ทุ่ม200ล้านจัดงาน‘บิ๊กแบ๊ดวู๊ฟ’ มหกรรมหนังสือลดราคาสำนักพิมพ์ทั่วโลกกว่า2ล้านเล่ม

29 ก.ค. 2559 | 05:00 น.
เร๊ดดี้ทูรี๊ด ผนึกพันธมิตรมาเลเซียทุ่มงบ 200 ล้านบาทลุยจัดงานมหกรรมหนังสือ Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 ครั้งแรกในประเทศไทย คาดมีผู้อ่านเข้าชมงานกว่า 2 แสนคน คาดหวังเป็นก้าวแรกให้คนไทยเริ่มพัฒนาภาษาอังกฤษ

[caption id="attachment_75672" align="aligncenter" width="374"] สุรเชษฐ วรวงศ์วสุ ผู้อำนวยการ บริษัท เร๊ดดี้ทูรี๊ด จำกัด ผู้จัดงาน Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 สุรเชษฐ วรวงศ์วสุ ผู้อำนวยการ บริษัท เร๊ดดี้ทูรี๊ด จำกัด ผู้จัดงาน Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016[/caption]

นายสุรเชษฐ วรวงศ์วสุ ผู้อำนวยการ บริษัท เร๊ดดี้ทูรี๊ด จำกัด ผู้จัดงาน Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เป็นครั้งแรกสำหรับประเทศไทยที่จะได้พบกับงานมหกรรมรวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษจากสำนักพิมพ์ทั่วโลก Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 หลากหลายรูปแบบทุกประเภทหนังสือจำนวนกว่า 2 ล้านเล่ม ซึ่งการจัดงานนี้บริษัทได้วางงบประมาณการจัด 200 ล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังจะมีผู้อ่านเข้าชมงานนี้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน หรือมีรายได้ราว 80% ของจำนวนยอดหนังสือที่นำเข้ามาในงานประมาณ 2 ล้านเล่ม

"บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาความรู้ผ่านทักษะด้านการอ่าน โดยเฉพาะหนังสือภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสำหรับการสื่อสารของคนทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งผมเชื่อมาตลอดว่า การแบ่งปันความรู้คือของขวัญล้ำค่าอันยั่งยืนที่ผู้ใหญ่จะสามารถมอบให้แก่เยาวชนได้ รวมถึงคนรุ่นเราเองก็ยังสามารถสนุกกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านหนังสือในแบบที่ชื่นชอบได้เช่นกัน ประจวบกับได้รู้จักเจ้าของโครงการและไปร่วมงาน Big Bad Wolf ที่ประเทศมาเลเซียซึ่งจัดยิ่งใหญ่มากจนกลายเป็นที่พูดถึงกันไปทั่วโลก จึงตัดสินใจนำเข้ากิจกรรมที่มีประโยชน์นี้มาสู่คนไทย"

สำหรับงานงาน “Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016” งานมหกรรมที่รวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษชั้นเยี่ยมจากสำนักพิมพ์ทั่วโลก หลากหลายรูปแบบทุกประเภทหนังสือ จำนวนกว่า 2 ล้านเล่มโดยเป็นหนังสือใหม่ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนำมาจำหน่ายให้คนรักหนังสือได้เป็นเจ้าของในราคาลดถึง 60 – 80% จากปกหนังสือหายากรวมถึงตัวอย่างหนังสือ Limited Edition ที่มีไม่กี่เล่มในโลกมาจัดแสดง อาทิ Steve Jobs by Walter Isaacson, Dan Nrown The Da Vinci Code ,Diary of a Wimpy Kid The third wheel เป็นต้น โดยภายในงานนี้หนังสือส่วนใหญ่เป็นหนังสือภาษาอังกฤษกว่า 90% ที่เหลือ 10% เป็นหนังสือแปล

"อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่นักสะสมจะได้เป็นเจ้าของหนังสือหายากและหนังสือฉบับ Limited Edition ประเภทต่างๆ ที่มีเพียงไม่กี่เล่มในโลก ซึ่งงานนี้มีทั้งจำหน่ายให้แก่ผู้ที่ตามสะสมและประมูลเพื่อนำรายได้เข้าโครงการที่มีประโยชน์ต่อไป โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 21 สิงหาคม 2559 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานีอาคารฟอรั่ม หมายเลข 9 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. นอกจากนี้งานBig Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 จะเปิดจำหน่ายแบบ Non-stop 60 ชั่วโมงติดต่อกันในช่วงสุดสัปดาห์ของการจัดงานคือ วันที่ 12 – 14 และ วันที่ 19 – 21 สิงหาคม"

สำหรับในด้านของแผนการตลาดในปีแรกบริษัทจะเน้นการทำตลาดบนสื่อออนไลน์ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทพบว่ากลุ่มผู้อ่านส่วนใหญ่จะเสพสื่อบนโซเชียลมีเดียค่อนข้างมาก ซึ่งงบประมาณที่จะใช้สำหรับด้านการตลาด และประชาสัมพันธ์งานนี้บริษัทตั้งไว้อยู่ที่ประมาณ 1% ของยอดรายได้ ขณะเดียวกันจะร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุน เช่น ธนาคารกรุงเทพ.. เป็นต้นให้ช่วยประชาสัมพันธ์งาน ซึ่งบริษัทเชื่อว่าหากในปีแรกได้ผลการตอบรับที่ดี จะได้รับอานิสงค์จากการบอกต่อ(Word of Mouth) ในปีถัดไป

นอกจากนี้บริษัทมองว่ามหกรรมการอ่านครั้งนี้จะช่วยเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษและส่งเสริมให้คนไทยอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมากขึ้น ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นก้าวแรกที่จะช่วยส่งเสริมทักษะด้านภาษาอังกฤษให้คนไทย นอกจากนี้ภายในงานยังได้จัดตั้งโครงการ เร๊ด รี๊ดเดอร์ฮู๊ด(Red Readerhood) เพื่อแบ่งปันหนังสือสู่นักอ่านด้อยโอกาส โดยผู้ร่วมงานสามารถซื้อหนังสือภายในงานแล้วแจ้งความจำนงมอบเข้าโครงการฯ เมื่อรวบรวมได้จำนวน 1,000 เล่มหรือมากกว่าตามจำนวนจริงในวันสุดท้ายของงาน บริษัทจะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทรงแจกจ่ายในโครงการตามพระราชดำริต่อไป

มหกรรมหนังสือ Big Bad Wolf Book เกิดจากการที่ผู้ก่อตั้งชาวมาเลเซีย ได้มองเห็นปัญหาการขาดโอกาสด้านการอ่านและพัฒนาความรู้ภาษาอังกฤษที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย จึงตัดสินใจเดินทางไปยังสำนักพิมพ์ในหลายภูมิภาคเพื่อเจรจาขอซื้อหนังสือที่มีคุณภาพมาจัดงานเทศกาลหนังสือดีในราคาต่ำกว่าราคาปกถึง 80% โดยหวังจะเป็นจุดเล็กๆที่จะช่วยผลักดันให้ประชาชนที่ไม่ได้มีรายได้สูงนัก ได้เข้าถึงโอกาสในการศึกษาหาความรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ให้ก้าวทันโลกที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารอย่างในยุคปัจจุบัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559