อโศก-พร้อมพงษ์ทำเลศักยภาพ คาดปี 60 คอนโดฯราคาขยับ 2.6 แสนบ./ตร.ม.
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชี้ ปี60 คอนโดฯพื้นที่อโศก-พร้อมพงษ์ มีแนวโน้มราคาแตะ 2.6 แสนบาทต่อตร.ม. เหตุจากทำเลศักยภาพมีจุดเชื่อมต่อคมนาคมทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT แถมเป็นแหล่งผู้คนอาศัยหนาแน่น
[caption id="attachment_100109" align="aligncenter" width="700"]
โครงการคอนโดมิเนียมประเภทอาคารสูงในอโศก-พร้อมพงษ์ที่ก่อสร้างเสร็จแล้วในปี 2559-2562[/caption]
ด้านโครงการพร้อมโอนปีนี้เนื้อหอมสุด ผู้ซื้อ-นักลงทุน รีบจับจองก่อนราคาขยับในปีหน้า
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากการสำรวจคอนโดมิเนียมที่เป็นอาคารสูงในเขตกรุงเทพฯ ที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2555-2558 พบว่า ในปี 2558 มีจำนวน 51 โครงการ 24,883 หน่วย มูลค่าโครงการรวมอยู่ที่กว่า 2.14 แสนล้านบาท แต่หากคิดตั้งแต่ปี 2555-2558 พบว่า มีมูลค่าโครงการเฉลี่ยที่กว่า 1.42 แสนล้านบาท สำหรับในพื้นที่อโศก-พร้อมพงษ์ ตั้งแต่ปี 2555 มีโครงการคอนโดมิเนียมอาคารสูงที่เปิดขายทั้งหมด 18 โครงการ มีจำนวนห้องชุดทั้งหมด 5,556 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 71,799 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของมูลค่าเฉลี่ยโครงการคอนโดมีเนียมเปิดขายใหม่ในแต่ละปี ในพื้นที่กรุงเทพฯ
โดยในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ได้เข้ามาพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่นี้จำนวนมาก ซึ่งโครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมีเนียมหรูและมียอดขายที่ดีมาก ซึ่งยังคงดีต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าอัตราการขายจะลดลง แต่ก็ยังถือว่าเป็นอัตราการขายที่อยู่ในระดับดี อีกทั้งกำลังซื้อของลูกค้าระดับบนไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ในปี 2559 จำนวนคอนโดมิเนียมในพื้นที่อโศก – พร้อมพงษ์ เพิ่มขึ้นเพียง 1,044 หน่วย คิดเป็น 19% จากปี 2558 ส่งผลให้มีจำนวนคอนโดมิเนียมรวม 5,417 หน่วย ซึ่งเป็นการเติบโตในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากที่ดินที่สามารถจะพัฒนาโครงการใหม่เริ่มหาได้ยากมากขึ้น โดยจำนวนยอดขายสะสมในไตรมาส 3/2559 มีทั้งหมด 4,200 หน่วย เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน และมียอดขายเฉลี่ย 77% โดยคาดว่าจำนวนสินค้าใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาส 4/2559 ถึง ไตรมาส 2/2560 จะมีเพียง 558 หน่วยเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ
สำหรับในปี 2559 จะมีโครงการที่เริ่มโอนทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ เดอะเทอร์ตี้ไนน์ และเอดจ์ สุขุมวิท 23 จาก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) , โครงการลุมพินี 24 จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,056 หน่วย มูลค่ารวมทั้งสิ้น 8,600 ล้านบาท ส่วนโครงการอื่นที่จะทยอยเสร็จในปี 2560 -2562 จะมีจำนวนรวม 4,500 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท
หากพิจารณาจากโครงการทั้งหมดบนทำเลอโศก-พร้อมพงษ์ พบว่า โครงการเอดจ์ สุขุมวิท 23 และ โครงการแอชตัน อโศก เป็นโครงการที่มีความได้เปรียบจากโครงการอื่น เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดตัดของรถไฟฟ้า BTS และ MRT และเป็นโครงการแรกในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่อยู่ใกล้กับพื้นที่อโศกอินเตอร์เชนจ์ โดยโครงการเอดจ์ สุขุมวิท 23 จะก่อสร้างเสร็จในปีนี้ (2559) ส่วนโครงการแอชตัน อโศก จะก่อสร้างเสร็จในปี 2561
"ในส่วนของราคา ถือว่าทำเลดังกล่าวมีการปรับราคาขึ้นทุกปี โดยค่าเฉลี่ยของการปรับราคาโครงการเปิดใหม่ต่อปีอยู่ที่ 9-10% ดังนั้นโครงการที่พร้อมโอนปีนี้จะมีราคาถูกกว่าโครงการใหม่ถึง 30% ทำให้เป็นที่สนใจของผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยจริงหรือลงทุน อีกทั้งราคารีเซลของโครงการพร้อมโอนถือว่ายังไม่ขยับสูงขึ้นไปมาก ทำให้สามารถลงทุนได้ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าในปี 2560 ราคาขายคอนโดมิเนียมในโซนอโศก-พร้อมพงษ์ จะปรับขึ้นไปที่ 2.6 แสนบาทต่อตารางเมตร" นายภูมิภักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ พื้นที่โซนอโศก-พร้อมพงษ์ จะมีขนาดเพียง 2.5 ตารางกิโลเมตร แต่ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพในหลายด้าน ทั้งด้านการคมนาคมที่โดดเด่นด้วยการมีสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้า BTS และ MRT ที่สามารถดึงดูดผู้อยู่อาศัยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีอาคารสำนักงานรวมกว่า 900,000 ตารางเมตร เป็นศูนย์กลางแหล่งชอปปิ้งและสถาบันการศึกษาชั้นนำ ซึ่งจากข้อมูลการพักอาศัยของโครงการที่บริษัทรับบริหารในทำเลนี้ พบว่ามีความหนาแน่นของการอยู่อาศัยกว่า 80-90% และยังเป็นตลาดเช่าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ทำให้ความต้องการของคอนโดมีเนียมในบริเวณนี้มีมากทั้งจากผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเอง และผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อการปล่อยเช่า ซึ่งอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าอยู่ที่ 5%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,194 วันที่ 22 - 24 กันยายน พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_100109" align="aligncenter" width="700"]
ด้านโครงการพร้อมโอนปีนี้เนื้อหอมสุด ผู้ซื้อ-นักลงทุน รีบจับจองก่อนราคาขยับในปีหน้า
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากการสำรวจคอนโดมิเนียมที่เป็นอาคารสูงในเขตกรุงเทพฯ ที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2555-2558 พบว่า ในปี 2558 มีจำนวน 51 โครงการ 24,883 หน่วย มูลค่าโครงการรวมอยู่ที่กว่า 2.14 แสนล้านบาท แต่หากคิดตั้งแต่ปี 2555-2558 พบว่า มีมูลค่าโครงการเฉลี่ยที่กว่า 1.42 แสนล้านบาท สำหรับในพื้นที่อโศก-พร้อมพงษ์ ตั้งแต่ปี 2555 มีโครงการคอนโดมิเนียมอาคารสูงที่เปิดขายทั้งหมด 18 โครงการ มีจำนวนห้องชุดทั้งหมด 5,556 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 71,799 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของมูลค่าเฉลี่ยโครงการคอนโดมีเนียมเปิดขายใหม่ในแต่ละปี ในพื้นที่กรุงเทพฯ
โดยในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ได้เข้ามาพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่นี้จำนวนมาก ซึ่งโครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมีเนียมหรูและมียอดขายที่ดีมาก ซึ่งยังคงดีต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าอัตราการขายจะลดลง แต่ก็ยังถือว่าเป็นอัตราการขายที่อยู่ในระดับดี อีกทั้งกำลังซื้อของลูกค้าระดับบนไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ในปี 2559 จำนวนคอนโดมิเนียมในพื้นที่อโศก – พร้อมพงษ์ เพิ่มขึ้นเพียง 1,044 หน่วย คิดเป็น 19% จากปี 2558 ส่งผลให้มีจำนวนคอนโดมิเนียมรวม 5,417 หน่วย ซึ่งเป็นการเติบโตในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากที่ดินที่สามารถจะพัฒนาโครงการใหม่เริ่มหาได้ยากมากขึ้น โดยจำนวนยอดขายสะสมในไตรมาส 3/2559 มีทั้งหมด 4,200 หน่วย เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน และมียอดขายเฉลี่ย 77% โดยคาดว่าจำนวนสินค้าใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาส 4/2559 ถึง ไตรมาส 2/2560 จะมีเพียง 558 หน่วยเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ
สำหรับในปี 2559 จะมีโครงการที่เริ่มโอนทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ เดอะเทอร์ตี้ไนน์ และเอดจ์ สุขุมวิท 23 จาก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) , โครงการลุมพินี 24 จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,056 หน่วย มูลค่ารวมทั้งสิ้น 8,600 ล้านบาท ส่วนโครงการอื่นที่จะทยอยเสร็จในปี 2560 -2562 จะมีจำนวนรวม 4,500 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท
หากพิจารณาจากโครงการทั้งหมดบนทำเลอโศก-พร้อมพงษ์ พบว่า โครงการเอดจ์ สุขุมวิท 23 และ โครงการแอชตัน อโศก เป็นโครงการที่มีความได้เปรียบจากโครงการอื่น เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดตัดของรถไฟฟ้า BTS และ MRT และเป็นโครงการแรกในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่อยู่ใกล้กับพื้นที่อโศกอินเตอร์เชนจ์ โดยโครงการเอดจ์ สุขุมวิท 23 จะก่อสร้างเสร็จในปีนี้ (2559) ส่วนโครงการแอชตัน อโศก จะก่อสร้างเสร็จในปี 2561
"ในส่วนของราคา ถือว่าทำเลดังกล่าวมีการปรับราคาขึ้นทุกปี โดยค่าเฉลี่ยของการปรับราคาโครงการเปิดใหม่ต่อปีอยู่ที่ 9-10% ดังนั้นโครงการที่พร้อมโอนปีนี้จะมีราคาถูกกว่าโครงการใหม่ถึง 30% ทำให้เป็นที่สนใจของผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยจริงหรือลงทุน อีกทั้งราคารีเซลของโครงการพร้อมโอนถือว่ายังไม่ขยับสูงขึ้นไปมาก ทำให้สามารถลงทุนได้ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าในปี 2560 ราคาขายคอนโดมิเนียมในโซนอโศก-พร้อมพงษ์ จะปรับขึ้นไปที่ 2.6 แสนบาทต่อตารางเมตร" นายภูมิภักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ พื้นที่โซนอโศก-พร้อมพงษ์ จะมีขนาดเพียง 2.5 ตารางกิโลเมตร แต่ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพในหลายด้าน ทั้งด้านการคมนาคมที่โดดเด่นด้วยการมีสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้า BTS และ MRT ที่สามารถดึงดูดผู้อยู่อาศัยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีอาคารสำนักงานรวมกว่า 900,000 ตารางเมตร เป็นศูนย์กลางแหล่งชอปปิ้งและสถาบันการศึกษาชั้นนำ ซึ่งจากข้อมูลการพักอาศัยของโครงการที่บริษัทรับบริหารในทำเลนี้ พบว่ามีความหนาแน่นของการอยู่อาศัยกว่า 80-90% และยังเป็นตลาดเช่าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ทำให้ความต้องการของคอนโดมีเนียมในบริเวณนี้มีมากทั้งจากผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเอง และผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อการปล่อยเช่า ซึ่งอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าอยู่ที่ 5%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,194 วันที่ 22 - 24 กันยายน พ.ศ. 2559