ครบ2ปีภาคเอกชนเทคะแนนให้‘บิ๊กตู่’

16 ก.ย. 2559 | 02:00 น.
บิ๊กธุรกิจแห่เทคะแนน 2 ปีรัฐบาลประยุทธ์เกือบเต็ม เชื่อมั่นความทุ่มเท ถูกใจผลงานสร้างเสถียรภาพ ปราบโกง จัดระเบียบสังคมและธุรกิจ ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่เห็นผลนัก แต่ถ้าไม่ทำจะแย่กว่านี้ เสียงเอกฉันท์ของรัฐเร่งผลักดันเมกะโปรเจ็กต์ให้เดินหน้าโดยเร็ว

[caption id="attachment_97963" align="aligncenter" width="700"] ผลงาน นายก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลงาน นายก ประยุทธ์ จันทร์โอชา[/caption]

ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. จะนำทีมรองนายกฯ เปิดแถลงผลงานในวาระครบรอบ 2 ปีรัฐบาล วันที่ 15 กันยายนนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล "ฐานเศรษฐกิจ"สำรวจความเห็นผู้บริหารระดับสูงองค์กรธุรกิจหลากหลายสาขา ต่างให้คะแนนผลงาน 2 ปีรัฐบาลในระดับสูง ทั้งความตั้งใจแก้ปัญหา รักษาเสถียรภาพประเทศให้เศรษฐกิจเริ่มเดินได้ แม้ผลของมาตรการกระตุ้นจะยังไม่ปรากฏชัด แต่ถ้าไม่ทำจะแย่ยิ่งกว่า รวมทั้งขอให้เร่งรัดเดินหน้าเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ต่อเนื่องจากที่เริ่มมั่นใจหลังร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมนี้ และย้ำความชัดเจนของโรดแมปคสช.เพื่อกลับสู่การเลือกตั้งในปลายปีหน้า โดยล่าสุดคำสั่งคสช.ที่ 55/2559 คลายอีกเปลาะ ให้คดีความมั่นคงและอาวุธ กลับไปขึ้นศาลยุติธรรมตามปกติ

 เท 8 คะแนน"ความตั้งใจ"

โดยนายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงการทำงานของรัฐบาลนำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ในช่วง 2 ปีนี้ ถือว่าการทำงานของรัฐบาลดีกว่าหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ถ้าให้คะแนนรวมความตั้งใจด้วยเต็ม 10 ก็ให้ 8 คะแนน โดยภาพที่ภาคเอกชนเห็นโดดเด่นในรัฐบาลนี้ เช่น เรื่องการปราบปรามคอร์รัปชัน อีกทั้งมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหลายฉบับ รวมถึงการปรับวิธีการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ ทำให้ดำเนินการต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น อีกทั้งนโยบายส่งเสริมการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) น่าจะมาถูกทางแล้ว เพราะสามารถต่อยอดได้เร็วขึ้น มีระบบโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว ทั้งท่าเรือ สนามบิน และถนน รวมไปถึงมีนิคมอุตสาหกรรมรองรับ

บิ๊กอสังหาฯเชียร์เกือบเต็ม

เช่นเดียวกับบิ๊กค่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยนายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาถือว่ารัฐมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เป็นอย่างดี และในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ผลงานที่เห็นชัดเจนก็คือ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ที่รัฐบาลประกาศใช้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2558-28 เมษายน 2559 ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และลดค่าธรรมเนียมการจดจำนอง เหลือ 0.01% ส่งผลให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงเวลาดังกล่าว ตลอดจนการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าชื่นชม ส่วนตัวจึงให้คะแนนการทำงานของรัฐบาลที่ 9 เต็ม 10 คะแนน

สำหรับ 1 คะแนนที่เหลืออยากจะฝากให้รัฐบาลช่วยเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดก็คือ การเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ รวมทั้งการเชื่อมต่อแอร์พอร์ตลิงค์กับสนามบินดอนเมือง ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยภาคการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

ด้านนายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ก็เห็นว่า ผลงานที่โดดเด่นได้แก่การผลักดันเกี่ยวกับเรื่อง CG (Corporate Good Governance) ซึ่งเป็นเรื่องสากลทั่วโลก ที่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ความสำคัญ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คนทั่วไป และยังเป็นแบบอย่างที่ดี ที่ทำให้ข้าราชการทุกคนต้องทำตามระเบียบอย่างถูกต้อง โปร่งใสและเป็นธรรม "ดังนั้น ถ้าให้คะแนนการทำงานของรัฐบาล ผมให้ 8-9 คะแนน"

 พอใจกระตุ้น"ไม่ทำแย่กว่านี้"

ขณะที่นายบุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า พึงพอใจกับผลการดำเนินงานของรัฐบาลในชุดปัจจุบัน โดยประเมินคะแนนที่ให้กับรัฐบาล 8 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน เนื่องจากเข้าใจว่าไม่มีรัฐบาลชุดใดที่จะทำงานได้ครบสมบูรณ์แบบจนได้คะแนนเต็ม 10 และรัฐบาลชุดปัจจุบันถือว่ามีผลงานการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นที่น่าพึงพอใจ แม้ว่าผลของการกระตุ้นจะยังไม่ออกมาให้เห็นชัดเจน แต่หากรัฐบาลไม่ดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจจะแย่กว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังพึงพอใจในผลการดำเนินงานด้านการปราบปรามทุจริตและปัญหาคอร์รัปชัน เนื่องจากเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน และที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลใดที่ทำได้ดีเท่ากับรัฐบาลชุดปัจจุบัน จึงยังไม่มีเรื่องใดที่ไม่พอใจผลการดำเนินงานของรัฐบาลชุดนี้

 เร่งเงินถึงมือรากหญ้า

ด้านนายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาดบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลมีความตั้งใจบริหารประเทศ และมีผลงานที่ดี แม้จะเจอปัจจัยภายนอกที่รุมเร้า อาทิ เศรษฐกิจโลกที่กระทบกับการส่งออก อย่างไรก็ตามยังมีจุดที่อยากให้รัฐบาลเร่งมือคือ อยากให้ทุกคนในสังคมมีความเท่าเทียมกัน การผลักดันรายได้เกษตรกรให้มากขึ้น การเดินหน้าโครงการสาธารณูปโภคต่าง ๆ

"ตอนนี้เม็ดเงินในโครงการต่าง ๆ ยังมาไม่ถึงมือของเกษตรกรหรือกลุ่มรากหญ้า ดังนั้น หากสามารถทำให้เงินไหลเข้ามาในระบบได้ ก็จะมีกำลังซื้อและช่วยกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจ แต่โดยรวมสำหรับผลงานของรัฐบาลถือว่าสอบผ่าน หากให้คะแนนเต็ม 10 ก็ให้ 8 คะแนน "

นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อเสนอแนะที่ต้องการให้รัฐบาลในชุดนี้พิจารณาคือ ทำแพ็กเกจส่งเสริมการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถยนต์ หรือในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุน โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์ หากมีข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี อาร์แอนด์ดี ก็จะเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากโดยควรจะเร่งมือก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ เพราะหากรอหลังเลือกตั้ง นักลงทุนอาจจะตัดสินใจไปลงทุนประเทศอื่น ๆ แทน

 เชียร์จัดระเบียบท่องเที่ยว

มาที่แวดวงท่องเที่ยว นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลงานของรัฐบาลในเรื่องของการท่องเที่ยว ที่มีความโดดเด่นมาก เป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์และโฆษณาที่นำเสนอความเป็นไทยได้เข้าถึงตลาดในต่างประเทศที่มีความสำคัญ โดยการเดินทางไปโปรโมตการท่องเที่ยวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯที่ทุ่มเทมาก

ส่วนผลงานของรัฐบาลที่เห็นชัดเจน คือ การจัดระเบียบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อแก้ปัญหานักท่องเที่ยวถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจและรู้สึกความปลอดภัย และส่งสัญญาณชัดเจน ให้ผู้ประกอบการอยู่ในกรอบกฎหมาย รวมถึงผลักดันเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขยายศักยภาพการรองรับของสนามบิน การพัฒนารถไฟ ที่เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ส่วนการบ้านที่อยากจะฝากกับรัฐบาล คือ ต้องมองเรื่องความยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยควรเร่งจัดระเบียบใน 2 เรื่อง คือ 1. การรักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องเข้ามาดูแล และ2.การจัดระเบียบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ผู้ประกอบการอยู่ในกรอบกฎหมาย ทั้งนี้ให้คะแนนผลงานเต็ม 10 สำหรับรัฐมนตรีท่องเที่ยว และ8 คะแนนสำหรับผลงานโดยรวมของรัฐบาล

หัก2.5คะแนนเมกะโปรเจ็กต์ไม่ทันใจ

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์(บล. ) ทิสโก้ จำกัด และในฐานะนายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ให้ความเห็นว่า ในภาพรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างดี แม้ว่าอาจจะมีบางอย่างล่าช้าไปบ้าง แต่ก็ยังปรากฏผลงานออกมาอย่างเป็นรูปธรรมให้เห็นอย่างชัดเจนหลายส่วน โดยรัฐบาลเองก็พยายามที่จะผลักดันใน 2 ส่วนได้แก่ การปฏิรูปเศรษฐกิจ และการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเห็นว่ามีหลายโครงการที่เดินหน้า

"การที่รัฐบาลมีการกำหนดยุทธศาสตร์ระยะยาว 20 ปี ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทย ทำให้ทุกภาคส่วนมีเข็มทิศในการเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ ให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำเหมือนในอดีต ซึ่งเมื่อมีรัฐบาลใดเข้ามาบริหารประเทศก็จะทำตามนโยบายของตนเองเป็นหลัก อย่างน้อยโครงการไทยแลนด์ 4.0 ก็จะเปรียบเสมือนเป็นเสาหลักให้ได้ยึดแนวทาง หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในอนาคต"

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว หากเป็นผลงานของรัฐบาลทั้งหมดคงตอบได้ยาก เพราะมีการดำเนินการหลายอย่าง แต่หากจะมองเพียงแค่ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล คะแนนน่าจะอยู่ที่ 7.5 โดยอีก 2.5 คะแนนที่หายไป มาจากความล่าช้าของการดำเนินนโยบายในส่วนของโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาเกือบ 2 ปีถึงจะมีความชัดเจนอย่างที่เห็น

 บิ๊กอุตสาหกรรมเชียร์ปราบโกง

ด้านตัวแทนภาคอุตสาหกรรมนั้น นายรัมย์ เหราบัตย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลงานรัฐบาลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนตัวชื่นชอบนโยบายสร้างหลักธรรมาภิบาล ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง ซึ่งบริษัทก็เข้าร่วมโครงการเช่นกัน ขณะที่การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานมีความคืบหน้าไปมาก แต่ต้องการให้รัฐเร่งรัดโครงการอื่น ๆ ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่ดีจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตขึ้น โดยส่วนตัวให้คะแนนผลงานรัฐบาล 8 คะแนน

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผลงานรัฐบาลที่ส่วนตัวเห็นว่ามีความชัดเจนมากที่สุดคือ เรื่องการปราบทุจริต คอรัปชั่น แต่ในส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต ยังนับว่าอยู่ระดับปานกลาง คือยังไม่มีการเติบโตที่ชัดเจนมากนัก ดังนั้น ส่วนตัวอยากให้ภาครัฐเร่งออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยให้คะแนน 8-9 คะแนน

หนุน“บิ๊กตู่”อยู่ต่อ

นายไพรัช บูรพชัยศรี รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลงานรัฐบาลช่วง 2 ปีที่โดดเด่นคือเรื่องความมั่นคง ส่วนด้านเศรษฐกิจรัฐบาลก็ดูแลได้ไม่เลวเกินไป และสามารถประคับประคองเศรษฐกิจได้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และกระทบกับภาคการส่งออก ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 70% ของรายได้ประเทศซึ่งหากให้คะแนนเต็ม 10 รัฐบาลได้อย่างน้อย 6-7 คะแนน หลายฝ่ายอยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ต่อ เพราะหลายภารกิจยังไม่แล้วเสร็จ

“การแถลงผลงานรัฐบาลในวันที่ 15 กันยายนนี้ ทุกคนทราบอยู่แล้วว่าแต่ละกระทรวงมีผลงานมากมายทั้งที่สำเร็จแล้ว และยังไม่สำเร็จ และหลายเรื่องยังต้องใช้เวลาและต้องสานต่อ เช่นการจัดตั้งกระทรวงดิจิทัลการผลักดันเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษการขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้พ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลางเป็นต้น”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,192 วันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2559