“อาคม” ดัน 4 เส้นทางรถไฟใช้ระบบไฟฟ้าแทนดีเซลเชื่อมโยง 3 หัวเมืองหลักรอบกทม.และเปิดเส้นทางโลจิสติกส์เชื่อมโยงมาเลเซีย ส่วนรถไฟไทย-จีน ยังมีลุ้นเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้ หลังฝ่ายจีนขอระยะเวลาถอดแบบรายละเอียดอีก 10 วัน ก่อนจัดเร่งจัดทำเอกสารประกวดราคาให้พร้อมประมูลต่อไป ส่วนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ดีเดย์หารือนายกรัฐมนตรี 31 สค.นี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนารถไฟฟ้าภายใต้การบริหารจัดการของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ว่า มีอยู่ 4 เส้นทางจะเร่งผลักดันโดยจะเร่งเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาในปี 2560 ประกอบด้วย 1.เส้นทางกรุงเทพฯ-นครปฐม, กรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา, กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา และเส้นทางช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ที่จะเชื่อมต่อกับมาเลเซีย ที่ล่าสุดนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการร.ฟ.ท.หารือร่วมกับผู้ว่าการรถไฟของมาเลเซียเรียบร้อยแล้วและจะเร่งหารือระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในเร็วๆนี้ต่อไป
ในส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีนนั้น นายอาคมกล่าวว่า จากผลการเจรจาร่วมครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 23-24 สิงหาคมที่ผ่านมา แบบที่ฝ่ายจีนส่งมาให้ฝ่ายไทยนั้นจะต้องมีการปรับแก้แบบก่อสร้างเพื่อสามารถถอดราคาออกมาให้เห็นชัดเจน ซึ่งฝ่ายจีนขอเวลาดำเนินการประมาณ 10 วัน
สำหรับการร่างสัญญานั้นโดยทั้ง 3 สัญญาจะมีความสัมพันธ์กันทั้งหมด ดังนั้นหากสามารถถอดแบบประมาณราคาแล้วเสร็จก็จะนำไปสู่การร่างเอกสารประกวดราคาเพื่อเร่งเปิดประมูลก่อสร้างต่อไป โดยส่วนที่จะเริ่มต้นระยะทาง 3.5 กิโลเมตรแรก ส่วนเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมก็จะดำเนินการในส่วนระยะทาง 11 กิโลเมตรต่อเนื่องกันไปทันที ส่วนระยะเวลาจะขยับเลื่อนออกไปอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับการร่างสัญญาร่วมกันแล้วจึงจะกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากจะต้องมีกระบวนการหาตัวผู้รับจ้างอีกทั้งร่างสัญญาจะต้องมีความรอบคอบด้วยเนื่องจากจะต้องใช้สัญญามาตรฐานสากล
“ได้ยืนยันกับฝ่ายจีนมาโดยตลอดว่าโครงการนี้ฝ่ายไทยลงทุนเอง จึงควรจะมีสิทธิ์ที่จะกำหนดรายละเอียดต่างๆเองได้ ในส่วนมูลค่าโครงการที่ชัดเจนนั้นคงต้องรอการสรุปตัวเลขของร.ฟ.ท.อีกครั้งเพื่อเร่งเสนอครม.ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำเสนอได้ภายในเดือนกันยายนนี้ทั้งนี้จะต้องขอดูความชัดเจนในเรื่องการถอดแบบก่อสร้างอีกครั้งที่จะต้องถอดแบบออกมาให้ได้ราคาที่เป็นมาตรฐานการก่อสร้างของไทย เพื่อให้ใช้มาตรฐานวัสดุก่อสร้างต่างๆที่สามารถจัดหาในประเทศไทยให้ได้มากที่สุด”
ทั้งนี้ในส่วนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ตามสถานีและแนวเส้นทางรถไฟนั้นจะได้มีการเข้าหารือร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ของร.ฟ.ท.ด้วยนอกเหนือจากทั้ง 4 เส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่โครงการไฮสปีดทั้ง 4 เส้นทางอยู่ระหว่างการเร่งนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) ที่ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างการปรับข้อมูลเพิ่มบางส่วนหลังจากนั้นจึงจะเร่งนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาต่อไป