พิชญ์+มาชานลี=แจส กับ ‘มันนี่เกม’ แสนล้าน

26 ก.ย. 2559 | 09:00 น.
ราคาหุ้นวิ่งก่อนออกข่าว การกระโจนเข้าเก็งกำไรของเหล่าเม่า หรือนักลงทุนรายย่อยเพื่อรับไม้ต่อ สบช่องรายใหญ่ออกของ หรือขายหุ้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับหุ้นหลายตัว โดยเฉพาะหุ้นเก็งกำไร

[caption id="attachment_101061" align="aligncenter" width="700"] ราคาหุ้น JAS ในรอบ 1 ปี ราคาหุ้น JAS ในรอบ 1 ปี[/caption]

หุ้น"แจส"หรือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)( JAS) จัดเป็นหุ้นขวัญใจมหาชน หรือนักลงทุนรายย่อย ที่พะยี่ห้อ"พิชญ์ โพธารามิก" ผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นผู้กุมหางเสืออาณาจักรจัสมิน ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีเรื่องตื่นเต้นให้เห็นเป็นระยะๆ

เอาเป็นว่าเฉพาะปี 2559 นี้ พ่อดอกมะลิ "พิชญ์"สร้างการจดจำให้คนในวงการตลาดหุ้นและวงการโทรศัพท์มือถือไปอีกนานแสนนาน

คงจำกันได้กรณีประมูลใบอนุญาต 4 จี คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่ “พิชญ์” สาดตัวเลขสู้ราคาประมูล ถึงระดับ 7.5 หมื่นล้านบาท จนทำให้ชนะการประมูลแต่สุดท้ายก็ไม่จ่ายทั้งค่าธรรมเนียมใบอนุญาตงวดแรก 4,000 ล้านบาทและไม่วางแบงก์การันตี 7.2 หมื่นล้านบาท ด้วยเหตุผลว่าหาสถาบันการเงินผู้สนับสนุนสินเชื่อไม่ทัน

ขณะที่ผู้คนกำลังจะลืมเรื่องประมูล 4 จี “พิชญ์” ก็สร้างความเกรียวกราวรอบใหม่ นั่นก็คือ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2559 ได้ประกาศซื้อหุ้นแจสคืนทั้งหมดในวงเงิน 4.25หมื่นล้านบาท ด้วยวิธีการทำคำเสนอซื้อหุ้นต่อผู้ถือหุ้นทั่วไป (เทนเดอร์ออฟเฟอร์)ที่ราคา 7.25 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ์ซื้อหุ้นสามัญชุดที่ 3 (JAS-W3) หน่วยละ 3.68 บาทดีเดย์ตั้งโต๊ะรับซื้อวันที่ 29 กันยายน-3 พฤศจิกายน 2559

งานนี้มีธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมสร้างเซอร์ไพรส์ ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนทางด้านการเงินแต่เพียงรายเดียว และเช่นเคยที่ปรึกษาทางการเงินไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือ "ชาญ บูลกุล" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดย"ชาญ"หรือชื่อที่เรียกกันติดปาก "มาชานลี" ยังเป็นที่ปรึกษาของครอบครัวโพธารามิกอีกด้วย "พิชญ์" ชี้แจงถึงเหตุผลการทำคำเสนอซื้อครั้งนี้ว่า มีเจตนาที่จะถือหุ้นมากกว่าในปัจจุบันซึ่งสามารถบริหารงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ไม่แปลกที่"พิชญ์"ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่เก่งฉกาจในการใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย ทั้งการซื้อหุ้นคืน การทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้น การออกวอร์แรนต์ เป็นต้น เขาเข้ากันได้ดีกับ"มาชานลี" จับมือกันเมื่อไหร่ก็ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ทันที วัดได้จาก 2 เหตุการณ์ในปี 2559 นี้ นั่นคือ เดือนมีนาคม - กันยายน 2559 จากการล้มกระดานไม่จ่ายค่าประมูล 4 จี สู่การประกาศซื้อหุ้นคืน เมื่อดีดลูกคิดก็ถึงกับอ้าปากค้างเพราะ 2 เหตุการณ์ที่ต่างกรรมต่างวาระนี้พ่อดอกมะลิ"พิชญ์"และกุนซือ"มาชานลี" ทำธุรกรรมด้วยตัวเลขที่สูงถึง 1.49 แสนล้านบาท

แต่ละเรื่องราวหรือสตอรีของ"แจส"ล้วนสอดรับกับราคาหุ้นที่วิ่งแรงและหวือหวา สมแล้วเป็นหุ้นขวัญใจเม่า ตัวอย่างชัดกรณี"พิชญ์"ประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้นแจส พบว่าตั้งแต่เดือนกันยายน ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากราคา 5.65 บาท วิ่งกระฉูดขึ้นไปสูงสุดที่ 7.70 บาท ก่อนที่จะมาปิดซื้อขายที่ระดับ 7.40 บาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 30% ขณะที่มีแรงเก็งกำไรหุ้นคึกคัก โดยเฉพาะหลังจากที่"พิชญ์" ประกาศรับทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 7.25 บาท จนมีกระแสข่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ฯตรวจสอบราคาหุ้นแจส

นอกจากราคาหุ้นแจสที่พุ่งแรงแล้ว เมื่อพิจารณามูลค่าการซื้อขายย้อนหลังแต่ละวันจะพบว่าโป่งพองหรือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน มีมูลค่าการซื้อขาย 1,300 ล้านบาท ถัดมาวันที่ 13 กันยายน อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ,วันที่ 14 กันยายน มีมูลค่า 5,000 ล้านบาท วันที่ 16 กันยายน 3,000 ล้านบาท วันที่ 19 กันยายน 1.65 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นวันที่"พิชญ์"ประกาศทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์

ในวันเดียวกันนั้น"พิชญ์"ได้ซื้อหุ้นแจสแบบบิ๊กล็อตอีกหลายรายการ จนทำให้เขาสามารถรวบหุ้นได้แล้วถึง 60 %
ต่อเรื่องนี้ "เกศรา มัญชุศรี" กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่าว่า ตลท.ติดตามตรวจสอบความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแจส ที่มีความผิดปกติว่า ตลท.จะเข้าตรวจสอบการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ หรือปริมาณการซื้อขายที่มากกว่าปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่เพียงกรณีของแจสและอาจสอบถามไปยังบริษัทจดทะเบียนถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ผู้จัดการตลท.บอกว่าหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นจริง ทางตลท. ก็จะส่งเรื่องต่อให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้มีการตรวจสอบเชิงลึกต่อไป

"ตลท.มีการตรวจสอบอยู่ทุกๆวันอยู่แล้วซึ่งหากมีอะไรผิดปกติ ไม่ใช่เพียงปริมาณการซื้อขายอย่างเดียวคงต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วย หากผิดปกติเราก็จะเข้าไปตรวจสอบ ไม่ได้เจาะจงกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง " ผู้จัดการตลท.อธิบายวิธีการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯในการตรวจสอบราคาหุ้น ที่ย้ำว่าทำเป็นเรื่องปกติ

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่าราคาหุ้นแจส ปรับตัวขึ้นเหนือราคารับซื้อหุ้นคืนนั้น ปัจจัยหลักๆ น่าจะมาจากความไม่ชัดเจนของการรับซื้อหุ้น โดยเฉพาะอนาคตบริษัทต้องการนำหุ้นไปทำอะไร

นอกจากนี้ราคาหุ้นแจสที่ปรับตัวขึ้นมาเหนือราคาซื้อหุ้นคืนค่อนข้างมาก และหากเทียบกับปัจจัยพื้นฐานจะเห็นว่า ราคาหุ้นปัจจุบันสูงเกิน ซึ่งนักวิเคราะห์ในตลาดให้ราคา พื้นฐานในระดับ 6 -7 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม"ชาญ บูลกุล" ในฐานะที่ปรึกษาการเงินของกลุ่มจัสมินให้สัมภาษณ์"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงกรณีที่นายพิชญ์ทำคำเสนอซื้อหุ้นครั้งนี้ เพื่อต้องการจะเข้าไปซื้อหุ้นในบริษัทที่ตัวเองเป็นเจ้าของ จากปัจจุบันนายพิชญ์ถือหุ้นในสัดส่วน 25.84% โดยเหตุผลสำคัญ คือ ต้องการขยายธุรกิจอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ ภายใต้ชื่อ "3BB" ซึ่งเป็นธุรกิจเรือธงของกลุ่ม โดยตั้งเป้าลูกค้าปี 2560 เพิ่มเป็น 3 ล้านราย

3BB อยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) โดยในไตรมาส 2/2559 มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 120,642 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2559 จำนวนลูกค้าเพิ่มสุทธิอยู่ที่ 85,773 รายหรือเพิ่มขึ้น 41% ซึ่ง ณ สิ้นปี 2558 มีลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย

ทั้งหมด คือ ธุรกรรมการเงินของ“แจส” โดยเฉพาะการประกาศซื้อหุ้นคืนรอบนี้ที่มาในรูปของการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์โดย “พิชญ์ โพธารามิก” เรื่องนี้เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เจตนาที่แท้จริง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25 - 28 กันยายน พ.ศ. 2559