ตลาดรถเช่า 3 หมื่นล้านคึกรับท่องเที่ยวไฮซีซัน แห่ซื้อรถใหม่เข้าพอร์ต ส่วนรถเช่าระยะยาวจากองค์กรธุรกิจเริ่มขยายตัวเพิ่ม ซิกท์จับมือพันธมิตรจัดแคมเปญเด็ด พร้อมขยายฐานบุกมาเลเซียและลาว ส่วนไทยเรนท์อะคาร์จัดโปรโมชั่นเช่ารถเที่ยววันธรรมดาในราคาสบายกระเป๋า
ดร.นที วรรธนะโกวินท์ บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน)ผู้ให้บริการรถเช่ารายใหญ่ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดรถเช่าในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดราว 2 - 3 หมื่นล้านบาท หรือกว่า 3 แสนคันในตลาด โดยแบ่งสัดส่วนออกเป็นรถเช่าระยะสั้น 50% และรถเช่าระยะยาว 50 % ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจรถเช่าในประเทศช่วงที่ผ่านมาหดตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับมีธุรกิจรถเช่าที่ไม่ได้จดทะเบียนกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการรถเช่าที่จดทะเบียนถูกต้องได้รับผลกระทบ
สำหรับแจแปนเร้นท์ เป็นผู้ให้บริการรถเช่าระยะยาว มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนญี่ปุ่นเลือกใช้บริการกว่า 90 % และอื่นๆอีก 10 % ซึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าที่เป็นนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น คาดว่าสัดส่วนจะขยับเป็น 30 % และเป็นคนญี่ปุ่น 70 % ส่วนแผนด้านรถใหม่ ในแต่ละปีจะลงทุนซื้อรถใหม่เข้ามาประมาณ 300 คันอยู่แล้ว นอกจากนั้นแล้วจะเน้นให้บริการรถเช่าพร้อมคนขับที่ผ่านการรับรองจากโรงเรียนฝึกอบรมภายใต้การควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ
“ผลประกอบการของเรายังเติบโต แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่ดี ซึ่งเราตั้งเป้าหมายการเติบโตภายในสิ้นปีนี้อยู่ที่ 15 % ส่วนแผนการขยายสาขานั้น ก็ต้องดูความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก เพราะปัจจุบันมี 3 สาขาทั้งในกรุงเทพ และรองรับกลุ่มเป้าหมายอีก 2 แห่งได้แก่ อมตะ ชลบุรี และ บ่อวิน อีสเทิร์นซีบอร์ด ”
ด้านนายภูมน สมดี ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด ซิกท์ประเทศไทย ในนามบริษัทมาสเตอร์คาร์เร้นเทิล จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัทมาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือเอ็มจีซี–เอเชีย ผู้ให้บริการรถเช่าระยะสั้นและระยะยาวรวมถึงบริการลีมูซีน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถเช่าระยะสั้นมีการแข่งขันสูง เพราะมีหลายแบรนด์เข้ามาในตลาด ทั้งโลคัลแบรนด์ และอินเตอร์แบรนด์ โดยรวมๆที่เป็นผู้เล่นรายใหญ่ๆจะมีประมาณ 11 แบรนด์ ส่วนมูลค่าตลาดรถเช่าในปัจจุบันคาดว่าจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“ธุรกิจ รถเช่าในไทยไม่เหมือนต่างประเทศ กล่าวคือไม่ต้องขอใบอนุญาต ทำให้ใครอยากจะประกอบธุรกิจนี้ก็สามารถทำได้ ทำให้การแข่งขันสูง ซึ่งผู้ที่จะได้ประโยชน์ก็คือผู้บริโภคที่มีโอกาสเลือก เพราะแต่ละแบรนด์มีการแข่งขันผ่านแคมเปญต่างๆ ยกตัวอย่างแคมเปญของเราในช่วงนี้คือ จับมือกับเอไอเอส เช่า 2 วัน แถม 1 วัน หรือผู้ที่ถือบัตรเครดิตคิงพาวเวอร์จะได้รับราคาพิเศษ”
นาย ภูมน กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าในภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศจะไม่ดี แต่ธุรกิจท่องเที่ยว มีการโปรโมตและสนับสนุน รวมไปถึงธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำที่ได้รับความนิยม ทำให้ธุรกิจรถเช่าเติบโตตาม โดยรถที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าที่มีสัดส่วนการเช่าสูงคือ รถอีโคคาร์ -รถที่ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตร คิดเป็นสัดส่วน 60 % ด้านรถประเภทอื่นๆอีก 30 % และรถในกลุ่มพรีเมียม 30%
ขณะที่ผลการดำเนินงานของซิกท์ในช่วงที่ผ่านมาดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ในปี 2559 จะเติบโต 10-15 % อย่างแน่นอน
นายภูมน กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ทางการตลาดที่จะผลักดันให้รายได้ไปสู่เป้าที่วางไว้นั้น ประกอบไปด้วย การเข้าร่วมกิจกรรม อีเว้นท์ต่างๆ การมีแคมเปญ พร้อมทั้งการเพิ่มรถใหม่เข้ามาในพอร์ท โดยคาดว่าในช่วงปลายปีจะเพิ่มรถเข้ามาอีกประมาณ 10 - 20 % นอกจากนั้นแล้วจะเน้นเจาะประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซีย ที่มีจำนวน 6 แห่ง และที่เวียงจันทน์ 1 แห่ง ซึ่งพบว่าการตอบรับดีมาก เนื่องจากรถเช่าใหม่ ,การบริการที่ดีและให้บริการลีมูซีน รับส่งจากสนามบินไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆและให้บริการรถเช่าพร้อมคนขับ
“เรามีแผนการเพิ่มรถใหม่เข้ามาในพอร์ต เพราะจะมีรถจำนวนหนึ่งที่ครบกำหนด บวกกับยอดบุ้กกิ้งยาวไปถึงต้นปีหน้า ส่วนจำนวนสาขาในไทยที่เปิดให้บริการตอนนี้มีอยู่ 20 แห่ง จนถึงสิ้นปียังไม่มีแผนขยาย อย่างไรก็ตามในปีหน้าจะดูความต้องการของตลาดรวมไปถึงในพื้นที่หรือจังหวัดต่างๆที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวมากขึ้น”
นายวิกรานต์ อมาตยกุล รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มสายงานผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทรถเช่าของคนไทยรายใหญ่ เปิดเผยว่า ตลาดการท่องเที่ยวไตรมาสที่ 3 นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยว 5.97 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการท่องเที่ยวใน 7 เมืองหลักและการท่องเที่ยวในโครงการ 12 เมืองต้องห้าม..พลาด และต้องห้าม..พลาดพลัส
“ล่าสุด ไทยเร้นท์อะคาร์จัดโปรโมชันรับช่วงไฮซีซันนี้ กับ “เที่ยววันธรรมดาราคา...เหมาๆ” เช่ารถรุ่นไหนก็ได้จ่ายราคาเดียว ให้เที่ยวอิ่มสุดคุ้มกันแบบบุฟเฟ่ต์เลือกรถรุ่นใดก็ได้ จาก 3 ไซซ์นี้ M โตโยต้า อัลติส, L โตโยต้า คัมรี่ และ XL โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หรือ มิตซูบิชิ ปาเจโรสปอร์ต ราคาเหมาๆ 2 วัน 1,450 บาท และ 3 วัน 1,950 บาท เป็นโปรโมชันราคาพิเศษสุดๆ แบบไม่มีกั๊กเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว สนับสนุนให้ทุกคนออกมาเที่ยววันธรรมดาในราคาเหมาๆ สบายกระเป๋ากันได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม 2559 ที่เคาน์เตอร์ไทยเร้นท์อะคาร์ทุกสาขาทั่วไทย”
แหล่งข่าวจาก บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ และบริษัท โอเรียนเต็ลแท็กซี่เซอร์วิช จำกัด ร่วมฉลองการส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport ใหม่ จำนวน 20 คันที่มาพร้อมกับความหรูหราเหนือระดับ เพื่อเติมเต็มที่สุดแห่งประสบการณ์ความสะดวกสบายระดับพรีเมียมให้แก่ลูกค้า และตอกย้ำชื่อเสียงของโรงแรมในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมการให้บริการ ทั้งนี้ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ได้ให้ความไว้วางใจในยานยนต์หรูจากบีเอ็มดับเบิลยูมาแล้วเป็นเวลากว่า 13 ปี ในการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าระดับวีไอพีโดยเฉพาะ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25 - 28 กันยายน พ.ศ. 2559