เร๊ดดี้ทูรี๊ด ผนึกพันธมิตรมาเลเซียทุ่มงบ 200 ล้านบาทลุยจัดงานมหกรรมหนังสือ Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 ครั้งแรกในประเทศไทย คาดมีผู้อ่านเข้าชมงานกว่า 2 แสนคน คาดหวังเป็นก้าวแรกให้คนไทยเริ่มพัฒนาภาษาอังกฤษ
[caption id="attachment_75672" align="aligncenter" width="374"] สุรเชษฐ วรวงศ์วสุ ผู้อำนวยการ บริษัท เร๊ดดี้ทูรี๊ด จำกัด ผู้จัดงาน Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016[/caption]
นายสุรเชษฐ วรวงศ์วสุ ผู้อำนวยการ บริษัท เร๊ดดี้ทูรี๊ด จำกัด ผู้จัดงาน Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เป็นครั้งแรกสำหรับประเทศไทยที่จะได้พบกับงานมหกรรมรวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษจากสำนักพิมพ์ทั่วโลก Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 หลากหลายรูปแบบทุกประเภทหนังสือจำนวนกว่า 2 ล้านเล่ม ซึ่งการจัดงานนี้บริษัทได้วางงบประมาณการจัด 200 ล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังจะมีผู้อ่านเข้าชมงานนี้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน หรือมีรายได้ราว 80% ของจำนวนยอดหนังสือที่นำเข้ามาในงานประมาณ 2 ล้านเล่ม
"บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาความรู้ผ่านทักษะด้านการอ่าน โดยเฉพาะหนังสือภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสำหรับการสื่อสารของคนทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งผมเชื่อมาตลอดว่า การแบ่งปันความรู้คือของขวัญล้ำค่าอันยั่งยืนที่ผู้ใหญ่จะสามารถมอบให้แก่เยาวชนได้ รวมถึงคนรุ่นเราเองก็ยังสามารถสนุกกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านหนังสือในแบบที่ชื่นชอบได้เช่นกัน ประจวบกับได้รู้จักเจ้าของโครงการและไปร่วมงาน Big Bad Wolf ที่ประเทศมาเลเซียซึ่งจัดยิ่งใหญ่มากจนกลายเป็นที่พูดถึงกันไปทั่วโลก จึงตัดสินใจนำเข้ากิจกรรมที่มีประโยชน์นี้มาสู่คนไทย"
สำหรับงานงาน “Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016” งานมหกรรมที่รวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษชั้นเยี่ยมจากสำนักพิมพ์ทั่วโลก หลากหลายรูปแบบทุกประเภทหนังสือ จำนวนกว่า 2 ล้านเล่มโดยเป็นหนังสือใหม่ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนำมาจำหน่ายให้คนรักหนังสือได้เป็นเจ้าของในราคาลดถึง 60 – 80% จากปกหนังสือหายากรวมถึงตัวอย่างหนังสือ Limited Edition ที่มีไม่กี่เล่มในโลกมาจัดแสดง อาทิ Steve Jobs by Walter Isaacson, Dan Nrown The Da Vinci Code ,Diary of a Wimpy Kid The third wheel เป็นต้น โดยภายในงานนี้หนังสือส่วนใหญ่เป็นหนังสือภาษาอังกฤษกว่า 90% ที่เหลือ 10% เป็นหนังสือแปล
มหกรรมหนังสือ Big Bad Wolf Book เกิดจากการที่ผู้ก่อตั้งชาวมาเลเซีย ได้มองเห็นปัญหาการขาดโอกาสด้านการอ่านและพัฒนาความรู้ภาษาอังกฤษที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย จึงตัดสินใจเดินทางไปยังสำนักพิมพ์ในหลายภูมิภาคเพื่อเจรจาขอซื้อหนังสือที่มีคุณภาพมาจัดงานเทศกาลหนังสือดีในราคาต่ำกว่าราคาปกถึง 80% โดยหวังจะเป็นจุดเล็กๆที่จะช่วยผลักดันให้ประชาชนที่ไม่ได้มีรายได้สูงนัก ได้เข้าถึงโอกาสในการศึกษาหาความรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ให้ก้าวทันโลกที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารอย่างในยุคปัจจุบัน