สนพ.จับมือ ส.อ.ท.ดึง SMEs ประหยัดพลังงานรับสิทธิประโยชน์ 4 เด้ง .

28 ก.ค. 2559 | 07:58 น.
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพลังงานได้จัดทำแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558 – 2579 (Energy Efficiency Plan :  EEP 2015) มีเป้าหมายลดความเข้มของการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ในปี พ.ศ. 2579  ซึ่งกำลังหลักสำคัญในการร่วมกันลดการใช้พลังงานของประเทศต้องเกิดจากความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน จากสถิติข้อมูลกรมโรงงานอุตสาหกรรม  ปี 2558 พบว่า มีผู้ประกอบการทั่วประเทศจำนวนมากถึง 140,000 แห่ง กว่าร้อยละ 80 เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยมีสัดส่วนการใช้พลังงานสูงถึงร้อยละ 35.9 ของการใช้พลังงาน ขั้นสุดท้ายทั้งหมดของประเทศ (ข้อมูลปี 2558) ด้วยเหตุนี้ สนพ. โดย กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จึงได้ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดทำโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม (Energy Points) เพื่อให้ SMEs ได้ทราบถึงแนวทางการดำเนินงานที่จะสามารถประหยัดพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน

ซึ่งโครงการฯ นี้ได้พัฒนาระบบจูงใจเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการดำเนินกิจกรรมการอนุรักษ์พลังงาน และสร้างความรู้ สร้างความเข้าใจ รวมทั้งสนับสนุนเงินลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรอุปกรณ์ เพื่อการประหยัดพลังงานทันที 30 % แต่ไม่เกิน 300,000 บาทต่อแห่ง ด้วยแนวทางการสะสมคะแนน Energy Points 4 ขั้นตอนอย่างง่าย เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ด้านพลังงาน โดยจะดำเนินการในพื้นที่ 18 กลุ่มจังหวัด และกรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ ไม่น้อยกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ หวังช่วยลดต้นทุนค่าไฟ 500,000 บาทต่อแห่งต่อปี ทั้งนี้คาดว่าผลการดำเนินของโครงการฯ จะมีผู้เชี่ยวชาญประจำพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ประกอบการในระยะยาว อีกทั้งผู้ประกอบการจะได้รับแนวทางการอนุรักษ์พลังงานและสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและจริงจัง ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมสามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมยังคงมีสัดส่วนการใช้พลังงานสูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลการสำรวจปัญหา และอุปสรรค ด้านการอนุรักษ์พลังงานของผู้ประกอบการ ผ่าน "โครงการศึกษาแนวทางการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมแต่ละภูมิภาค" พบว่า ส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการขาดแรงจูงใจในการดำเนินการอนุรักษ์พลังงาน เนื่องจากไม่ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง และเคยชินกับการมีผู้มาดำเนินการอนุรักษ์พลังงานให้ โดยเมื่อหมดระยะเวลาโครงการที่ได้รับการสนับสนุน ก็กลับไปดำเนินการแบบเดิมๆ ตามความเคยชินทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานแย่ลง อีกทั้งผู้ประกอบการอาจจะไม่ทราบแนวทางที่จะดำเนินการอนุรักษ์พลังงาน และไม่ทราบว่าจะขอคำแนะนำหรือหาความรู้ได้จากที่ไหนถ้าไม่มีโครงการจากภาครัฐ จากปัญหาดังกล่าว สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมฯ จึงเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะช่วยส่งเสริมและจูงใจให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมดำเนินการอนุรักษ์พลังงานได้ด้วยตนเอง และให้เริ่มตระหนักถึงความสำคัญการอนุรักษ์พลังงาน   โดยขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อดำเนินโครงการฯ

โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม (Energy Points) เป็นการสนับสนุนให้ SMEs เริ่มประหยัดพลังงานได้ด้วย 4 ขั้นตอนง่ายๆ ด้วยการสะสมคะแนน เรียกว่า Energy Points  โดยผู้ประกอบการสะสมคะแนนครบอย่างน้อย 3 คะแนน สามารถนำมาแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ด้านพลังงาน โดยเริ่มจากผู้บริหารประกาศนโยบายด้านพลังงาน รับทันทีคะแนนที่ 1 (Policy Point)   จากนั้นแต่งตั้งผู้ประสานงานดำเนินการด้านพลังงานในองค์กร รับคะแนนที่ 2 (Energy Man Point) และจัดทำแผนการอนุรักษ์พลังงานประจำปี รับคะแนนที่ 3 (Planning Point) ซึ่งในทุกๆ ขั้นตอนจะมีตัวอย่างแนวทางให้ SME สามารถนำไปศึกษาและปรับใช้กับตนเองตามความเหมาะสมได้

“ขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ มาร่วมกันช่วยชาติประหยัดพลังงาน โดยสามารถเริ่มสะสม Energy Points พร้อมกันได้ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2559 ถึงวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2559 นี้เท่านั้น โดยสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ www.energypoints.info สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eppo.go.th หรือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ www.iie.or.th และในวันที่ 5 – 7 สิงหาคม 2559 เวลา 10.00 – 20.00 น. พบกับ Energy Points สัญจร ในงานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 10 (Money Expo Korat 2016) ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ นครราชสีมา โดยประชาชนที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา และบริเวณใกล้เคียง” ดร.ทวารัฐ กล่าว