สปริงนิวส์ผนึกฐานเศรษฐกิจ สร้างอาณาจักรสื่อครบวงจร

08 ก.ย. 2559 | 02:00 น.
สปริงนิวส์ ผนึก ฐานเศรษฐกิจ สร้างอาณาจักรสื่อครบวงจร ตอบโจทย์ทั้งด้านคอนเทนต์ การตลาด "ธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ " กุมทัพ อาวุธพร้อมสรรพ ทีวีดิจิตอล สื่อสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณากลางแจ้ง วิทยุ สื่อออนไลน์ ตุลาคมนี้ออกโปรดักต์ใหม่ ฟรีก๊อบปี้รายสัปดาห์ 2 ภาษา เสิร์ฟคนในเมือง ยอดพิมพ์ 5 แสนฉบับ

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีลงนามสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า "ฐานเศรษฐกิจ" ระหว่างบริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด และบริษัท ฐานเศรษฐกิจ จำกัด โดยสาระสำคัญในสัญญาคือ บริษัท ฐานเศรษฐกิจ จำกัด อนุญาตให้บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท นิวส์เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ NEWS ใช้เครื่องหมายการค้าหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ เป็นระยะเวลา 30 ปี มูลค่า 120 ล้านบาท พร้อมทั้งซื้อทรัพย์สินบางส่วนจํานวน 6 ล้านบาท และเงินลงทุนเริ่มต้นจํานวน 10 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 136 ล้านบาท

นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจของกลุ่มสปริงนิวส์ว่า จะเป็นกลุ่มสื่อครบวงจรที่ประกอบด้วย สถานีข่าว "สปริงนิวส์" ดิจิทัลทีวี ช่อง 19 ,สถานีวิทยุสปริงเรดิโอ F.M.98.5 ,หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ,บริษัท อควา แอด จำกัด ประกอบธุรกิจสื่อป้ายโฆษณากลางแจ้ง, บริษัท มีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) จำกัด( MEI)ที่มีนิตยสารในเครือ 5 ฉบับ ,บริษัท Apricot จำกัด เอเยนซี่รุ่นใหม่ที่เชี่ยวชาญด้านออนไลน์

นอกจากนี้ยังมีบริษัท ดิจิตอล มีเดีย เน็ตเวิร์ค จำกัด ที่จะผลิตนิตยสาร BLT เป็นฟรีก็อปปี้ เผยแพร่ทั่วกรุงเทพมหานคร ยอดพิมพ์ 500,000 ฉบับต่อสัปดาห์ เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ กลุ่มเป้าหมายเป็นคนในเมือง และคนทำงานออฟฟิศ กำหนดเปิดตัวเดือนตุลาคม 2559 นี้ โดย BLT จะมาต่อยอดอนาคตธุรกิจสื่อของกลุ่มสปริงนิวส์ได้ครบวงจร

"การผนึกกับฐานเศรษฐกิจซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ชั้นนำของประเทศ และมีอายุถึง 36 ปี ครั้งนี้จะทำให้กลุ่มสปริงนิวส์ เป็นสื่อที่ครบวงจร เราจะเป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น " ประธานกรรมการบริษัท สปริงนิวส์ กล่าวและว่าการที่ผู้ถือหุ้นฐานเศรษฐกิจ ส่งลูกรัก คือ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ มาให้กลุ่มสปริงนิวส์ดูแลต่อนั้น อาจไม่เคยปรากฏมาก่อนในวงการสื่อ ซึ่งดีลนี้ไม่ได้เป็นการยกลูกให้ แต่เป็นการฝากเลี้ยงเป็นเวลา 30 ปี และจากนี้จะมีการผนึกกำลังทั้งด้านข้อมูลข่าวสาร ด้านการตลาด เพื่อขับเคลื่อนไปด้วยกัน ด้านผู้เสพสื่อ เช่น เจ้าของกิจการ นักธุรกิจ จะมีทางเลือกมากขึ้นในการรับข้อมูลข่าวสาร

พร้อมกล่าวด้วยความมั่นใจว่า การมีสื่อที่ครบวงจรภายใต้สถานการณ์ที่มีการตั้งคำถามว่าอุตสาหกรรมสื่อเก่า (สื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร และวิทยุ) เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ตกดิน หรือเป็นขาลงนั้น ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เนื่องจากการที่กลุ่มสปริงนิวส์มีสื่อครบวงจร ทั้งป้ายบิลบอร์ด สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ จึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ และเชื่อว่าเม็ดเงินโฆษณาสัดส่วน 90 % ของมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท จะยังใช้บริการสื่อเก่าอยู่ต่อไป และกลุ่มสปริงนิวส์ เป็นหนึ่งในนั้นที่จะมีส่วนแบ่งตลาด

ก่อนหน้านี้บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์คฯ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับขึ้นกับบริษัท คือ 1. เพื่อเป็นการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจหนังสือพิมพ์ข่าว คือ ฐานเศรษฐกิจ ที่มีชื่อเสียงในประเทศมาเป็นเวลายาวนาน ทำให้มีธุรกิจที่ครบวงจรมากขึ้น

และ 2. ขยายฐานลูกค้าที่บริโภคข่าวสารผ่านหนังสือพิมพ์ที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้เวลาสร้างฐานลูกค้าใหม่ขณะที่คาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (Internal Rate of Return :IRR ) ที่ 14.89%

สำหรับบริษัท ฐานเศรษฐกิจ จำกัด นั้นยังดำเนินธุรกิจด้านการพิมพ์โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ฐานการพิมพ์ จำกัด ที่ดำเนินการมาครบ 20 ปี ให้บริการงานพิมพ์ต่างๆอย่างครบวงจร พร้อมใช้ความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารในวงการสื่อสารมวลชนถึง 36 ปี สรรค์สร้างการให้บริการธุรกิจด้านอื่นต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,190 วันที่ 8 - 10 กันยายน พ.ศ. 2559