เภสัชกรไทยเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับนานาชาติ FAPA 2016   

25 ก.ย. 2559 | 02:38 น.
ภก.รศ.ดร.สินธุ์ชัย แก้วกิติชัย  นายกเภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  เปิดเผยว่า  ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม FAPA 2016  ( The 26th Federation of Asian Pharmaceutical Associations Congress ) หรือ การประชุมสหพันธ์เภสัชกรรมสมาคมแห่งเอเชีย เป็นการจัดการประชุมระดับนานาชาติ ที่มีเภสัชกรจากทั่วภูมิภาคเอเซียกว่า 20 ประเทศ จำนวนกว่า 1,500 คน เข้าร่วมงานในวันที่ 9-13  พฤศจิกายน 2559 ณ  ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 นับเป็นประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม FAPA บ่อยครั้งที่สุดในโลก  สำหรับหัวข้อการประชุมในครั้งนี้คือ  “ Integrating Asian Pharmacy Wisdom for Better Global Health ” หรือ “บูรณาการภูมิปัญญาเภสัชกรรมแห่งเอเชีย เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าในสากล”  โดยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรม ร่วมกับทุกภาคส่วน ชูธงสมุนไพรไทยภูมิปัญญาไทย ว่าเป็นทางรอดของมนุษยชาติ โหมกระตุ้นเภสัชกรจับมือกันผลักดัน และปลุกพลังแห่งวิชาชีพเภสัชกรรม ย้ำชัด เภสัชกรไทยก้าวไกลและเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร  รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี และเลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า เภสัชกรเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านเภสัชกรรมระหว่างองค์ความรู้ดั้งเดิมในสังคมเอเชีย กับความรู้ด้านยาสมัยใหม่ที่เน้นเรื่องสารเคมีเป็นหลัก โดยที่ในปัจจุบันการใช้ยาจากสารเคมีมีข้อจำกัดมากขึ้น การหันมาใช้ประโยชน์จากสมุนไพรจะช่วยลดทางตันที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี  มองว่าเภสัชกรมีบทบาทอย่างสำคัญในการแก้ปัญหาด้านยาหลายด้าน เช่น การหาหนทางเพื่อต่อสู้กับเรื่องเชื้อโรคดื้อยา ความเสื่อมจากมลภาวะต่าง ๆ และความเครียด ตลอดจนถึงการคิดค้นยาหรือผลิตภัณฑ์เพื่อนำมาต่อสู้กับโรคอุบัติใหม่ รวมถึงการใช้ยาในผู้สูงอายุ เป็นต้น

“นับเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยเราจะได้อวดของดีที่เรามีภูมิปัญญา และศักยภาพของวิชาชีพเภสัชกรรมสู่สายตาชาวโลก ขอเชิญชวนเภสัชกรไทย และคนไทยทุกคน ร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้อนรับเภสัชกรจากหลากหลายประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และปลุกพลังเภสัชกรไทยเป็นหนึ่งเดียวเพื่อคนไทยทุกคน  และเพื่อการพัฒนาวิชาชีพเภสัชกรรมไทย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวิชาชีพเภสัชกรรมไทยและประเทศไทยของเราอีกด้วย”ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าว