อินโดฯจ้องตลาดเมียนมา ทัพพ่อค้าเมืองอิเหนาแห่หาหุ้นส่วนหม่องเปิดธุรกิจ

25 ส.ค. 2559 | 10:00 น.
ภาคเอกชนจากอินโดนีเซียสนใจขยายธุรกิจในประเทศเมียนมา ส่งคณะตัวแทนชุดใหญ่ร่วมจับคู่ธุรกิจเมียนมา ลุยทุกตลาดตั้งแต่เกษตรกรรม น้ำมันและก๊าซ สื่อสารโทรคมนาคม ยันการท่องเที่ยวและการศึกษา

[caption id="attachment_89440" align="aligncenter" width="336"] ฮาลิม อลัม (Halim Alamsyah) ฮาลิม อลัม (Halim Alamsyah)[/caption]

นายฮาลิม อลัม (Halim Alamsyah) หัวหน้าคณะผู้แทนทางการค้าจากอินโดนีเซียและประธานบรรษัทประกันเงินฝากอินโดนีเซียให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์เมียนมาอีเลฟเว่น ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้คณะนักธุรกิจจากอินโดนีเซียกว่า 22 คนได้เดินทางมาเพื่อจับคู่ทำธุรกิจกับนักธุรกิจชาวเมียนมา โดยนักธุรกิจอินโดสนใจธุรกิจ อุตสาหกรรมเกษตร น้ำมันและก๊าซ สื่อสารโทรคมนาคม ท่องเที่ยวและการศึกษา

รายงานข่าวระบุว่านักธุรกิจอินโดนีเซียที่เดินทางมาในคณะของนายฮาลิม ทำธุรกิจทางด้าน น้ำมันปิโตรเลียม น้ำมันปาล์ม โลจิสติกส์ คลังสินค้า ชีวมวล ประกัน ธนาคาร พัฒนาที่ดิน ก่อสร้าง กระดาษ สินค้าทางการแพทย์ จัดจำหน่ายสินค้าอาหารสัตว์และชิ้นส่วนอุตสาหกรรม

สถานทูต อินโดนีเซียในเมียนมาระบุว่า ขณะนี้มีนักธุรกิจอินโดนีเซีย 500 คนทำธุรกิจในเมียนมา ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจสนับสนุนระบบโลจิสติกส์ โทรคมนาคม ธุรกิจเกษตรและเลี้ยงไก่ ขณะที่ตัวเลขจากคณะกรรมการการลงทุนของเมียนมาระบุว่าขณะนี้มีการลงทุนจากอินโดนีเซียมี 13 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 254.69 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9,168 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.4 % ของวงเงินลงทุนต่างชาติที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการฯ โดยอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 13 ในกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศ

ทางด้านตัวเลขการค้าขายระหว่าง 2 ประเทศ ปรากฏว่าขยายตัวเร็วมาก โดยมีรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ของเมียนมาว่าในปีงบประมาณ 2558-2559 มีการลงทุนจากอินโดนีเซียมูลค่า 741.79 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 26,704 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) จากปีงบประมาณ 2557-2558 และเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,200 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2556-2557
นายอลัม คาดว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างเมียนมาและอินโดนีเซียจะเพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีข้างหน้า ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจเมียนมา

Mr. Harryansah Khairul ที่ปรึกษาสถานทูตอินโดนีเซียประจำเมียนมา กล่าวว่ามีนักธุรกิจอินโดนีเซียอีกมากที่วางแผนจะเดินทางมาดูลู่ทางธุรกิจในเมียนมา “เราเห็นพัฒนาการที่ดีในเมียนมาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีและมีลู่ทางการในการขยายความร่วมมือกันระหว่าง 2 ฝ่ายได้อีกมาก”

นายก่อ เดวา (Kyaw Dewa) กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูเคดีเวิลด์คลาสอินเตอร์เนชั่นแนลฯ และสมาชิกกลุ่มประธานบริหารของ สหภาพสหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมเมียนมา เชื่อว่าการปฏิรูประบบเศรษฐกิจในเมียนมาจะดึงให้นักลงทุนจากอินโดนีเซียไปลงทุนในเมียนมาเพิ่มขึ้น

นายก่อ กล่าวว่า “เราอยากจะให้นักธุรกิจอินโดนีเซีย รู้ถึงบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกในเมียนมา โอกาสทางธุรกิจ มาตรการลดหย่อนภาษี ซึ่งขณะนี้มีนักธุรกิจต่างชาติจำนวนมากที่สนใจลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษทีลาวา ซึ่งมีบริการรัฐแบบวันสต็อปเซอร์วิส และคิดว่าถ้านักลงทุนรู้เรื่องพวกนี้จะทำให้อยากที่จะมาลงทุนในเมียนมา”

นายก่อ กล่าวว่า ภาคธุรกิจในเมียนมาเพื่อการลงทุนที่มาแรงมากในขณะนี้คือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งท่าเรือ รถไฟ ถนนหนทาง สนามบิน ระบบโทรคมนาคม รวมทั้งการผลิตไฟฟ้าและเหมืองแร่ ธุรกิจเกษตร สิ่งทอและแฟชั่น รักษาสุขภาพ น้ำสะอาดและพัฒนาที่ดิน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,186 วันที่ 25 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559