แอปเปิลกระชับสัมพันธ์จีน เผยแผนลงทุนจัดตั้งศูนย์อาร์แอนด์ดีแห่งแรกในปีนี้

22 ส.ค. 2559 | 01:00 น.
นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอปเปิล เดินหน้ากระชับสัมพันธ์กับทางการจีน หลังแนวโน้มยอดขายในตลาดดังกล่าวชะลอตัวลง เผยมีแผนลงทุนในจีนเพิ่มเติมด้วยการเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาของแอปเปิลแห่งแรกในประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล เปิดเผยถึงแผนการลงทุนเพื่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในประเทศจีน ภายหลังการเข้าพบกับนายจาง กั๊วหลี รองนายกรัฐมนตรีของจีนในสัปดาห์นี้ โดยโฆษกของแอปเปิลกล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์วิจัยดังกล่าวมีกำหนดเปิดในปีนี้ และจะเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ตลอดจนกระชับความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนและมหาวิทยาลัยภายในท้องถิ่น

"เราตั้งตาคอยการขยายการดำเนินงานของเราในจีนด้วยศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ ในขณะที่เราจะเดินหน้าขยายขนาดของทีมงานที่มีความสามารถที่จีน" โฆษกของแอปเปิลกล่าว อย่างไรก็ดี แอปเปิลปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ อาทิ สถานที่ตั้ง มูลค่าการลงทุน และจำนวนพนักงานประจำศูนย์วิจัยแห่งใหม่นี้

ทั้งนี้ ปัจจุบันแอปเปิลจ้างพนักงานในจีนประมาณ 9,000 ตำแหน่ง โดยประมาณครึ่งหนึ่งทำงานอยู่ในร้านค้าปลีกทั้ง 42 สาขาในจีน ขณะที่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แอปเปิลเพิ่มจำนวนสำนักงานในประเทศจีนขึ้น 2 เท่าตัวเป็น 45 แห่งในปัจจุบัน

แอปเปิลกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการทำธุรกิจในจีนเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่การถูกระงับบริการร้านหนังสือและภาพยนตร์ออนไลน์ ตลอดจนกฎหมายด้านความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น และยอดขายไอโฟนที่ชะลอตัวลงจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตในท้องถิ่น

แอปเปิลรายงานยอดขายไอโฟนทั่วโลกลดลง 15% ในไตรมาสที่สิ้นสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เหลือ 40.4 ล้านเครื่อง นับเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันที่ยอดขายไอโฟนปรับตัวลดลง ขณะที่ยอดขายโดยรวมของแอปเปิลในภูมิภาคเกรตเตอร์ไชน่า (จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และฮ่องกง) ลดลง 33% ในไตรมาสที่ผ่านมา เหลือ 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเกรตเตอร์ไชน่าตกลงมาเป็นภูมิภาคที่ทำรายได้ให้กับแอปเปิลสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจากอเมริกาและยุโรป จากเดิมที่เคยครองอันดับ 2

อย่างไรก็ตาม แม้รายได้จะลดลง แต่แอปเปิลเดินหน้าเพิ่มการลงทุนกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และการขยายธุรกิจในต่างประเทศ เมื่อเดือนก่อนแอปเปิลเปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ผ่านมาได้ใช้จ่ายในส่วนของการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้น 26% เป็น 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นสัดส่วน 6% ของรายได้ทั้งหมด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนาต่อปีของบริษัทใกล้จะถึงระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะเดียวกันจีนเองก็กลายมาเป็นแหล่งการลงทุนสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ข้อมูลจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ระบุว่า การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคการผลิตในจีนเพิ่มขึ้นจาก 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2551 เป็น 2.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2556 ขณะที่ในสหรัฐฯ การลงทุนในด้านดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 2.04 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2551 เป็น 2.21 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2556

เมื่อเดือนพฤษภาคม แอปเปิลประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในบริษัท ดีดี ชูสิงฯ ผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่สัญชาติจีน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการลงทุนที่ต่างออกไปจากปกติที่แอปเปิลมักจะเลือกลงทุนกับข้อตกลงขนาดเล็กกว่านี้

อย่างไรก็ดี แม้ที่ผ่านมาแอปเปิลจะเผชิญกับอุปสรรคในการทำธุรกิจในจีนเพิ่มมากขึ้น แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า แอปเปิลยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทต่างชาติที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในจีน "พวกเขาเกือบจะเป็นผู้เล่นต่างชาติเพียงรายเดียวที่เข้ามาดำเนินการในบรรยากาศที่อ่อนไหวได้สำเร็จ" เช่น การเปิดแอพสโตร์ และให้บริการโมบายเพย์เมนต์ของตนเอง เป็นต้น คริส ดีแอนเจลิส กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี เอดีจี ให้ความเห็น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,185 วันที่ 21 - 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559