อาลีเพย์ บริษัทผู้ให้บริการโมบายเพย์เมนต์ในเครืออี-คอมเมิร์ซอาลีบาบา ประกาศจับมือกับ อินจีนิโก ผู้ให้บริการเพย์เมนต์สัญชาติฝรั่งเศส เพื่อขยายธุรกิจสู่ยุโรปรองรับการซื้อสินค้าตามร้านค้าปลีกต่างๆ ของนักท่องเที่ยวชาวจีน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เพื่อเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปยังยุโรป อาลีเพย์ ผู้ให้บริการออนไลน์และโมบายเพย์เมนต์รายใหญ่ของจีนจากบริษัท แอนต์ ไฟแนนเชียลฯ ในเครืออาลีบาบา ต้องการให้ร้านค้าต่างๆ ในยุโรปรองรับระบบการชำระเงินของตนเอง โดยการจับมือกับอินจีนิโก ผู้ให้บริการดำเนินการธุรกรรมการเงินจากฝรั่งเศสที่มีร้านค้าหลายพันรายในยุโรปเป็นลูกค้า จะช่วยให้การร่วมมือกับร้านค้าต่างๆ เป็นไปได้รวดเร็วขึ้น และช่วยอำนวยความสะดวกในด้านเทคนิค
"เป้าหมายสำคัญของชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ คือการจับจ่ายซื้อสินค้า มันเป็นตลาดใหญ่มากสำหรับเราเมื่อพิจารณาว่านักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของอาลีเพย์อยู่แล้ว ข้อตกลงในครั้งนี้จะช่วยให้เราข้าถึงร้านค้าทั่วยุโรปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในทันที" ดักลาส ฟีกิน รองประธานอาวุโสของแอนต์ ไฟแนนเชียล และผู้ดูแลธุรกิจต่างประเทศของอาลีเพย์ กล่าว และเสริมว่าอาลีเพย์ต้องการจับมือกับหุ้นส่วนต่างๆ ตั้งแต่ร้านค้าปลอดภาษี ไปจนถึงร้านค้าสินค้าหรูและห้ามสรรพสินค้า
อาลีเพย์ตั้งเป้าที่จะจับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เมื่อปีก่อนเดินทางออกนอกประเทศ 120 ล้านคน และใช้จ่ายโดยเฉพาะ 875 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อการเดินทางหนึ่งครั้ง ขณะเดียวกันก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นธุรกิจของร้านค้าปลีกได้ จากผู้ใช้งานอาลีเพย์ประมาณ 450 ล้านคนในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับบริการโมบายเพย์เมนต์ของแอปเปิล กูเกิล และซัมซุง ที่มีผู้ใช้งานรวมกันเพียงไม่กี่สิบล้านคน
ทั้งนี้ ปัจจุบันอาลีเพย์มีข้อตกลงให้ผู้บริโภคชาวจีนใช้อาลีเพย์วอลเล็ตในการชำระเงินกับการใช้งานรถรับจ้างของอูเบอร์ จองที่พักผ่านแอร์บีเอ็นบี ตลอดจนซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้าเมซีส์ในสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี อาลีเพย์ยังไม่มีแผนที่จะเปิดให้บริการกับผู้บริโภคนอกประเทศจีน
"เรากำลังสร้างธุรกิจในต่างประเทศทีละก้าวทีละก้าว ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากสำหรับฐานลูกค้าหลักของเรา และมันยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง" ฟีกินกล่าว โดยปัจจุบันอาลีเพย์ครองส่วนแบ่งตลาดโมบายเพย์เมนต์ในจีนประมาณ 80%
ด้านอินจีนิโกนอกจากจะเป็นผู้ให้บริการด้านธุรกรรมการชำระเงินในร้านค้าหลายพันแห่งใน 150 ประเทศแล้ว ยังทำหน้าที่ดำเนินธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ข้ามประเทศให้กับอาลีเพย์และบริษัทแม่อย่างอาลีบาบาด้วย ซึ่งผู้บริหารของอินจีนิโกกล่าวว่า การเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินให้กับร้านค้าปลีกที่เป็นลูกค้าของตนจะเป็นผลดีกับทั้งร้านค้าเอง และบริษัทที่มีรายได้จากค่าบริการเพิ่มขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,185 วันที่ 21 - 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559