ปิ๊ก- ชลัทชัย & ปุ๊ก - ชไมพร ปภัสร์พงษ์

30 ก.ค. 2559 | 13:00 น.
สตาร์ตอัพ วันนี้เป็นแพ็กคู่พี่น้องที่คลุกคลีอยู่ในวงการสื่อสารมวลชน รวมถึงวงการเอ็กซิบิชันในไทย แม้ไม่ใช่ธุรกิจแปลกใหม่ แต่ก็มีการนำแนวคิดคนรุ่นใหม่ๆมาต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ โดยผู้ที่ร่วมถ่ายทอดแนวคิดในวันนี้คือ” ปิ๊ก- ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ และ ปุ๊ก-ชไมพร ปภัสร์พงษ์” แห่ง บริษัท สื่อสากล จำกัด

ผู้ผลิตนิตยสาร ฟอร์มูล่า, 4WHEELS, รายการโทรทัศน์ โลกรถยนต์ และผู้จัดงานโชว์รถยนต์อย่าง มหกรรมยานยนต์ หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป

จากจุดเริ่มต้นในยุคคุณพ่อ “ขวัญชัย ปภัสรพงษ์” มาสู่ยุคคุณลูกที่มาช่วยรับไม้ต่อ ปัจจุบันคุณปิ๊ก-พี่ชาย รับหน้าที่รองกรรมการผู้จัดการ /ผู้อำนวยการ กองพัฒนาธุรกิจและการตลาด /ผู้อำนวยการกองสารสนเทศ /รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารทั่วไป งานมหกรรมยานยนต์ และงาน AAITF BANGKOK (Automotive Aftermarket Industry and Tuning Trade Fair Bangkok)/กรรมการผู้จัดงาน FAST Auto Show Thailand และกรรมการมูลนิธิ ลมหายใจไร้มลทิน

ส่วนน้องสาวคุณปุ๊ก รับหน้าที่เป็นกรรมการบริหาร / รองผู้อำนวยการ กองพัฒนาธุรกิจและการตลาด / ผู้ควบคุมงานด้านการตลาดสัมพันธ์ งานมหกรรมยานยนต์ /ผู้อำนวยการโครงการ “ขับเป็น...ขับปลอดภัย กับสื่อสากล” และผู้อำนวยการ มูลนิธิลมหายใจไร้มลทิน

ด้วยตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ มิใช่เรื่องง่ายเลยกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้คุณปิ๊ก เล่าให้ฟังว่า เริ่มเข้ามาทำงานที่บริษัทในยุคฟองสบู่ ภาวะในช่วงนั้นมีการเลย์ออฟ รัดเข็มขัดกันอย่างหนัก ตนเองซึ่งศึกษาเล่าเรียนมาทางด้านไอที มีการใช้เว็บไซต์ และใช้อินเตอร์เน็ต ดังนั้นเมื่อเรียนจบก็หวังจะนำมาปรับใช้ในองค์กร

ฟังดูอาจเป็นเรื่องง่ายในยุคสมัยนี้ ...แต่หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ก็ต้องบอกว่าไม่ง่ายเพราะเป็นของใหม่ในประเทศ หลายคนไม่ยอมรับ ก็พยายามเสนอไอเดียใหม่ๆเกี่ยวกับเว็บไซต์ เข้าไป ทั้งวางระบบไอที การรีเสิร์ช นำระบบISO เข้ามาปรับใช้กับองค์กร ลงทุนกับอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ในการทดสอบรถยนต์ การจัดเก็บข้อมูลรถทุกคัน เป็นต้น เพื่อจะเป็นองค์ความรู้แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจ แต่ก็โชคดีที่คุณพ่อเข้าใจและไฟเขียวในสิ่งที่ทำ ซึ่งกว่าคนในองค์กรจะเข้าใจและยอมรับต้องใช้เวลากว่า 7 ปี

คุณปุ๊กเล่าเสริมว่า ก่อนหน้าที่จะมารับหน้าที่ดูแลงานในบริษัทฯได้ออกไปท่องยุทธ์ฝึกปรือจากบริษัทเอกชน อย่างบีเอ็มดับเบิลยู, ลีโอ เบอร์เนทท์, เอวิว กรุ๊ป เวิลด์ไวลด์ เมื่อเข้ามาบริหารงานก็มารับหน้าที่ดูแลโปรเจ็กต์ต่างๆ เธอบอกว่าคุณพ่อวางรากฐาน วางระบบที่อยู่เบื้องหลังได้ดี ทำงานได้ง่าย ซึ่งการทำงานแต่ละครั้งก็มีการลองผิดลองถูก มีการปรับตัว ซึ่งทุกอย่างล้วนมาจากประสบการณ์ที่ได้เจอทั้งนั้น

เรียกได้ว่าไม่ง่าย ไม่ยากเกินไป สำหรับภารกิจของ 2 พี่น้อง จวบจนปัจจุบันในยุคที่สื่อเปลี่ยนแปลงไป ผู้บริหาร 2 พี่น้องได้ตระหนักและเตรียมแผนงานรองรับทันควัน คุณปิ๊กบอกว่า ยุคของดิจิตอลกำลังเข้ามา และบทบาทของสื่อจะทำอย่างไรถึงจะสามารถเชื่อม หรือต่อยอดคอนเทนต์ที่มีอยู่ให้ได้เงินกลับมาในกระเป๋า ซึ่งแผนงานในตอนนี้ได้เตรียมปรับปรุงเว็บไซต์ www.autoinfo.co.th

“เว็บไซต์คือคลังข้อมูล ส่วนเฟซบุ๊ก หรือโซเชียล มีเดียต่างๆก็เป็นอีกหนึ่งช่องทาง เป็นแหล่งโฆษณา ตรงนี้เราก็ต้องมีการปรับวิธีการ เพราะเรามองว่าคอนเทนต์ไม่มีวันตาย แต่ต้องมีการปรับตัว ล่าสุดเราก็มีไอเดียและนำเสนอออกมาเป็นรายการพี่น้องลองรถ ที่จะนำบททดสอบยานยนต์รุ่นต่างๆตามมุมมองของพี่และน้องที่อยู่ในวงการยานยนต์กันมาอย่างยาวนาน มานำเสนอในรูปแบบของตนเอง โดยสื่อสารผ่าน ยูทูป และเว็บไซต์ autoinfo online, เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์”

ส่วนคุณปุ๊ก บอกว่าทุกวันนี้เทรนด์ของดิจิตอล มาเร็ว เกิดเร็ว วันนี้อาจจะใช่ แต่พรุ่งนี้ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งสำคัญคอนเทนต์ที่ดีก็จะยังคงอยู่

นับเป็นการปรับตัวเพื่อรับมือกับยุคดิจิตอลอย่างทันท่วงทีสำหรับธุรกิจสื่อ ขณะที่อีกหน่วยธุรกิจที่เป็นเครื่องหมายทางการค้าของบริษัท อย่างการจัดอีเวนต์ หรือเอ็กซิบิชันใหญ่ อย่างงานมหกรรมยานยนต์ หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป ที่จัดเป็นครั้งที่ 33 แล้วนั้น คุณปิ๊กบอกว่า ก็เป็นอีกหน่วยงานที่ได้นำเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างการจัดงาน การนำระบบวัดเสียงเข้ามาใช้ ระบบการจองพื้นที่แบบเรียลไทม์ โดยนำเอาระบบไอทีมาซัพพอร์ต หากมีการจองซ้ำกันก็จะมีการจับสลากเพื่อความโปร่งใส และทำแอพพลิเคชัน สำหรับคนชมงานมอเตอร์เอ็กซ์โป สามารถดูข้อมูลรถไฮไลต์ กิจกรรมเด่น รวมไปถึงการคำนวณงบประมาณที่จะซื้อรถของแต่ละคน

ทั้งในอนาคตจะมีการนำโปรเจ็กต์เทรด อิน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ปิ๊งขึ้นมา เนื่องจากใกล้เวลาครบรอบ 5 ปีของนโยบายรถคันแรกในไทย และจะมีรถเข้ามาเทรดเพื่อซื้อรถใหม่ ไม่เพียงเท่านั้นยังเตรียมนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ในงานอีเวนต์ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในความสนใจ แต่ต้องรอดูเวลา และเมื่อพร้อมก็จะนำเข้ามาปรับใช้

เรียกได้ว่าผู้บริหาร 2 พี่น้อง เตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์!! และทั้ง 2 ก็มีคติหรือมีแนวคิดที่ยึดมั่นถือมั่นในการดำเนินธุรกิจ โดยคุณปิ๊กเชื่อว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ส่วนคุณปุ๊กนั้น มองว่าทำให้ดีที่สุด และให้ความสำคัญกับทีมเวิร์ก เพราะการทำงานที่มีการรับฟังซึ่งกันและกัน ช่วยกันคิดช่วยกันทำจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้และยังทิ้งท้ายว่า ถ้าองค์กรเปรียบเสมือนต้นไม้ ก็อยากให้ต้นไม้ต้นนี้มีผลผลิตที่งอกเงยเต็มที่สามารถเลี้ยงดูคนในองค์กรได้อย่างดี และเป็นองค์กรที่มีประโยชน์ต่อสังคม มีการเติบโตที่ยั่งยืน!!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559