แนวโน้มราคาทองคำวันพรุ่งนี้( 31 ส.ค.59)
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 30 สิงหาคม 2559
สภาวะตลาดวันที่ 30 สิงหาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,318.67-1,325.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,650 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.02 น.ของวันที่ 30/08/16)
แนวโน้มวันที่ 31 สิงหาคม 2559
บริษัทมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกคำเตือนถึงระบบธนาคารของจีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงต่อระบบจากการที่ธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางพึ่งพาการระดมทุนระหว่างธนาคารมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยธนาคารนอกกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 อันดับแรกได้อาศัยเงินทุนระยะสั้นมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ธนาคารแต่ละแห่งมีความเสี่ยงมากขึ้นจากปัญหาขัดข้องด้านการระดมทุน แม้ประเด็นดังกล่าวจะสร้างแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่การขยับขึ้นของราคาทองคำถูกกดดันอีกครั้งเมื่อที่ปรึกษาด้านนโยบายเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ถ้าเศรษฐกิจของจีนไม่มีความเสี่ยงรุนแรงที่จะขยายตัวต่ำกว่า 6.5% ผู้กำหนดนโยบายก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องลดอัตราดอกเบี้ย หรือสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีกครั้ง โดยพวกเขาได้ระบุถึงหลักฐานที่ว่า บริษัทและธนาคารต่างๆกำลังกักตุนเงินสด แทนการนำไปลงทุนในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ทำให้ความหวังว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่และส่งผลให้โอกาสที่มีเม็ดเงินจะไหลเข้าสู้ตลาดทองคำมีน้อยลง
ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนติดตามการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนสิงหาคมของจีนในวันพฤหัสบดีเพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ความแข็งแกร่งของทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐเผยจีนยังคงมีอิทธิพลมากที่สุดในเศรษฐกิจโลก ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐเปิดเผยว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่มีบทบาทมากที่สุดในเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรออกมา โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอการย่อตัวของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,314-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Down อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน และแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,314 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,314 (21,480บาท) 1,306 (21,350บาท) 1,293 (21,130บาท)
แนวต้าน 1,327 (21,690บาท) 1,335 (21,820บาท) 1,344 (21,970บาท)
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กราฟราคาทองคำ
สภาวะตลาดวันที่ 30 สิงหาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,318.67-1,325.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,650 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.02 น.ของวันที่ 30/08/16)
แนวโน้มวันที่ 31 สิงหาคม 2559
บริษัทมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกคำเตือนถึงระบบธนาคารของจีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงต่อระบบจากการที่ธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางพึ่งพาการระดมทุนระหว่างธนาคารมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยธนาคารนอกกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 อันดับแรกได้อาศัยเงินทุนระยะสั้นมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ธนาคารแต่ละแห่งมีความเสี่ยงมากขึ้นจากปัญหาขัดข้องด้านการระดมทุน แม้ประเด็นดังกล่าวจะสร้างแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่การขยับขึ้นของราคาทองคำถูกกดดันอีกครั้งเมื่อที่ปรึกษาด้านนโยบายเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ถ้าเศรษฐกิจของจีนไม่มีความเสี่ยงรุนแรงที่จะขยายตัวต่ำกว่า 6.5% ผู้กำหนดนโยบายก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องลดอัตราดอกเบี้ย หรือสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีกครั้ง โดยพวกเขาได้ระบุถึงหลักฐานที่ว่า บริษัทและธนาคารต่างๆกำลังกักตุนเงินสด แทนการนำไปลงทุนในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ทำให้ความหวังว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่และส่งผลให้โอกาสที่มีเม็ดเงินจะไหลเข้าสู้ตลาดทองคำมีน้อยลง
ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนติดตามการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนสิงหาคมของจีนในวันพฤหัสบดีเพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ความแข็งแกร่งของทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐเผยจีนยังคงมีอิทธิพลมากที่สุดในเศรษฐกิจโลก ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐเปิดเผยว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่มีบทบาทมากที่สุดในเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรออกมา โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอการย่อตัวของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,314-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Down อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน และแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,314 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,314 (21,480บาท) 1,306 (21,350บาท) 1,293 (21,130บาท)
แนวต้าน 1,327 (21,690บาท) 1,335 (21,820บาท) 1,344 (21,970บาท)
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กราฟราคาทองคำ
