มิตรผลเท2พันล.ต่อยอดธุรกิจ หลังได้เทคโนโลยีจากมะกันผลิตสารให้ความหวาน

26 ก.ย. 2559 | 10:30 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

มิตรผล เตรียมทุ่มอีก 2 พันล้านบาท ลุยสร้างโรงงานผลิตสารให้ความหวานจากธรรมชาติปลายปี 2560 กำลังการผลิตเฟสแรก 5-6 พันตันต่อปี พร้อมตั้งเป้าขยายเฟส 2 เพิ่ม ส่งผลกำลังการผลิตรวมใหญ่ 4 เท่าของโรงงานในสหรัฐฯ หวังป้อนตลาดทั่วโลก ล่าสุดจับมือ DFI ลุยโรงงานในสหรัฐฯ

นายกฤษฎา มนเทียรวิเชียรฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า ภายหลังจากกลุ่มมิตรผลลงนามร่วมมือกับ Dynamic Food Ingredients(DFI) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาสารให้ความหวานจากสหรัฐฯ เพื่อตั้งโรงงานผลิตสารให้ความหวานจากธรรมชาติที่มีแคลอรี่ต่ำ ได้แก่ อีริทริทอล และไซลีทอล ซึ่งการร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ทางมิตรผลใช้เงินลงทุน 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1,900 ล้านบาท

โดยภายหลังจากความร่วมมือดังกล่าว กลุ่มมิตรผลมีแผนลงทุนโรงงานผลิตสารให้ความหวานอีริทริทอลและไซลีทอลในประเทศไทย โดยตามแผนจะเริ่มลงทุนก่อสร้างโรงงานเฟส 1 ภายในปลายปี 2560 กำลังการผลิต 5,000-6,000 ตันต่อปี ใช้เงินลงทุน 50-60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นประมาณ 2 ,000 ล้านบาท ส่วนพื้นที่ตั้งโรงงานนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะต้องเป็นพื้นที่ที่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ ซึ่งจะใช้แป้งมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ โดยจะช่วยให้ประเทศลดการนำเข้าจากความต้องการที่มีอยู่ 5-6 หมื่นตันต่อปี เพราะยังไม่มีผู้ผลิตในไทย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่มิตรผลจะเข้ามาลงทุนในโรงงานดังกล่าว

นายปีเตอร์ มิเชนเนอร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด เปิดเผยว่า มิตรผลเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจมาเป็นเวลากว่า 20 ปี การลงทุนและร่วมเป็นพันธมิตรกับ DFI ครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการนำการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมมาเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจ ซึ่งสอดรับกับนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล

โดยปัจจุบันพบว่าผู้บริโภคให้ความใส่ใจกับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น อีกทั้งอัตราการขยายตัวของปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งโรคเบาหวานและโรคทางช่องปาก ก็ส่งผลให้หลายคนหันมาเลือกใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติที่มีแคลอรีต่ำ ผลทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าอีริทริทอล และไซลีทอล คือทางเลือกของสารให้ความหวานจากธรรมชาติซึ่งมีรสชาติอย่างที่ผู้บริโภคต้องการโดยไม่ทิ้งกลิ่นใด ๆ ในปาก และไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพเหมือนสารให้ความหวานสังเคราะห์อื่นๆ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าต้นทุนการผลิตสารอีริทริทอล และไซลีทอล สูงกว่าเมื่อเทียบกับน้ำตาล 10 เท่า แต่การขยายตลาดจะเน้นในตลาดเฉพาะกลุ่ม

ส่วนแผนก่อสร้างโรงงานอีริทริทอล และไซลีทอลในประเทศไทย อยู่ในแผน 2 ปี เบื้องต้นตั้งเป้ากำลังการผลิตรวมของโรงงานในไทยจะใหญ่เป็น 4 เท่าของโรงงานในสหรัฐฯ ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 6,000ตันต่อปี โดยโรงงานในไทยน่าจะเห็นความชัดเจนและเริ่มลงทุนได้ภายในปลายปีหน้า ซึ่งเฟสแรก จะมีกำลังการผลิตประมาณ 6,000 ตันต่อปี จะนั้นก็จะขยายเฟส 2 ต่อไป ส่วนพื้นที่ลงทุนนั้น อาจจะอยู่ 1 ใน 6 ของโรงงานน้ำตาลมิตรผล ซึ่งจะต้องใกล้วัตถุดิบเพื่อลดต้นทุน ให้สามารถแข่งขันได้ อย่างไรก็ตามโรงานดังกล่าวจะป้อน อีริทริทอล และไซลีทอล ให้กับตลาดทั่วโลก

"โรงงานอีริทริทอลในสหรัฐฯ คาดว่าอีก 2-3 เดือนจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ ส่วนโรงงานไซลีทอล ต้องรอผลศึกษาวิจัยเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ซึ่งต้องการให้โรงงานทั้ง 2 แห่งเดินเครื่องผลิตก่อน จากนั้นมิตรผลจะลงทุนโรงงานในไทย ซึ่งอยู่ในแผน 2 ปี ใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 50-60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เชื่อว่าหากโรงงานดังกล่าวแล้วเสร็จจะสามารถเสริมรายได้ให้มิตรผล และลดความเสี่ยงจากรายได้จากธุรกิจน้ำตาลที่ค่อนข้างผันผวน"นายปีเตอร์ กล่าว

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25 - 28 กันยายน พ.ศ. 2559