิตภัณฑ์ที่สูงกว่า Gen Y แล้ว Gen X และ Gen B ยังให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าในตัวเองและสามารถจับต้องได้ ดังเช่นการลงทุนในทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ มากกว่าการออมในรูปเงินฝากกับสถาบันการเงินด้วย
สำหรับผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่นักลงทุน/ผู้ออมสนใจจะลงทุนในอนาคตนั้น ผลสำรวจ สะท้อนว่า นักลงทุนทุก Gen ก็ยังให้น้ำหนักกับอสังหาริมทรัพย์ และทองคำ อย่างไรก็ดี มีจุดแตกต่างที่น่าสนใจ คือ มีหุ้นกู้ที่มีผลตอบแทนสูง ติด 1 ใน 3 ทางเลือกที่นักลงทุนสนใจ โดยเฉพาะ Gen Y และ Gen B ซึ่งสะท้อนภาพการยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยกับโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้ในอนาคต ขณะที่ สาเหตุที่กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามยังไม่ได้ลงทุนในหุ้นกู้ที่มีผลตอบแทนสูงในปัจจุบัน เนื่องจากยังคงขาดความรู้และความเข้าใจในการลงทุน กังวลกับประเด็นการสูญเสียเงินต้น และมองว่า เป็นช่องทางการลงทุนที่ยังคงเข้าถึงยาก