สิงคโปร์กำลังเดี้ยง

08 ก.ย. 2559 | 13:00 น.
เศรษฐกิจประเทศสิงคโปร์ก็เป็นหัวข้อที่น่าสนใจในเวลานี้ เราต้องติดตามข้อมูลข่าวสารเพราะเศรษฐกิจสิงคโปร์กำลังถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตอนต้นปี 2559 ธนาคารกลางสิงคโปร์เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.9% ซึ่งลดต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าหรือเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วว่าจะขยายตัวได้ราว 2.2% ผลสำรวจเฉลี่ยจากนักเศรษฐศาสตร์ 24 คนที่ธนาคารกลางสิงคโปร์เปิดเผยคือ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี จะอยู่ที่ 1.9% ในปี 2559 ลดลงมาจากตัวเลขคาดการณ์เดิม 2.2% ที่เคยเผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ล่าสุดออกมาแถลงว่าเศรษฐกิจปีนี้คงขยายตัวประมาณ 1-1.9% นับว่าต่ำสุดในรอบ 7 ปีเลยทีเดียว และการที่เศรษฐกิจสิงคโปร์ชะลอตัวลงไปมากก็เหตุผลเดียวกันกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก คือ เศรษฐกิจโลกหดตัวลง ปริมาณการค้าโลกที่ปรกติเคยเติบโต 4-5 เท่าของจีดีพีโลก ล่าสุดปริมาณการค้าโลกก็หดตัวลงเหลือประมาณ 1 เท่าครึ่งของจีดีพีเท่านั้น เม็ดเงินหายไปจากตลาดปริมาณมหาศาล และที่สำคัญคือธุรกิจน้ำมันโลกกำลังตกต่ำอย่างที่สุด

การส่งออกสินค้ารวมของประเทศสิงคโปร์ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง เดือนมกราคม2559 ส่งออก -14.4% กุมภาพันธ์ส่งออก -0.6 % เดือนมีนาคมส่งออก -11.6 % และเดือนเมษายนตัวเลขส่งออกรวมของสิงคโปร์ก็ลดลงไปอีก คือ -9.8 % การส่งออกนี้ก็เป็นปัญหาเดียวกันทั่วโลกของกำลังซื้อผู้บริโภคทั่วโลกลดลงไปถนัดตา จะมีก็แต่เพียงไม่กี่ประเทศที่การส่งออกดีวันดีคืนเทียบกับปีก่อนหน้าแม้ทั่วโลกจะเผชิญปัญหาเดียวกัน อาทิ เวียดนาม เป็นต้น

เมื่อการส่งออกลดลงการนำเข้าก็ลดลงเช่นเดียวกัน คือ -12 % เรียกว่าอุตสาหกรรมการผลิตของสิงคโปร์ลดลงไปมาก ก็เหลืออุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจบริการเท่านั้น และดูเหมือนธุรกิจบริการโดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยวคงหวังอะไรมากไม่ได้ เนื่องจากไวรัสซิกากำลังแพร่ระบาดหนักจาก 27 คนเมื่อไม่นานมานี้ ขณะนี้ก็ขยับเป็นติดไวรัสซิกาไปแล้ว 242 คน ทำให้นักท่องเที่ยวหวาดระแวง กลัวจะติดเชื้อจากยุงซึ่งเป็นพาหะนำโรคจากคนสู่คน เห็นว่าตอนนี้ฮ่องกงก็แพลมๆ ข่าวมาแล้วว่าจะงดเที่ยวสิงคโปร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า แม้จะมีปัญหาหนักอกแต่ชาวสิงคโปร์กว่า 5.4 ล้านคนก็ยังสู้ต่อ ความจริงแล้วทุนของสิงคโปร์ได้แพร่ขยายไปมากหลายประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนเมื่อ 20 ปีผ่านมานี้ แม้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจะไม่ดีคือจะถดถอยลงไปมาก แต่ผมก็เชื่อว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของสิงคโปร์คงออกมาไม่เลวเลย ปัญหาใหญ่ของสิงคโปร์ที่มีผลต่อกำไรก็คือ ตัวเลขค่าจ้างแรงงานซึ่งยังสูงขึ้นเป็นระยะ

แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะออกมาไม่ดีก็ตาม ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้รัฐบาลสิงคโปร์หันมาใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่รถแท็กซี่ สิงคโปร์ก็จะเป็นเจ้าแรกในโลกที่ให้บริการแท็กซี่แบบไร้คนขับในปีหรือสองปีข้างหน้านี้แล้ว ประเทศสิงคโปร์ค้าขายไปทั่วโลกก็จริงแต่ลูกค้ารายใหญ่มี 3 ราย คือ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย รองลงไปเป็นจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ไทย มาเลเซีย ฮ่องกง และอียู ซึ่งการส่งออกไปประเทศเหล่านี้ล้วนลดลงทั้งสิ้น ส่งออกสินค้าไม่รวมน้ำมันไปเกาหลีใต้หนักสุด ตัวเลขส่งออกสิงคโปร์เดือนเมษายน 2559 ติดลบ 26.7 % ไต้หวัน -22.5 % อินโดนีเซีย -20.4 % ไปจีน -7.4 % สหรัฐฯ -7 % ญี่ปุ่น -10.1 % เป็นต้น หรือแม้แต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่งออกก็ติดลบกันเป็นแถวเช่นเดียวกันโดยเฉพาะตลาดหลักอย่าง ไต้หวัน เกาหลีใต้และอินโดนีเซีย คือ -19.7 %, -4.1 % และ -17.7 % ตามลำดับเห็นตัวเลขเหล่านี้อย่าเอามาเปรียบกับไทยเลย เพราะเขาอยู่กันคนละ "ฐาน "กับประเทศไทย ประเทศเขาติดอันดับชั้นดีในหลายๆ ด้าน ความก้าวหน้าทางด้านการพัฒนาของเขาก็สูงกว่าไทยเยอะมาก การค้าของเขาก็ไม่ต่างกับประเทศที่เจริญแล้วในยุโรป พอจะเรียกรวมๆ กันว่าประเทศของเขามีความเจริญมากกว่าไทยในหลายระดับ รวมทั้งมาตรฐานการครองชีพของเขาก็ดีกว่าคนไทย การอยู่อาศัย การใช้ชีวิตก็มีระดับที่มาตรฐานสูงกว่าประเทศไทย แม้ว่าคนจนจริงๆ ในสิงคโปร์แทบจะไม่มีที่ยืนก็ตามที .....ก็หวังว่าประเทศสิงคโปร์จะพยุงฐานะและความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจไปได้ตลอดรอดฝั่ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,190 วันที่ 8 - 10 กันยายน พ.ศ. 2559