เอไอเอส ยกคุณภาพชีวิต พัฒนาคนสู่สังคมดิจิตอล
เพราะความเป็นผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 1 ของประเทศ เอไอเอส หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จึงต้องตอกย้ำความเป็นผู้ให้บริการดิจิตอล ภายใต้แนวคิด Live Digital ,Live More เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้ดีขึ้นในทุกมิติ
นั้นจึงเป็นที่มาที่ เอไอเอส จับมือหน่วยงานต่างๆ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ให้เกิดการพัฒนาด้านการเรียนรู้ให้แก่เยาวชนและชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ให้เข้าถึงอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนความรู้จากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก นำร่องที่ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคีรีล้อม อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ห่างไกลอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
[caption id="attachment_95476" align="aligncenter" width="500"]
การผลิตพลังงานไฟฟ้า[/caption]
ต่อเรื่องนี้ “นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส เล่าว่า ขณะนี้ เอไอเอส ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , เนคเทค และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จัดทำ “โครงการระบบไอซีที และพลังงานทดแทนแบบบูรณาการสำหรับชุมชนชายขอบ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” ขึ้น โดยนำร่องที่ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคีรีล้อม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นแห่งแรก ซึ่งปัจจุบันทำการสอนตั้งแต่ระดับก่อนประถมจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 105 คน และตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล บริเวณป่าต้นน้ำหน่วยพิทักษ์ป่าคีรีล้อม
โครงการนี้ เอไอเอส ทำหน้าที่นำระบบไอซีทีมาเชื่อมโยงการสื่อสารในยุคดิจิตอล ด้วยการจัดทำห้องเรียนต้นแบบด้านการเรียนรู้สำหรับเยาวชน ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สายและระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ให้เยาวชนและชุมชน สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
[caption id="attachment_95477" align="aligncenter" width="500"]
โครงการระบบไอซีที และพลังงานทดแทนแบบบูรณาการสำหรับชุมชนชายขอบ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี[/caption]
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มตั้งแต่การผลิตพลังงานไฟฟ้า เพราะบริเวณชุมชนบ้านคีรีล้อมอยู่ในพื้นที่ห่างไกลยังไม่มีระบบไฟฟ้า และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมยังเข้าไปไม่ถึง เอไอเอส จึงร่วมกับ เนคเทค ออกแบบ พัฒนา และติดตั้งระบบพลังงานทดแทนแบบบูรณาการ ที่ใช้ระบบการผลิตพลังงานไฟฟ้าแบบผสมผสานระหว่างพลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์ และพลังงานจากน้ำ สำหรับใช้งานภายในศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมมีระบบตรวจวัดข้อมูลสังเกตการณ์ระยะไกล (Remote Monitoring) เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ และเข้ามาแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังร่วมกันตั้งสถานีเก็บประจุไฟฟ้า (Charging Station) เพื่อให้ประชาชนนำตะเกียงมาชาร์จไฟไปใช้งานที่บ้านได้ พร้อมทั้งมีการจัดอบรมเพื่อให้ความรู้แก่ครูและนักเรียนเรื่องการใช้งาน และการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย
นี่คืออีกหนึ่งบทบาทของ เอไอเอส นำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อเพื่อพัฒนาสังคมไทยสู่สังคมดิจิตอล
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,190 วันที่ 8 - 10 กันยายน พ.ศ. 2559
นั้นจึงเป็นที่มาที่ เอไอเอส จับมือหน่วยงานต่างๆ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ให้เกิดการพัฒนาด้านการเรียนรู้ให้แก่เยาวชนและชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ให้เข้าถึงอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนความรู้จากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก นำร่องที่ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคีรีล้อม อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ห่างไกลอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
[caption id="attachment_95476" align="aligncenter" width="500"]
ต่อเรื่องนี้ “นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส เล่าว่า ขณะนี้ เอไอเอส ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , เนคเทค และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จัดทำ “โครงการระบบไอซีที และพลังงานทดแทนแบบบูรณาการสำหรับชุมชนชายขอบ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” ขึ้น โดยนำร่องที่ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคีรีล้อม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นแห่งแรก ซึ่งปัจจุบันทำการสอนตั้งแต่ระดับก่อนประถมจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 105 คน และตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล บริเวณป่าต้นน้ำหน่วยพิทักษ์ป่าคีรีล้อม
โครงการนี้ เอไอเอส ทำหน้าที่นำระบบไอซีทีมาเชื่อมโยงการสื่อสารในยุคดิจิตอล ด้วยการจัดทำห้องเรียนต้นแบบด้านการเรียนรู้สำหรับเยาวชน ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สายและระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ให้เยาวชนและชุมชน สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
[caption id="attachment_95477" align="aligncenter" width="500"]
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มตั้งแต่การผลิตพลังงานไฟฟ้า เพราะบริเวณชุมชนบ้านคีรีล้อมอยู่ในพื้นที่ห่างไกลยังไม่มีระบบไฟฟ้า และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมยังเข้าไปไม่ถึง เอไอเอส จึงร่วมกับ เนคเทค ออกแบบ พัฒนา และติดตั้งระบบพลังงานทดแทนแบบบูรณาการ ที่ใช้ระบบการผลิตพลังงานไฟฟ้าแบบผสมผสานระหว่างพลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์ และพลังงานจากน้ำ สำหรับใช้งานภายในศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมมีระบบตรวจวัดข้อมูลสังเกตการณ์ระยะไกล (Remote Monitoring) เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ และเข้ามาแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังร่วมกันตั้งสถานีเก็บประจุไฟฟ้า (Charging Station) เพื่อให้ประชาชนนำตะเกียงมาชาร์จไฟไปใช้งานที่บ้านได้ พร้อมทั้งมีการจัดอบรมเพื่อให้ความรู้แก่ครูและนักเรียนเรื่องการใช้งาน และการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย
นี่คืออีกหนึ่งบทบาทของ เอไอเอส นำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อเพื่อพัฒนาสังคมไทยสู่สังคมดิจิตอล
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,190 วันที่ 8 - 10 กันยายน พ.ศ. 2559