ก.ล.ต.เชือดอินไซด์หุ้นทิพยประกันภัย

29 ก.ค. 2559 | 06:00 น.
ก.ล.ต.ปรับผู้กระทำผิด 4 ราย เป็นเงนิ 8.6 ล้านบาท ข้อหาอินไซด์ขายหุ้นทิพยประกันภัย มีทั้งผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้เกี่ยวข้อง พร้อมปรับอดีตผู้บริหารบล.บีฟิทฯ ใช้ข้อมูลภายในชักชวนคนอื่นซื้อหุ้น

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบผู้กระทำผิด 4 ราย ได้แก่1) นายสมพร สืบถวิลกุล 2) บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) 3) นายนที พานิชชีวะและ 4) นายกีรติ พานิชชีวะ กรณีอาศัยข้อมูลภายในขายหุ้นบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)(บมจ.) (TIP) เป็นค่าปรับรวม 8.62 ล้านบาทนั้น

ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม 2555 ถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2555 ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ TIP อาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น TIP ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนเกี่ยวกับกรณีที่ TIP มีเหตุจำเป็นต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 250 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่มีแนวโน้มจะลดลงต่ำกว่าสัดส่วนที่กฎหมายประกันภัยกำหนด

โดยขายหุ้นเพื่อหลีกเลี่ยงผลขาดทุนจากการลดลงของราคาหุ้น หลัง TIP เปิดเผยข้อมูลนี้ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2555 เวลา 20.54 น. นายสมพร ล่วงรู้ข้อมูลภายใน หรืออินไซด์เดอร์ เทรดดิ้ง เนื่องจากเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ TIP ได้ขายหุ้นTIP ในวันที่ 28 สิงหาคม2555 และวันที่ 2 ตุลาคม 2555 รวมจำนวน 70,000 หุ้น

ขณะที่นายนที พานิชชีวะ ล่วงรู้ข้อมูลภายในเนื่องจากเป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยศรีประกันภัย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TIP (ขณะเกิดเหตุถือหุ้น 5.49 % ) ซึ่งนายนทีได้สั่งให้มีการขายหุ้น TIP ในบัญชี บมจ. ไทยศรีประกันภัยระหว่างวันที่13-28 กันยายน 2555 และระหว่างวันที่ 17-25 ตุลาคม 2555 รวมจำนวน 1,561,600 หุ้น

ส่วนนายกีรติ ได้ล่วงรู้ข้อมูลภายในข้างต้น เนื่องจากเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่งของTIP โดยนายกีรติได้ขายหุ้น TIP ในบัญชีส่วนตัวระหว่างวันที่ 3-26 ตุลาคม 2555 รวมจำนวน 576,000 หุ้น

การกระทำของนายสมพร บมจ. ไทยศรีประกันภัย นายนที และนายกีรติ เป็นความผิดตามมาตรา 241
ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบทางอาญา คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบ 1) นายสมพร เป็นเงิน 612,500 บาท 2) บมจ. ไทยศรีประกันภัย เป็นเงิน 703,487.50 บาท 3) นายนที เป็นเงิน 500,000 บาท และ 4) นายกีรติ เป็นเงิน6,802,843.75 บาท รวมเป็นค่าปรับทั้งสิ้น 8.62 ล้านบาท

นอกจากนี้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับ นายสาคร สุขศรีวงศ์ กรณีชักชวนให้บุคคลอื่นซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์(บล.) บีฟิท จำกัด (มหาชน) (BSEC) เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ทั้งนี้นายสาคร เป็นอดีตผู้บริหาร BSEC

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559