THE RIVIERA JOMTIEN แลนด์มาร์กแห่งจอมเทียนพัทยา จุดเริ่มต้นสู่ชีวิตที่มีระดับ

30 ก.ค. 2559 | 12:00 น.
ท่านผู้อ่านคงจะเคยได้ยินคำว่า“New Normal” หรือบริบทใหม่ กันมาบ้างแล้ว เป็นคำที่ใช้อย่างแพร่หลายในบทวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ถือว่า New Normal หรือบริบทใหม่ เป็นเสมือนสัญญาณเตือนถึงคนที่ทำมาค้าขายและลงทุน จะต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ช่วงนี้สัญญาณดังกล่าวดังถี่ขึ้น ดังกระชั้นขึ้น และส่งไปถึงการค้าและการลงทุนทุกระดับ โดยไม่มีข้อยกเว้น

[caption id="attachment_76486" align="aligncenter" width="500"] THE RIVIERA JOMTIEN THE RIVIERA JOMTIEN[/caption]

ความเห็นของนักวิเคราะห์เศรษฐกิจหลายสำนัก ต่างเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า New Normal หรือบริบทใหม่ เป็นความจริงที่เกิดขึ้นทั่วโลก การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัวต่ำกว่าศักยภาพ ปัจจัยที่สนับสนุนการเจริญเติบโตได้เปลี่ยนไปแล้ว ปัจจัยบวกหายไป และยังไม่กลับมา จะกลับมาเมื่อไหร่นั้น ! ไม่มีใครกล้าตอบ แต่รู้กันว่า ความผันผวนนานัปการได้เกิดขึ้น ขยายตัวเป็นวงกว้าง ซึมลึกไปทั่วทุกทวีป สำหรับประเทศไทย นักวิเคราะห์เห็นว่า เวลานี้ ได้สูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และเสียตลาดไปแล้ว ดังนั้นทุกภาคส่วนของประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน จะต้องพร้อมที่จะเผชิญหน้าและเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่โถมเข้ามา ยากที่จะหลีกเลี่ยง

อย่างไรก็ตาม คำพูดที่ว่า“ในวิกฤติย่อมมีโอกาส”นั้น ยังคงเป็นเรื่องราวที่สัมผัสได้จริง แล้วแต่ใครจะมองเห็น ในวิสัยทัศน์มุมมองของ นายวินส์ตัน เกล นักธุรกิจด้านพร็อพเพอร์ตีจากประเทศอังกฤษ ในฐานะเจ้าของและผู้บริหาร เครือ ริเวียร่า กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้ให้สัมภาษณ์กับ“Living Space”ว่า แม้ประเทศไทยจะมีความเปราะบางในหลายๆด้านก็จริง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แต่ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติอย่างเช่นตัวเขาเองนั้น นายวินส์ตันเห็นว่า ประเทศไทยยังมีความเป็นไปได้สำหรับการลงทุน โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ประเทศไทยยังเป็นตัวเลือกในลำดับต้นๆ ที่สามารถให้ความคุ้มค่าเป็นที่น่าพอใจแก่นักลงทุน และมีโปรดักต์ในตลาดให้เลือกซื้อมากกว่า

[caption id="attachment_76485" align="aligncenter" width="500"] THE RIVIERA JOMTIEN THE RIVIERA JOMTIEN[/caption]

นายวินส์ตัน กล่าวว่า “ ก่อนที่ผมจะลงทุน ผมทำการศึกษาเมืองท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ติดตลาดโลก เช่น สมุย ภูเก็ต อย่างลงลึกในรายละเอียด ผมเห็นว่าที่สมุย มีความเสี่ยงสำหรับผมในเรื่องที่ดิน มีปัญหามาก และจากข้อมูลที่ผมได้ศึกษา ผมเห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสมุย ระดับLuxury มีความเสี่ยงเช่นกัน ส่วนการศึกษาที่ภูเก็ต ผมเห็นว่า ตลาดคอนโดมิเนียมมีเยอะแล้ว ทำเลที่ผมมีโอกาสไปดูมา ก็ยังไม่ใช่ จึงทำการศึกษาความเป็นไปได้ที่พัทยา ผมได้มองเห็นปัจจัยหลายๆ อย่างที่ส่งเสริมตลาดคอนโดมิเนียมได้ชัดเจน มีทำเลที่น่าสนใจ สามารถทำคอนโดมิเนียมระดับLuxury ในกลุ่มตลาด Middle High-End ขึ้นไปจนถึงระดับ High-End ได้เหมาะสมกว่า ผมจึงเลือกพัทยา ”
ในฐานะชาวต่างชาติ นายวินส์ตัน เกล นักธุรกิจจากอังกฤษ ได้เริ่มต้นการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยร่วมมือกับนายรอนนีย์ เพื่อนนักธุรกิจ เจ้าของโนว่า กรุ๊ป ขึ้นโครงการ “The Palm” คอนโดมิเนียมระดับ Luxury แบบ High Rise ขนาด 46 ชั้น จำนวน 542 ยูนิต ในทำเลซอยนาเกลือ 16 ราคาถึงปัจจุบัน 160,000บาท/ตร.ม. ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งการก่อสร้างเสร็จแล้ว และจะเริ่มโอนห้องชุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2559เป็นต้นไป ต่อมาในบริเวณซอยนาเกลือ 16 เช่นกัน นายวินส์ตันได้ขยายการลงทุน โดยร่วมมือกับครอบครัวเกษมศรี ณ อยุธยา เปิดตัวโครงการ“The Riviera Wongamat Beach” คอนโดมิเนียมระดับ Luxury แบบ High Rise รวม 2 อาคาร ขนาด 40และ 43 ชั้น จำนวน 979 ยูนิต ได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อคนไทยดีมาก สามารถทำยอดขายไปแล้วกว่า 80% การก่อสร้างคืบหน้าไปโดยลำดับ ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ แม้จะเป็นก้าวที่สองของนายวินส์ตันก็ตาม แต่ก็นับเป็นโครงการแรกที่อยู่ภายใต้ร่มธุรกิจของริเวียร่า กรุ๊ป

และเมื่อเร็วๆนี้ เครือ ริเวียร่า กรุ๊ป โดยนายวินส์ตัน เกล พร้อมทีมงาน ได้จัดงานปาร์ตี้ เปิดตัวโครงการ “The Riviera Jomtien” อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางบรรยากาศสุดอลังการ คับคั่งไปด้วยแขกรับเชิญเกือบ 2 พันคน มีคุณเมทินี กิ่งโพยม(ลูกเกด) เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ภายในงานปาร์ตี้ มีการมอบรางวัลรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น SLK 200 ให้กับลูกค้าผู้โชคดี โครงการดังกล่าวนี้ นับเป็นแห่งที่ 2 ของเครือ ริเวียร่า กรุ๊ป เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury แบบ High Rise ขนาด 46 ชั้น เห็นวิวทะเลและเมืองพัทยาแบบ360องศา จำนวน 1,072 ยูนิต ซึ่งช่วงพรีเซล ก่อนที่จะจัดงานปาร์ตี้เปิดตัวโครงการ สามารถทำยอดจองไปแล้ว 65%

นายวินส์ตันกล่าวว่า “ เดอะ ริเวียร่า จอมเทียน จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของโซนจอมเทียน ด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ ทันสมัย กับคอนเซ็ปต์ Born to be glamorous จุดเริ่มต้นสู่มนต์เสน่ห์ แห่งชีวิตหรูมีระดับ ขณะนี้ โครงการผ่านการพิจารณาสิ่งแวดล้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะเริ่มก่อสร้างตั้งแต่มีนาคม2559เป็นต้นไป คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี2561 ผมรู้สึกปลื้มใจมากที่โครงการเป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างท่วมท้น สามารถตอบโจทย์ ทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และการซื้อเพื่อการลงทุน ตลาดคนไทยไปได้ดี ยังเข้มแข็ง ผู้คนนิยมซื้อไว้เป็นทรัพย์สิน โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ต้องการเป็นปลาใหญ่ในมหาสมุทรนะ แต่ผมต้องการเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้นาน ผมจะทำโครงการให้เสร็จสมบูรณ์ตามสัญญาที่มีกับลูกค้า ”

ท่านใดที่สนใจโครงการ “The Riviera Jomtien” ของเครือ ริเวียร่า กรุ๊ป ขอเชิญแวะไปชมที่เซล แกลลอรี่ ถนนจอมเทียน สาย 2 หรือติดต่อสอบถามได้ที่ (038)231-455 หรือเข้าไปที่ www.Therivierajomtien.com

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,179
วันที่ 31 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559