ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดคาดการประชุมกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกส่อคว้าน้ำเหลว
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26 กันยายน 2559
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังตลาดคาดว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างต่ำที่กลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกจะสามารถตกลงในประเด็นปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพน้ำมันในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ก.ย. 59 นี้ ที่ประเทศแอลจีเรีย โดยล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์ เผยว่าซาอุดิอาระเบียได้เสนอที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน หากอิหร่านยินยอมที่จะตรึงกำลังการผลิตในปีนี้ อย่างไรก็ตาม อิหร่านยังไม่ได้มีการตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอของซาอุดิอาระเบียแต่อย่างใด
- ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากปริมาณอุปทานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศรัสเซียหนึ่งในผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรายวันปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 11.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์
- เบเกอร์ ฮิวจ์ (Baker Hughes) เผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ก.ย. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 418 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 59 ทั้งนี้ จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงจากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
- ดัชนีการผลิตสหรัฐฯ (PMI) ในเดือน ก.ย. 59 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 51.4 จุด จากระดับ 52.1 จุด ในเดือนก่อนหน้า มากกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 52.0 จุด ทั้งนี้ ดัชนีที่ปรับลดลงดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีทิศทางชะลอตัว
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากแรงหนุนของอุปทานที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงหลังโรงกลั่นน้ำมันในญี่ปุ่นต้องปิดซ่อมหน่วยผลิตน้ำมันเบนซิน เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในกรอบที่จำกัดจากแรงกดดันของราคาน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงหลังการซ่อมแซมท่อส่งน้ำมันเสร็จสิ้น ประกอบกับอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นจากประเทศจีนและอินเดีย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงหนุนของอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศเวียดนามและเคนย่า อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีเซลโดยรวมยังคงถูกกดดันจากปริมาณอุปทานที่ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 42-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการหามาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบในวันที่ 26-28 ก.ย. นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมหารือกัน อย่างไรก็ตาม เลขาธิการกลุ่มโอเปกมองว่าการประชุมครั้งนี้อาจถือเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเพื่อปรึกษาหารือเท่านั้น อาจยังไม่มีการตัดสินใจใดๆเกิดขึ้น
ลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมันดิบปริมาณ 700,000 บาร์เรลออกจากท่าขนส่ง Ras Lanuf เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2014 ในขณะที่ เรือลำที่สองกำลังเตรียมที่จะส่งออกน้ำมันดิบเช่นกัน
ตลาดน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ และปริมาณน้ำมันเบนซิลคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดไว้
ที่มา :บมจ.ไทยออยล์
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังตลาดคาดว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างต่ำที่กลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกจะสามารถตกลงในประเด็นปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพน้ำมันในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ก.ย. 59 นี้ ที่ประเทศแอลจีเรีย โดยล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์ เผยว่าซาอุดิอาระเบียได้เสนอที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน หากอิหร่านยินยอมที่จะตรึงกำลังการผลิตในปีนี้ อย่างไรก็ตาม อิหร่านยังไม่ได้มีการตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอของซาอุดิอาระเบียแต่อย่างใด
- ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากปริมาณอุปทานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศรัสเซียหนึ่งในผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรายวันปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 11.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์
- เบเกอร์ ฮิวจ์ (Baker Hughes) เผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ก.ย. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 418 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 59 ทั้งนี้ จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงจากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
- ดัชนีการผลิตสหรัฐฯ (PMI) ในเดือน ก.ย. 59 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 51.4 จุด จากระดับ 52.1 จุด ในเดือนก่อนหน้า มากกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 52.0 จุด ทั้งนี้ ดัชนีที่ปรับลดลงดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีทิศทางชะลอตัว
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากแรงหนุนของอุปทานที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงหลังโรงกลั่นน้ำมันในญี่ปุ่นต้องปิดซ่อมหน่วยผลิตน้ำมันเบนซิน เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในกรอบที่จำกัดจากแรงกดดันของราคาน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงหลังการซ่อมแซมท่อส่งน้ำมันเสร็จสิ้น ประกอบกับอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นจากประเทศจีนและอินเดีย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงหนุนของอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศเวียดนามและเคนย่า อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีเซลโดยรวมยังคงถูกกดดันจากปริมาณอุปทานที่ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 42-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการหามาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบในวันที่ 26-28 ก.ย. นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมหารือกัน อย่างไรก็ตาม เลขาธิการกลุ่มโอเปกมองว่าการประชุมครั้งนี้อาจถือเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเพื่อปรึกษาหารือเท่านั้น อาจยังไม่มีการตัดสินใจใดๆเกิดขึ้น
ลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมันดิบปริมาณ 700,000 บาร์เรลออกจากท่าขนส่ง Ras Lanuf เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2014 ในขณะที่ เรือลำที่สองกำลังเตรียมที่จะส่งออกน้ำมันดิบเช่นกัน
ตลาดน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ และปริมาณน้ำมันเบนซิลคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดไว้
ที่มา :บมจ.ไทยออยล์