เกศรา มัญชุศรี ‘การจะให้พนักงานดีต่อองค์กร… องค์กรก็ต้องให้พนักงานด้วย’

16 ก.ย. 2559 | 01:00 น.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยมาตลอด 40 ปีนับแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2518 เป็นกลไกและช่องทางระดมทุนแก่ผู้ประกอบการธุรกิจให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนทางเลือก เป็นช่องทางออมเงินและสร้างดอกผลจากการลงทุนของประชาชน และเป็นแหล่งความรู้เรื่องการเงินและการลงทุน

วิสัยทัศน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ การมุ่งมั่นพัฒนาตลาดทุนไทยให้เกิดความยั่งยืน ด้วยการผลักดันนโยบายส่งเสริมการเติบโตเชิงปริมาณและคุณภาพไปพร้อมกับการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้หลักบรรษัทภิบาล โดยกำหนดวิสัยทัศน์ตลาดทุนระยะยาวสู่ปี 2563 "Towards Sustainable Growth" ให้มีความมั่นคง สร้างความมั่งคั่ง และเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งผลักดันผู้เกี่ยวข้องให้ร่วมมือกันขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

"เกศรา มัญชุศรี" กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ดังกล่าว การร่วมงานกับเสาหลักของตลาดทุนแห่งนี้เมื่อ 14 ปีก่อน กระทั่งก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 คือ เอ็มดีตลาดหุ้น เมื่อ 2 ปีก่อนต้องบอกว่าหญิงห้าวคนนี้ทำงานแทบไม่มีวันหยุด มารู้จักอีกด้านของการบริหาร ซึ่งว่ากันว่าเป็นงานที่ยากที่สุด นั่นคือการบริหารคน

"เรื่องคน เป็นเรื่องสำคัญ การจะให้พนักงานดีต่อองค์กร ตัวองค์กรก็ต้องให้ หรือดูแลพนักงานด้วย สำหรับตลาดหลักทรัพย์ฯ เราดูแลพนักงานดีพอสมควร ในเรื่องของเบเนฟิตต่างๆ นอกจากนี้พนักงานตลาดหลักทรัพย์ฯมักจะอยู่กันแบบพี่น้อง"

อย่างไรก็ดี "เกศรา" บอกว่า เมื่อให้พนักงานประเมินระดับผู้บริหาร คะแนนที่แย่ก็ คือ ระบบการบริหารไม่ค่อยดี (หัวเราะร่วน) บางครั้งบางคราวฝ่ายบริหารไม่เข้าใจพนักงาน แมเนจเมนต์ หรือฝ่ายบริหารของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องทำหน้าที่เป็นฝ่ายทรัพยากรบุคคล(HR)ด้วย ซึ่งต้องเป็นโค้ชหรือเป็นพี่เลี้ยงพนักงานด้วย

"ฝ่ายบริหารต้องรู้จักพนักงาน เพราะว่าถ้าคุณไม่รู้จักแล้วใครจะรู้จักล่ะ ดังนั้นทำอย่างไรที่ผู้บริหารในสายงานต่างๆ รู้จักลูกน้องตัวเอง รู้จุดเด่น จุดด้อย และรู้จักที่จะใช้พนักงานให้ทำงาน"

"เกศรา" ได้ยกตัวอย่างหนังสือเล่มหนึ่งที่เธอเคยอ่าน โดยเขียนไว้ว่า ทำอย่างไรให้พนักงานที่มีจุดเด่นอยู่แล้ว ให้เด่นมากยิ่งขึ้น เพราะว่าให้บริหารจุดเด่นดีกว่าบริหารจุดด้อย ขณะที่จุดด้อยทำยาก จุดเด่นทำง่ายกว่า

"การเป็นระดับบริหาร เรื่องทักษะ หรือ เทคนิเคิล ไม่ยากจ้างใครก็ได้ แต่ทักษะการบริหารคนบริหารงาน และการตัดสินใจ เป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่เรามีข้อมูลและเวลาที่จำกัดแล้วเราจะเลือกและตัดสินใจอย่างไร"

ซักเซสชันแพลนของตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ จะทำอย่างไรให้พนักงานเรียนรู้เพื่อรองรับสิ่งใหม่ ๆ นอกจากนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายหน้าที่การทำงาน เธอบอกว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ เนื่องจากทำให้เกิดการเรียนรู้ มีประสบการณ์กับงานใหม่ ๆ การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม จะทำให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความเป็นนายคนมากขึ้น

นอกจากนี้พนักงานต้องมีลักษณะเฉพาะ คือ ความซื่อสัตย์ จะต้องมี ดังนั้นงานลักษณะนี้จึงต้องใช้ประสบการณ์ ดังนั้นการมีประสบการณ์ในสายงานเดียวจึงไม่พอ หรือแม้แต่ตัวเธอเองก็ผ่านงานมาหลากหลายมาก และการอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯก็ทำให้ได้เรียนรู้งานในหลาย ๆ ด้าน

ดังนั้นองค์กรตลาดหลักทรัพย์ฯถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะว่านอกจากจะมีความเชี่ยวชาญแล้ว หลาย ๆเรื่องต้องใช้ประสบการณ์ใกล้เคียง เช่น งานฝ่ายจดทะเบียนหลักทรัพย์ จะต้องมีความรู้ด้านงานวาณิชธนกิจ งานวิเคราะห์หลักทรัพย์ เป็นต้น ดังนั้นต้องมีประสบการณ์ที่ผสมผสาน การทำงาน หรือผลงานที่เกิดขึ้น เป็นผลงานของคน ดังนั้นคนตลาดหลักทรัพย์ฯต้องมียีนส์พิเศษ มีดีเอ็นเอพิเศษที่ว่า 1. เราต้องเป็นผู้นำในการทำงาน 2. งานที่ทำต้องคำนึงถึงผู้เกี่ยวข้อง หรือพาร์ตเนอร์ชิพ เช่น มีสมาคมต่างๆเข้ามาร่วมทำงาน

จะเห็นได้ว่าการบริหารคนของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีความกว้างมาก พอกว้างมาก พนักงานทุกคนจึงไม่ได้คิดถึงองค์กรอย่างเดียว แต่จะต้องคิดถึงคนข้างนอกหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นพนักงานตลาดหลักทรัพย์ฯ เวลาทำงานจะคิดเองเออเองไม่ได้ ในที่นี้หมายถึงเวลาจะทำโปรเจ็กต์อะไร ต้องคำนึงถึงผู้เกี่ยวข้อง เช่น นักลงทุน บริษัทจดทะเบียน เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,192 วันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2559