สวนดุสิตโพลเผยประชาชน 42.06% เห็นด้วยเพิ่มอำนาจ กกต.

24 ก.ย. 2559 | 10:45 น.
ตามที่ กกต. เตรียมเสนอร่างกฎหมายต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ขอเพิ่มอำนาจในการจัดการเลือกตั้งและอำนาจในการออกหมายเรียก ตรวจค้น ยึด อายัด จับกุมซึ่งหน้าได้ เพื่อแก้ปัญหาการทุจริตการเลือกตั้ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ กกต. ให้ดีขึ้น เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,315 คน  ระหว่างวันที่ 20-23 กันยายน 2559 สรุปผลได้ ดังนี้

1.ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? กรณี กกต.จะขอเพิ่มอำนาจให้ กกต. เลขาธิการกกต. ผอ.กกต.จังหวัด พนักงานสืบสวนหรือกรรมการไต่สวนของกกต. สามารถออกหมายเรียก ตรวจค้น ยึด อายัด จับกุมซึ่งหน้าได้  อันดับ 1 เห็นด้วย 42.06%  เพราะ เป็นการเพิ่มอำนาจให้ กกต. มีความเด็ดขาด ทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น  เมื่อพบการกระทำผิดสามารถจัดการได้ทันที  ช่วยป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง  ผู้สมัครเกรงกลัวไม่กล้ากระทำผิด ฯลฯ   อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย  38.55%  เพราะ ทำให้ กกต. มีอำนาจมากเกินไป อาจใช้อำนาจในทางที่ผิด ควรให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ไม่มั่นใจในกระบวนการ อาจเกิดการทุจริต ไม่โปร่งใส ฯลฯ อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 19.39% เพราะ ยังไม่ทราบรายละเอียด ควรศึกษาผลดี ผลเสียให้ชัดเจน ที่ผ่านมาประชาชนไม่มั่นใจในการทำงานของ กกต. มากนัก อาจมีช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตได้ ฯลฯ

2. ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? กรณี  หากพบว่ามีการกระทำผิดในการเลือกตั้ง ส.ส. ส.ว. หรือเลือกตั้งท้องถิ่น ให้ กกต. มีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง อาญา และว่าความในศาลได้ อันดับ 1 เห็นด้วย39.37%  เพราะ ทำให้การพิจารณาคดีการทุจริตต่างๆ ดำเนินการได้รวดเร็วและคล่องตัวมากขึ้น หากมีหลักฐานชัดเจน ก็จะช่วยป้องกันการทุจริตได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ที่คิดจะกระทำผิดเกิดความเกรงกลัว ฯลฯ อันดับ 2  ไม่แน่ใจ  35.79%  เพราะ อาจมีทั้งผลดีและผลเสีย ไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่ามีอำนาจในการดำเนินการเพียงใด เป็นเพียงข้อเสนอของ กกต. ยังไม่ได้อนุมัติ ควรหาแนวทางป้องกันการทุจริตมากกว่า ฯลฯ  อันดับ 3  ไม่เห็นด้วย 24.84% เพราะ  หากมีการกระทำผิดควรให้เป็นอำนาจของศาลในการตัดสิน กกต. อาจมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมที่จะดำเนินการ กกต.ควรทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้มีความโปร่งใส เป็นที่ยอมรับ ฯลฯ

3.  ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? กรณี กกต.ขอให้ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองต้องออกมาดีเบต หรือร่วมเวทีอภิปรายเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายของพรรคต่อสาธารณะ อันดับ 1  เห็นด้วย 45.18%  เพราะ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์ แนวทางการทำงานตามนโยบายที่กำหนดไว้ ทำให้ประชาชนได้ทราบถึงเหตุผล มุมมองและความคิดเห็%ต่างๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น อยากเห็นบุคลิก ท่าทางลีลาการพูดของแต่ละคน ฯลฯ  อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 31.52%เพราะ  การดีเบตขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละคน เป็นเพียงข้อเสนอของ กกต. ฝ่ายเดียว ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ฯลฯ อันดับ 3 ไม่เห็นด้วย 23.30%  เพราะ  อาจมีแต่การโต้เถียงกันไปมา ขุดคุ้ยเรื่องเก่า พูดพาดพิงผู้อื่นให้เสียหาย หวังแต่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง  อาจเป็นประเด็นทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาได้ ฯลฯ

4.  ประชาชนคิดว่าการที่จะติดดาบหรือเพิ่มอำนาจให้ กกต.จะช่วยให้การเลือกตั้งโปร่งใสมากขึ้นหรือไม่?  อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 47.15%  เพราะ  ยังไม่เคยมีการดำเนินการเช่นนี้มาก่อน ยังไม่ทราบผลที่จะตามมา ไม่รู้รายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร ปัญหาการทุจริตแก้ไขได้ยาก ฯลฯ อันดับ 2 ช่วยได้ 30.27%   เพราะ การเพิ่มอำนาจให้ กกต. ช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็วมากขึ้น สามารถดำเนินการได้ทันที ผู้ที่คิดจะกระทำผิดจะได้เกรงกลัว ทำให้การเลือกตั้งมีความโปร่งใสมากขึ้น ฯลฯ  อันดับ 3 ช่วยไม่ได้ 22.58%  เพราะ  การทุจริตเลือกตั้งมีทุกยุคทุกสมัย เป็นปัญหาที่สะสมมานาน อาจมีช่องโหว่ให้เกิดการทุจริต เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจรู้เห็นเป็นใจ ไม่มั่นใจในมาตรฐานการทำงานของ กกต.  ฯลฯ