‘สวิส แอร์’ทุ่มซื้อเครื่องบินใหม่/ยกระดับบริการ

29 ก.ค. 2559 | 10:00 น.
“สวิส แอร์” ลงทุน 5 พันล้านยูเอส ซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่รวม 39ลำยกระดับการให้บริการ ชูจุดเด่น“allergy-friendly” ของโลก ทั้งมั่นใจการนำเครื่องบินใหม่โบอิ้ง 777-300ERเข้ามาทำการบินในเส้นทางบินเข้ากรุงเทพฯช่วยรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 1 ใน 3 ด้านกลุ่มลุฟท์ฮันซ่าชี้การให้บริการของ 4 สายการบินในเครือ ทำให้กลุ่มลุฟท์ฮันซ่ากลายเป็นกลุ่มสายการบินสัญชาติยุโรปที่เป็นผู้นำในภูมิภาคนี้

นายปีเตอร์ พูลเลม รองประธานฝ่ายขายและการตลาดระหว่างประเทศของสายการบินสวิส เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า สายการบินสวิส (สายการบินในกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า) ได้เน้นสร้างจุดขายของสายการบิน ด้วยการลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งประกอบไปด้วย 1.การลงทุนราว 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1.75 แสนล้านบาท) สำหรับการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่รวม 39 ลำ ได้แก่ โบอิ้ง 777-300 ER จำนวน 9 ลำ และเครื่องบินโดยสารแบบบอมบาเดียร์ ซี ซีรีส์ จำนวน 30 ลำ สำหรับเส้นทางการบินพิสัยสั้น เพื่อยกระดับการให้บริการของสายการบิน และ 2. การให้บริการเลานจ์แห่งใหม่ที่ Dock E ณ สนามบินซูริก ซึ่งให้บริการพื้นที่เพื่อการผ่อนคลาย ที่ได้รับการตกแต่งอย่างทันสมัยและมีขนาดใหญ่ในเลานจ์สำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง เลานจ์สำหรับสมาชิกและผู้โดยสารชั้นธุรกิจเพี่อให้บริการผู้โดยสารระดับพรีเมียม

ทั้งนี้สายการบินให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ซึ่งทำให้เรากลายเป็นสายการบินที่ได้รับการรับรองว่าเป็นสายการบินที่ปลอดภัยในเชิง "allergy-friendly" ของโลก ด้วยคุณสมบัติ ระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง,ไม่มีสารใดๆเพื่อปรับอากาศ ซึ่งรบกวนระบบการหายใจของผู้โดยสาร,ห้องน้ำของเรามาพร้อมกับสบู่ไฮโปอัลเลอจิกสำหรับผิวแพ้ง่าย,มื้ออาหารพิเศษซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี,ผลิตภัณฑ์ที่ไร้ส่วนประกอบของแล็กโทสและกลูเท็น โดยเรายึดถือค่านิยมของสวิตเซอร์แลนด์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและให้บริการที่ดีที่สุดบนเที่ยวบิน

ส่วนแผนการให้บริการสำหรับเส้นทางบินสู่ประเทศไทย สายการบินสวิส มีแผนเปลี่ยนแปลงฝูงบินใหม่ โดยตั้งแต่เมื่อวันที่16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้นำเครื่องบินลำใหม่รุ่นโบอิ้ง 777-300ER ขนาด 340 ที่นั่ง แบ่งเป็น 8 ที่นั่งในห้องโดยสารชั้นหนึ่ง 62 ที่นั่งสำหรับชั้นธุรกิจ และอีก270 ที่นั่งเป็นชั้นประหยัด มาให้บริการแทนเครื่องบินแอร์บัส เอ340-300 ซึ่งจะทำให้เส้นทางบินกรุงเทพฯ-ซูริก มีความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 1 ใน 3 และสายการบินยังจะยังคงทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเพื่อโปรโมตประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในฐานะหนึ่งในจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่ดีที่สุด โดยความร่วมมือที่แข็งแกร่งครั้งนี้ได้แผ่ขยายไปทั่วโลก ไม่ใช่แต่เพียงในประเทศไทย

"การดำเนินธุรกิจของสายการบินสวิส สำหรับเส้นทางบินสู่ประเทศไทย ถือว่าได้บรรลุเป้าหมายการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากเป็นนโยบายของทางสายการบินฯ จึงไม่สามารถเผยข้อมูลรายละเอียดยอดขายและรายได้ของเราได้ สามารถบอกได้ว่าการเติบโตของสายการบินของเราเป็นไปอย่างมั่นคง ทั้งอัตราผู้โดยสารขาเข้าและขาออกในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา และการนำเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่ทั้งหมด และบริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สาย เข้ามาให้บริการล่าสุด ก็จะทำเราสามารถมอบความเป็นส่วนตัว ความสบาย พื้นที่กว้างขวางและความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสารได้มากขึ้น ในฐานะสายการบินประจำชาติของสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งสายการบินสวิสได้ผสมผสานค่านิยมดั้งเดิมของประเทศเอาไว้ และยังมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณภาพการบริการและผลิตภัณฑ์ในระดับสูงสุด" นายพูลเลม กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายเดิร์ก โกรสมันน์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า การให้บริการของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า สวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ สายการบินออสเตรียน และสายการบินยูโรวิงส์ ทำให้กลุ่มลุฟท์ฮันซ่ากลายเป็น กลุ่มสายการบินสัญชาติยุโรปที่เป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ สำหรับทวีปเอเชียแปซิฟิก กลุ่มลุฟท์ฮันซ่าได้ให้บริการบินไปยัง 19 จุดหมายปลายทางใน 6 ประเทศ โดยให้บริการเป็นจำนวน 235 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จากทวีปเอเชียแปซิฟิกไปยังทวีปยุโรป

ทั้งนี้ในปัจจุบัน (ณ ช่วงสิ้นฤดูร้อนของปี พ.ศ. 2559) สายการบินของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่าได้ให้บริการเที่ยวบินไปยัง 301 จุดหมายปลายทางใน 100 ประเทศใน 4 ทวีป โดยฝูงบินของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่าประกอบด้วยเครื่องบินราว 600 ลำ ซึ่งสายการบินในเครือแห่งต่างๆจะให้ทำการรับมอบเครื่องบินลำใหม่เป็นจำนวน 251 ลำในระหว่างปีนี้จนถึงปี พ.ศ. 2568 กลุ่มลุฟท์ฮันซ่ามีบุคลากรประมาณ 120,000 คนในปี พ.ศ. 2558 และได้ต้อนรับผู้โดยสารกว่า 107.7 ล้านคนบนเที่ยวบิน อีกทั้งได้สร้างยอดขายประมาณ 32.1 พันล้านยูโร และจากเกตเวย์ทั้ง 18 แห่งในทวีปเอเชียแปซิฟิก

ในส่วนการให้บริการเที่ยวบินจากซูริก เข้าไทย ของสายการบินสวิส ที่ได้นำเครื่องบินที่มีความสำคัญลำใหม่รุ่นโบอิ้ง 777-300ER มาให้บริการ ถือเป็นข่าวดีอีกครั้งของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่าในประเทศไทย หลังจากที่เราประสบความสำเร็จในการแนะนำสายการบินยูโรวิงส์ให้กับตลาดในประเทศไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว นี่ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่าเรามีการเติบโตและยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมั่งและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ และกรุงเทพฯยังคงเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญในเอเชียของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559